สาธุสูตร

 
บ้านธัมมะ
วันที่  29 เม.ย. 2566
หมายเลข  45843
อ่าน  72

อีกสูตรหนึ่ง ใน สังยุตตนิกาย สคาถวรรค สาธุสูตร ที่ ๓ ข้อความบางประการมีว่า

ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้เปล่งอุทานนี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า

ข้าแต่พระองค์ผู้ไม่มีทุกข์ ทานยังประโยชน์ให้สำเร็จได้แล แม้เมื่อของมีอยู่น้อย ทานก็ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ อนึ่ง ทานที่ให้แม้ด้วยศรัทธา ก็ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวว่า ทานและการรบเสมอกัน

พวกวีรบุรุษแม้มีน้อย ย่อมชนะคนขลาดที่มากได้ ถ้าบุคคลเชื่ออยู่ ย่อมให้สิ่งของแม้น้อยได้ เพราะฉะนั้นแล ทายกนั้นย่อมเป็นผู้มีความสุขในโลกหน้า

ที่ว่า ทานยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ ก็เพราะเหตุว่าทานสามารถทำให้กำจัดหรือขจัดความตระหนี่ได้ ถ้ายังติด ยังผูกพันในวัตถุสิ่งของนั้น สละได้ไหม เพราะฉะนั้น ทานยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ คือ สามารถที่จะขจัดความตระหนี่ได้ในขณะที่ให้ครั้งหนึ่งๆ

นอกจากนั้นข้อความที่ว่า แม้เมื่อของมีอยู่น้อย ทานก็ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ ไม่จำเป็นต้องคิดหวังว่า วันหนึ่งจะให้ทานจำนวนมากมายใหญ่โต แม้แต่เพียงเล็กน้อยที่ให้เป็นประจำ ก็ยังสามารถที่จะขจัดความตระหนี่ หรือว่าความเกียจคร้านในการให้ เพราะเหตุว่าบางท่านก็มีกุศลจิตอยากจะให้ แต่รู้สึกลำบากที่จะให้ก็เลยไม่ให้ แต่ว่าขณะใดที่ให้ ขณะนั้นแม้ว่าจะเป็นของที่มีน้อยแต่ทานนั้นก็ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้

ข้อที่ว่า ทาน และการรบ เสมอกัน

บางทีคิดจะให้ เกิดความเสียดาย ให้ไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้น แล้วแต่ว่าจะเป็นฝ่ายวีรบุรุษ ซึ่งเป็นผู้ที่แม้ว่าจะมีน้อย แต่เพราะเป็นวีรบุรุษจึงสามารถที่จะชนะคนขลาด คือ อกุศลธรรม ความตระหนี่ที่มีมากได้

ข้อความต่อไปมีว่า

ในลำดับนั้นแหละ เทวดาอื่นอีก ได้เปล่งอุทานนี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า

ข้าแต่พระองค์ผู้ไม่มีทุกข์ ทานยังประโยชน์ให้สำเร็จได้แล แม้เมื่อของมีอยู่น้อย การให้ทานเป็นการดี อนึ่ง ทานที่ให้แม้ด้วยศรัทธาก็ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ อนึ่งทานที่ให้แก่บุคคลผู้มีธรรมอันได้แล้ว ยิ่งเป็นการดี

บุคคลใดเกิดมาย่อมให้ทานแก่ผู้มีธรรมอันได้แล้ว ผู้มีธรรมอันบรรลุแล้วด้วย ความหมั่นและความเพียร บุคคลนั้นล่วงพ้นนรกแห่งยมราช ย่อมเข้าถึงสภาพอันเป็นทิพย์

เรื่องของทานก็ประณีตขึ้น ละเอียดขึ้น แม้แต่การที่จะให้ก็ควรจะให้กับผู้ที่ถึง ธรรม หรือว่าบรรลุธรรมแล้ว

ข้อความใน สารัตถปกาสินี อธิบายว่า

ทาน การให้โภคทรัพย์อันได้แล้วโดยธรรมอันใดที่บุคคลให้แก่พระอริยบุคคลผู้ ได้ธรรมแล้ว การให้โภคทรัพย์นั้นนับว่าเป็นการยังประโยชน์ให้สำเร็จ ด้วยประการฉะนี้

ข้อความในพระไตรปิฎกต่อไปมีว่า

ในลำดับนั้นแหละ เทวดาอื่นอีก ได้เปล่งอุทานนี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า

ข้าแต่พระองค์ผู้ไม่มีทุกข์ ทานยังประโยชน์ให้สำเร็จได้แล แม้เมื่อของมีอยู่น้อย การให้ทานได้เป็นการดี ทานที่ให้แม้ด้วยศรัทธาก็ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ ทานที่ให้แก่บุคคลผู้มีธรรมอันได้แล้ว ยิ่งเป็นการดี

อนึ่ง ทานที่บุคคลเลือกให้ยิ่งเป็นการดี ทานที่เลือกให้ พระสุคตทรงสรรเสริญแล้ว บุคคลทั้งหลายผู้ควรแก่ทักษิณาย่อมมีอยู่ในโลก คือ หมู่สัตว์นี้ ทานทั้งหลายอันบุคคลให้แล้วในบุคคลทั้งหลายนั้น ย่อมมีผลมาก เหมือนพืชทั้งหลายที่บุคคลหว่านแล้วในนาดี

ข้อความใน สารัตถปกาสินี อรรถกถา อธิบายว่า

ข้อว่า วิเจยฺยทานํ คือ ทานที่วิจัยหรือพิจารณาแล้วจึงให้ ในคำนั้น การวิจัย คือ การพิจารณา คือ เลือก มี ๒ อย่าง คือ

การเลือกทักษิณาซึ่งเป็นของทำบุญ ๑ การเลือกทักขิไนย คือ บุคคลผู้รับ ๑

ในการเลือกให้ ๒ อย่างนั้น การที่บุคคลนำปัจจัยที่ลามกออกเสีย เลือกเอาปัจจัยที่ประณีตๆ แล้วให้ปัจจัยที่ประณีตๆ เหล่านั้น ชื่อว่า การเลือกทักษิณา

ข้อความต่อไป เรื่องการเลือกทักขิไนยบุคคล คือ บุคคลผู้รับ ใน สารัตถปกาสินีอรรถกถา อธิบายว่า

การละบุคคลผู้มีศีลวิบัติ ให้ทานแก่บรรพชิตในศาสนาผู้อุดมด้วยคุณ มีศีลเป็นต้น ชื่อว่า ทักขิไนยวิจัย

การเลือกให้มีได้ด้วยอาการทั้ง ๒ นี้ ก็พระผู้มีพระภาคตรัสการเลือกให้ทักษิณาด้วยคำนี้ว่า เหมือนพืชที่หว่านแล้วในนาดี ดังนี้

ประโยชน์จริงๆ ที่จะทำให้ดับภพชาติ หรือว่าดับทุกข์ทั้งปวงได้ ก็เพราะเหตุว่าผู้รับเป็นผู้ที่สามารถเกื้อกูลให้ประพฤติปฏิบัติในทางที่ถูกได้ ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 200

รับฟัง ... สาธุสูตร


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ