การทำแท้งอย่างถูกต้อง จะบาปมากน้อยอย่างไรครับ

กรณีดังกล่าวที่ท่านเล่ามาเข้าข่ายครบองค์ข้อปาณาติบาต (ฆ่ามนุษย์) เพราะมีการนับความเป็นมนุษย์เริ่มนับตั้งแต่ขณะแรกของปฏิสนธิจิต ส่วนใครจะเป็นปาณาติบาตอยู่ที่เจตนา ถ้าทุกคนเห็นร่วมกันและยินดีให้กระทำกรรมนั้นก็ได้ชื่อว่าร่วมกันกระทำ แต่สิ่งใดที่ผ่านไปแล้วย่อมเป็นอันผ่านไปแล้ว ควรกระทำวันนี้ให้ดีที่สุด ด้วยการเจริญกุศลทุกประการครับ

การทำแท้ง ไม่ว่าจะเป็นกรณีไหนก็บาปค่ะ คนที่แนะนำ หรือคนที่ยินดีด้วยกับการทำแท้งก็เป็นอกุศลจิต ในอดีตพระโพธิสัตว์เห็นคนจับปลาได้ ก็ยินดีไปกับเขาด้วย มาชาติสุดท้ายที่เป็นพระพุทธเจ้าก็ทรงปวดพระเศียร

มีเจตนาฆ่าก็บาป ไม่ว่าจะเกิดกับผู้ใดก็ตาม เพราะอกุศลก็คืออกุศลไม่เลือกบุคคล

ข้อมูลเพิ่มเติมครับ เท่าที่ทราบ ไม่มีใครสักคนยินดีที่จะทำแท้งเลย ไม่สบายใจ กันมากๆ ไปทำบุญถวายพระสะดุ้งมารมีการอธิฐานตามที่มีผู้แนะนำ เพราะกังวลว่าจิต วิญญานที่จะมาเกิดจะต้องมาค้างที่โลกมนุษย์ ถ้าไม่กลัวว่าเด็กจะเกิดมาไม่สมประกอบ เขาก็ไม่อยากทำ จึงปรึกษาคุณหมอ ปกติโรงพยาบาลของรัฐ ไม่ทำให้ง่ายๆ ครับ

หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เขา เพราะที่เราทำไปไม่ได้มีเจตนาในทางร้าย เพราะกลัวว่าเด็กเกิดมาไม่สมประกอบ กลัวเป็นภาระของสังคม ที่ทำได้ตอนนี้ คือ ท่านต้องทำดี ปฎิบัติตัวอยู่ในศีลในธรรม หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เขา อย่าไปติดกับอดีตครับ ต้องทำปัจจุบันให้ดีที่สุด คนเราสามารถทำผิดพลาดกันได้ครับ เพราะเป็นปุถุชน เป็นกำลังใจให้นะครับ

ถึงจะเป็น "การุณฆาต" ตามที่คนในสังคมเห็นพ้องต้องกันว่า ทำแท้งเพื่อรักษาชีวิตแม่ หรือเพื่อประโยชน์อะไรก็ตามที ด้วยความจำเป็นในเหตุผลต่างๆ แต่การจะเปลี่ยนชาติของอกุศลให้เป็นกุศล เป็นวิบาก หรือเป็นกริยา ไม่ได้แน่นอน ไม่ว่าจะอยู่ในภูมิใด ทั้งกามาวจรภูมิ รูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ อกุศลจะน้อยหรือจะมาก อกุศลก็ต้องเป็นอกุศล ถูกปรุงแต่งให้เกิดขึ้นด้วยสังขารธรรม ดับไปแล้วก็ยังมีการสั่งสมสืบต่ออีกครับ "ในกรณีของวิญญาณทารก"เมื่อปฏิสนธิจิตเกิดและดับไปแล้ว ภวังคจิตเกิดสืบต่อ ดำรงภพชาติทันที ต่อจากนั้นจะเป็นมโนทวารวิถีจิต ภวังคจิตหรือจุติจิต ที่จะเกิดขึ้นก่อนกัน เพียงพระสัพพัญญุตญาณของพระผู้มีพระภาคเท่านั้นที่จะทรงทราบได้ ที่รู้ได้ จากการศึกษาพระธรรม คือ ทารกนั้นหมดสิ้นความเป็นบุคคลในชาตินี้แล้วแน่นอน ไม่สามารถหนีชนกกรรมได้พ้น หลังจากจุติจิตดับไป ปฏิสนธิจิตก็เกิดสืบต่อทันที ต้องไปเกิดเป็นบุคคลใหม่ในอีกภพชาติหนึ่ง ซึ่งจะเกิดในภพชาติไหน เป็นอะไร ก็ขึ้นอยู่กับว่ามรณาสันวิถีจิต (ซึ่งเป็นจิตที่มีกำลังอ่อน) จะเป็นกุศลหรืออกุศล ครับ

"กรณีนี้จิตวิญญาณของเด็กถูกส่งมาแล้วหรือไม่"

ความจริง คือ จิตเกิดดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็ว มีสภาพเป็นอนัตตา จิตดวงหนึ่งๆ จึงถูกส่งไปจากแห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่งไม่ได้ ถ้าหมายถึง การเกิดดับสืบต่อกันของจิต ประเภทเดียวกันหรือต่างประเภทกันโดยเหตุปัจจัยต่างๆ จึงจะถูกครับ ถ้าแพทย์ได้ทำแท้งให้กับหญิงผู้ที่ตั้งท้องแล้ว จุติจิตเกิดกับทารกนั้นแล้วดับไป ทารกต้องเสียชีวิตแน่นอน เหลือก็เพียงแต่รูป คือ ก้อนเนื้อจากครรภ์ของผู้เป็นแม่เท่านั้น แต่ถ้าแพทย์ยัง ไม่ได้ทำแท้งให้และจุติจิตยังไม่เกิดกับทารกในครรภ์ ก็จะเป็นเพียงเจตนาที่จะกระทำอกุศลของผู้เป็นสามี ภรรยาและแพทย์ แต่ถ้าไม่ได้ล่วงออกมาทางกาย คือ ยังไม่ได้ ประทุษร้ายให้ถึงแก่ชีวิตโดยเจตนา ก็ยังไม่ถึงกับเป็นอกุศลกรรมบถ เพราะยังไม่ครบองค์ของปาณาติบาต พูดง่ายๆ คือ คิดจะฆ่าแต่ยังไม่ได้ฆ่านั่นเองครับ

อนุโมทนาค่ะ

เป็นเรื่องราวที่น่าเห็นใจจริงๆ ครับ เพราะอวิชชา คือความไม่รู้ (โมหะ) ก็เป็นเหตุให้ ทำอกุศลกรรมได้มาก และสิ่งที่ล่วงไปแล้ว ก็ไม่สามารถนำกลับมาแก้่ไขอะไรได้จริงๆ การฆ่าที่สำเร็จแล้ว จะด้วยความเข้าใจว่าอะไรก็ตาม ถ้ามีเจตนาให้สัตว์อื่นสิ้นชีวิต และกระทำสำเร็จสัตว์นั้นตกตายไป ก็ครบองค์ปาณาติบาต เป็นอกุศลกรรมบถเราต้องไม่ลืมเรื่องกรรมและผลของกรรม นั่นคือสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน คนอื่นๆ จะไปจัดสรรกรรมใดๆ ให้ใครไม่ได้ เราคิดว่าหวังดี แต่ถ้าไม่ได้ศึกษาให้ถ่องแท้ก็เป็นเหตุให้เข้าใจผิดคิดว่าสิ่งที่เป็นอกุศล เป็นสิ่งที่เป็นกุศลได้ ท่านได้ทำบุญ มาดีจึงมาถูกที่ มาถึงที่ที่มีการศึกษาพระธรรมคำสอนขององค์พระสัพพัญญู คือคำสอนของผู้รู้จริงเห็นจริงเมื่อสิ่งที่ล่วงแล้วเอาคืนไม่ได้ ทุกคนต่างก็เคยมีทั้งกรรมดีและกรรม ไม่ดีที่ได้ทำสำเร็จมาแล้วทั้งนั้น เมื่อได้ศึกษาพระธรรมคำสอนที่ถูกต้อง มีความเข้าใจ ตามความเป็นจริงเพิ่มขึ้น ก็จะเป็นปัจจัยให้เห็นโทษของกรรมไม่ดี เห็นประโยชน์ของกรรมดี จะค่อยๆ ละกรรมชั่ว แล้วค่อยๆ เจริญกรรมดี ตามกำลังความเข้าใจของแต่ละคน เมื่อเริ่มเข้าใจความจริงก็จะเป็นเหตุให้ยอมรับตามความเป็นจริงมากขึ้นตาม ลำดับ และก็จะบ่นว่าในสิ่งที่เกิดขึ้นที่เป็นผลของกรรมน้อยลงเพราะรู้ว่าไม่มีใครทำให้ แต่เป็นฝีมือของเราเองทั้งนั้น ตั้งแต่สมัยไหน เมื่อไหร่ ก็ไม่มีใครบอกได้ (เว้น พระพุทธเจ้า ถ้าในปัจจุบันมีใครบอกว่ารู้ผลของกรรมของใครๆ ก็พึงระวังว่าท่านนั้นตั้งตนเป็นพระพุทธเจ้าอีกพระองค์แล้ว) เมื่อองค์ประกอบทั้งหลายครบครันก็ให้ผลไม่ว่าจะดีหรือร้ายตามที่ได้ทำไว้แล้วนั่นเอง ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกประการ และครูโอก็ได้ให้คำแนะนำ "เรื่องวิญญาณ ทารก" ไว้แล้วครับ

ขออนุโมทนา

ขออนุโมทนาครับ 

ยินดีในกุศลจิตค่ะ