บุคคลที่ตายไปแล้ว เล่าให้ฟัง

 
chatchai.k
วันที่  13 พ.ย. 2566
หมายเลข  46952
อ่าน  501

ถ. บุคคลที่ตายไปแล้ว มาเล่าให้ฟัง เป็นผลรู้จากจุติจิตใช่หรือเปล่า

อ. สมพร ที่เขาบอกว่าตายนั้น ไม่ใช่ตายจริง เพราะว่าตายจะต้องมีจุติจิตเกิดขึ้น เพราะการสลบ บางทีก็สลบไปนานก็มี เพราะการสลบไม่ใช่ตาย ไม่ใช่จุติจิต เพราะว่ายังเป็นไปในปวัตติกาลอยู่ แต่ว่าสลบ คือ การสลบก็มีหลายลักษณะบางคน ต่างประเทศสลบตั้งนานหลายๆ ปีก็ยังมี เพราะฉะนั้น การสลบไม่ใช่ตาย แต่ว่าวิถีจิตก็ยังเกิดได้ เขาบอกว่ามีวิถีจิตเกิดได้ในชวนะ ๖ ชวนะคนสลบ คนตายใกล้ตายมี ๕ ขณะ โดยคนปกติก็มี ๗ ขณะส่วนมาก

ดังนั้นที่ว่า เขาบอกว่าตายไปแล้ว ๒ วัน ๓ วันแล้วก็ฟื้นขึ้นมามาเล่าให้ฟัง ไม่ใช่ การที่เป็นไปได้อย่างนั้นเหมือนเราฝัน เราหลับไปเราก็ฝันมา ตื่นขึ้นขึ้นมาเล่าเรื่องราวที่เราฝันว่าเราไปอย่างนั้นจริงๆ มีรูปร่าง มีตัวตน พบคนนั้นพบคนนี้อะไรต่างๆ นานา

การฝันอาจจะเกิดจากกรรมบันดาลก็ได้ เมื่อกรรมบันดาลส่วนมากก็มีจริง เหตุของฝันมี ๔ อย่าง ทีนี้ในเรื่องของตายไปแล้วฟื้นมา อาจจะเหมือนอย่างความฝัน กรรมบันดาลให้ปรากฏอย่างนั้นจริงๆ ถ้าเรื่องนั้นจริงก็เป็นเหตุของกรรมบันดาล เหมือนฝัน เรียกว่า บุพนิมิต เหมือนฝันแล้วเรามาเล่าให้ฟัง บางคนเขาเล่าอย่างนี้ เขาตายไป เขาไปนรก แล้วยมบาลก็บอกว่าคนนั้นจะตายในปีนั้น วันนั้น เดือนนั้น แล้วเขาก็ฟื้นขึ้นมาเล่าให้ฟัง ก็แบบเดียวทำนองที่ฝัน แต่ว่าฝันอย่างนั้นเป็นบุพนิมิต ถ้าตายจริง คนนั้นถึงเวลาตายจริง ก็เป็นเพราะบุพนิมิต กรรมบันดาลให้ทราบ ความฝันมีถึง ๔ อย่าง ของจริงเกิดจากกรรมเรียกว่า บุพนิมิต ก็เป็นโดยทำนองนี้ เพราะว่า ตายแล้วจะฟื้นเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าจุติจิตเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง แล้วก็ดับไปเลย เกิดขึ้นในภพใหม่ เรียกปฏิสนธิ

อ.สุจินต์ ถ้าศึกษาธรรมแล้ว คงจะทราบแน่นอน ใครก็ตามที่บอกว่าตายไปแล้วฟื้นขึ้นมา เข้าใจผิด เพราะว่าตายไม่ได้ ถ้าตายหมายความว่าจุติจิตเกิด คือ จิตขณะสุดท้ายของภพชาตินี้ ทำให้สิ้นสุดสภาพความเป็นบุคคลนี้ จะกลับมาเป็นบุคคลนี้อีกไม่ได้เลย ใครจะคิดว่า ตายไป ๕ วัน ๑๐ วัน ๓ วันหรืออะไรก็ตามแต่ แต่จุติจิตไม่ได้เกิด จะชื่อว่าตายไม่ได้ แต่ว่าอาจจะคิดเอาเองว่าตายไปแล้ว แต่ความจริงถ้าตายก็คือจุติจิตเกิด แล้วดับ แล้วสิ้นความเป็นสภาพบุคคลนี้ กลับมาเป็นบุคคลนี้อีกไม่ได้เลย

ที่มา ...

ปกิณณกธรรม ตอนที่ 144


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ