การเจริญสติ ไม่ใช่การบังคับสติ

 
บ้านธัมมะ
วันที่  8 ก.ค. 2566
หมายเลข  46206
อ่าน  149

เวลาที่ท่านผู้หนึ่งผู้ใดจะเจริญสติปัฏฐาน ในขณะที่รับประทานอาหาร การรับประทานอาหารก็เป็นปกติ ขณะที่กำลังพูดการพูดก็เป็นปกติ ขณะที่กำลังทำงานชนิดหนึ่งชนิดใดก็เป็นปกติ นี่จึงจะเป็นการเจริญสติ ไม่ใช่การบังคับสติ ทุกคนที่เจริญสติปัฏฐานไม่ต้องตามอย่างใคร ไม่ใช่ว่าคนหนึ่งทำอย่างไรๆ อีกคนก็ทำตามๆ กันไป โดยที่ไม่พิจารณาเหตุผล โดยที่ไม่รู้เหตุว่าทำอย่างนั้นเพราะอะไร ก็เป็นการฝืนอัธยาศัย ไม่ใช่เป็นการที่ว่ากำลังเห็นอะไร กำลังได้ยินอะไรอีกคนอาจจะไม่ได้ยิน แต่คนที่ได้ยินใส่ใจพิจารณารู้สภาพของเสียงก็ได้ รู้สภาพได้ยินก็ได้ ไม่ใช่ว่าจะต้องตามคนอื่น แล้วแต่ว่าแต่ละคนจะมี โลภะเกิด หรือโทสะเกิด หรือมีเมตตาจิตเกิด เจริญสติในชีวิตประจำวันซึ่งเป็นตัวของท่านเองจริงๆ เหมือนที่พระภิกษุในครั้งกระโน้น หรือว่าอุบาสกอุบาสิกาในครั้งกระโน้นได้เจริญสติปัฏฐานกัน ได้บรรลุมรรคผลกัน เพราะเหตุว่าบางท่านบอกว่าชาติหน้าเกิดเป็นผู้หญิงก็ดี จะได้เจริญสติปัฏฐานในชีวิตประจำวันได้ ไม่ว่าจะทำกับข้าว ซักผ้า หั่นผัก แกงต้ม อะไรก็แล้วแต่ก็จะเจริญสติได้ แต่ชีวิตของอุบาสกเจริญสติยากเพราะว่าเป็นเรื่องการงานที่จะต้องไปติดต่อกับคนโน้นคนนี้ ผู้นั้นลืมๆ คิดถึงพระเจ้าพิมพิสารซึ่งเป็นพระเจ้าแผ่นดิน แต่บรรลุมรรคผลได้ ลืมคิดถึงท่านอื่นๆ ในครั้งอดีต ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้าแผ่นดินหรือทาสทาสี ก็เจริญสติปัฏฐานได้ มีนามมีรูป มีการระลึกได้เมื่อไร ก็รู้ลักษณะของนามรูปเมื่อนั้นมากขึ้น ละคลายมากขึ้นจนกว่าปัญญานั้นจะสมบูรณ์ ไม่ใช่จำกัดว่าชีวิตของธุรกิจการงานยุ่งยากแล้วก็เลยเจริญสติปัฏฐานไม่ได้ ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 18

รับฟัง ... เจริญสติ ไม่ใช่การบังคับสติ


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ