การละอภิชฌาและโทมนัส
ท่านผู้ฟังอยากจะละอภิชฌาและโทมนัสไหม เวลาเห็น เวลาได้ยิน จะต้องมีอภิชฌาหรือโทมนัสอย่างหนึ่งอย่างใด เวลาได้กลิ่น เวลารู้รส เวลารู้โผฏฐัพพะก็เช่น เดียวกัน บางครั้งหวั่นไหวเหลือเกิน เพลิดเพลิน ลืมไปหมดว่าเป็นแต่เพียงนามธรรมเป็นแต่เพียงรูปธรรมเท่านั้น ซึ่งการที่ท่านเจริญสติปัฏฐาน อบรมปัญญาเพี่อละอภิชฌาและโทมนัส เพื่อละกิเลสนั้น ท่านละอภิชฌาและโทมนัสเมื่อไร เวลาที่อภิชฌาไม่เกิดโทมนัสไม่เกิด หรือว่าเวลาที่เห็นและเกิดเพลิดเพลินด้วยอภิชฌา หลงใหลไป ยินดีในอารมณ์นั้นอย่างมาก
เพราะฉะนั้น ควรจะละด้วยสติที่ระลึกได้ และรู้ตามความเป็นจริงว่า ขณะนั้นเป็นแต่เพียงนามธรรมและรูปธรรมเท่านั้น ปกติชีวิตจริงๆ ของท่านที่เห็น ได้ยิน เกิดโทมนัส อยากจะละโทมนัสไหม ถ้าจะละก็เพราะสติเกิดขึ้น ระลึกรู้สภาพธรรม คือ ระลึกรู้ลักษณะของนามธรรม หรือรูปธรรมที่ปรากฏในขณะนั้น นี่คือการละอภิชฌาและโทมนัสเป็นปกติ
ใน สุมังคลวิลาสินี อธิบายว่า กำจัดอภิชฌาและโทมนัสแล้ว จึงเห็นกายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม
เพราะเหตุว่าปกติเป็นอภิชฌาและโทมนัส เพราะฉะนั้น ที่จะเห็นกายในกาย เพราะกำจัดอภิชฌาและโทมนัสด้วยสติที่ระลึกได้ รู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมในขณะนั้น เมื่อสติระลึกได้ จึงเห็นว่าเป็นกายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม แต่ถ้าสติไม่เกิด ระลึกไม่ได้ ขณะนั้นจะเห็นว่าเป็นกาย เป็นเวทนา เป็นจิต เป็นธรรมก็ไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องเจริญสติ เพื่อละอภิชฌาและโทมนัส
ถ้าท่านเจริญสติปัฏฐานเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ท่านจะละอภิชฌาและโทมนัสในขณะที่อภิชฌาและโทมนัสกำลังเกิด และสติระลึกได้ จึงรู้ว่าเป็นกาย เป็นเวทนา เป็นจิต เป็นธรรม นี่เป็นหนทางที่จะละ แต่ถ้าท่านไม่เจริญสติปัฏฐานอย่างนี้จะละได้อย่างไร หลงไป ก็ปล่อยให้หลงไป สติไม่เกิด อย่างนั้นหรือจะละอภิชฌาและโทมนัส ก็ปล่อยไปตามกระแสของอภิชฌาและโทมนัส แต่ผู้ที่อบรมเจริญสติปัฏฐาน เวลาที่แม้อภิชฌาหรือโทมนัสเกิดก็ระลึกได้ รู้ลักษณะที่ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ ตัวตนในขณะนั้น ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 237
รับฟัง ...

