ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๘๔

 
khampan.a
วันที่  30 ต.ค. 2565
หมายเลข  44936
อ่าน  1,076

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๘๔



~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรมแล้วๆ เล่าๆ ถึงสิ่งที่กำลังมีในขณะนี้ จนกว่าผู้นั้นจะเกิดปัญญา ทรงมีพระมหากรุณาอย่างยิ่ง เพราะเขาไม่รู้ เพราะฉะนั้น ก็ทรงแสดงโดยละเอียดโดยประการทั้งปวงสิ้นเชิง เพื่อเขาจะเข้าใจ เมื่อเขาเข้าใจแล้วเขาก็เป็นผู้ที่ปลอดโปร่งจากการหลงผิด

~ พระธรรมทั้งหมด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงให้เข้าใจสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ เท่าที่กำลังของสติปัญญาจะเข้าใจได้ และอบรมต่อไป เพราะคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำ เปลี่ยนไม่ได้เลย เป็นความจริงถึงที่สุด

~ ขณะที่อกุศลธรรมทั้งหลายเกิด ไม่สามารถทำให้เข้าใจธรรมได้ แต่ก็อย่าประมาทปัญญา เพราะว่า ขณะนี้กำลังเกิดปัญญา ท่ามกลางอกุศล อกุศลมากกว่าเยอะ แต่ปัญญาก็ยังเกิด เพราะฉะนั้น ปัญญาก็จะค่อยๆ เกิด ค่อยๆ เจริญขึ้น ไม่ใช่เราไปทำเลย เพราะฉะนั้น ขาดปัญญาไม่ได้ และปัญญาก็เกิดเองไม่ได้ นอกจากฟังพระธรรมและไตร่ตรองจนกระทั่งค่อยๆ เข้าใจขึ้น

~ ตั้งแต่เกิดจนตาย เป็นธรรมแต่ละหนึ่ง ทั้งหมด ไม่มีเรา ฟังพระธรรม เพื่อให้เข้าใจถูกต้อง เพราะถ้าไม่ฟัง ไม่มีโอกาสจะรู้ความจริงเลยว่าแท้ที่จริงแล้วไม่มีเรา แล้วก็อยู่ไปเรื่อยๆ ในสังสารวัฏฏ์โดยยึดถือสิ่งที่เกิดดับว่าเป็นเราไปเลย แต่ความจริงไม่ใช่เรา

~ การอบรมเจริญปัญญาตลอดชาตินี้ หรืออดีตชาติ หรือต่อๆ ไปในอนาคต อีกกี่ชาติก็ตาม จุดประสงค์ก็เพียงเพื่อจะให้รู้ชัดจนกระทั่งประจักษ์แจ้งในอรรถของคำว่า สภาพที่เป็นนามธรรมและรูปธรรม ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ไม่ว่าท่านจะอยู่ ณ ที่ไหนก็ตาม ภพไหนก็ตาม เป็นการเกิดขึ้นของนามธรรมและรูปธรรม แต่ละขณะ ตามความเป็นจริง

~ ถ้าไม่มีการฟังพระธรรม ย่อมไม่มีทางที่จะรู้โทษของการที่มีความไม่รู้ในสิ่งที่กำลังปรากฏจึงทำให้หลงพอใจ มาก จนกระทั่งเกิดความทุกข์เมื่อเกิดความพลัดพรากหรือไม่ได้ในสิ่งที่พอใจ จนกระทั่งเป็นเหตุให้กระทำทุจริตกรรม ร้ายแรงถึงกับว่าสามารถที่จะฆ่าคนอื่นได้ เอาทรัพย์ของคนอื่นมาเป็นของตน

~ มีใครรู้ว่าใครจะตายเมื่อไหร่? ตายเดี๋ยวนี้ได้ไหม? เพราะฉะนั้น ก่อนตายที่ยังมีชีวิตอยู่ มีชีวิตเพื่ออะไร? มีชีวิตที่เป็นประโยชน์ เมื่อไหร่ที่จะสามารถเป็นประโยชน์ได้ ทำทันที รอไม่ได้เลย เพราะเหตุว่า ใครจะรู้ว่าจะได้ทำหรือไม่ได้ทำ

~ กุศลเกิดยากกว่าอกุศลแน่นอน แต่อบรมบารมี (คุณความดีที่จะทำให้ถึงฝั่งของการดับกิเลส) ได้ เจริญบารมีได้ เมื่อมีความเข้าใจถูกทีละเล็กทีละน้อยสะสมไปเรื่อยๆ เพราะว่า ถ้ารู้จริงๆ ว่า เราสะสมอกุศลมามากเหลือเกิน ขณะใดที่เป็นกุศลจิตและทำกุศล ทำทันที เพื่อเป็นการสะสมจนกว่าจะมีกำลัง มิฉะนั้น โอกาสนั้นก็เป็นโอกาสของอกุศลต่อไปแล้วก็สะสมอกุศลต่อไปอีก

~ ไม่ว่าจะเห็นใครก็ตามที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก กำลังเจ็บป่วยด้วยโรคภัยต่างๆ หรือว่าเป็นผู้ที่พิการ หรือมีความทุกข์ความทรมานอย่างหนึ่งอย่างใด ให้ทราบว่า ทุกท่านเคยเป็นมาแล้ว ไม่ใช่ไม่เคย เพราะฉะนั้น ไม่ควรที่จะประมาท ไม่ควรที่จะดูหมิ่น หรือว่าไม่ควรที่จะนึกรังเกียจ แต่ควรที่จะเป็นคติให้ระลึกได้ว่า เคยเป็นอย่างนี้มาแล้ว และก็ไม่แน่ อาจจะเป็นอย่างนี้อีกก็ได้

~ เติมกุศลทุกวัน ก็คือ กุศลเกิดทุกวัน ถ้าไม่มีกุศลก็จะเติมอะไรในจิตก็ไม่ได้นอกจากอกุศล เพราะฉะนั้น แม้แต่คำว่าเติมกุศล ก็คือ มีกุศล ไม่ขาดกุศล แล้วก็เพิ่มขึ้นทุกโอกาสที่จะเป็นไปได้ ไม่ละเลย

~ ไม่มีใครสามารถที่จะบังคับบัญชาให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้นได้เลย ใครทำเห็นในขณะนี้ให้เกิดขึ้นได้บ้าง ใครทำได้ยินในขณะนี้ให้เกิดขึ้นได้บ้าง ใครทำโกรธให้เกิดขึ้นได้บ้าง ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย แม้แต่ปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูกในขณะนี้ ก็ต้องเกิดขึ้นมาจากเหตุ คือ การอบรมจากการมีโอกาสได้ฟังคำจริง ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง

~ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็คือ ต้องเป็นอย่างนั้น เพราะเหตุว่ามีปัจจัยที่ทำให้เกิดขึ้นแล้ว เห็นชัดว่า ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ก็มีความเข้าใจในความไม่เที่ยง ความไม่แน่นอน ความเป็นธรรมที่จะต้องเกิดดับไป โดยยับยั้งไม่ได้ เพราะจากขณะนี้ไป เราก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในชีวิต

~ ถ้าไม่มีความเข้าใจ อะไรจะทำให้ความไม่รู้และความเห็นผิดหมดไปได้

~ เริ่มเข้าใจถูกต้องว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงความจริงทุกขณะในชีวิตตามปกติ ให้มีความเข้าใจถูกต้องว่า ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่ใช่เรา แต่เป็นธรรมแต่ละหนึ่ง ซึ่งละเอียดและลึกซึ้ง

~ ต้องเป็นผู้ที่ไม่ประมาท แล้วก็เห็นโทษเห็นภัยของอกุศลจริงๆ ว่า ถ้าวันนี้ยังไม่เห็นโทษของอกุศลแม้เพียงเล็กน้อย วันต่อๆ ไป อกุศลก็ย่อมเพิ่มพูนขึ้น

~ การฟังพระธรรมมีประโยชน์มากมายมหาศาล การฟังเป็นความดี เป็นเหตุให้การฟังเจริญ เมื่อมีการฟังครั้งหนึ่งแล้ว ผู้ที่เห็นประโยชน์จะไม่หยุดอยู่แค่นี้ ก็จะมีความอดทนมีความเพียรที่จะฟังที่จะศึกษาต่อไปอันเป็นโอกาสที่มีค่าที่สุดสำหรับชีวิต ผู้ที่สะสมเหตุที่ดี มีศรัทธา เห็นประโยชน์ของการได้เข้าใจพระธรรมมาแล้วจึงมีโอกาสได้ฟังได้ศึกษา ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้ฟัง

~ ต้องเป็นคนดีจริงๆ เป็นคนเสียสละจริงๆ เป็นคนที่มุ่งมั่นจริงๆ ที่จะทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพราะว่า สิ่งใดก็ตามที่เป็นประโยชน์ แม้น้อย ก็เป็นประโยชน์

~ โกรธกับไม่โกรธอย่างไหนดี? เห็นโทษหรือยังว่าโกรธไม่ดีแน่ ไม่โกรธดีกว่า ถ้าเห็นประโยชน์จริงๆ ด้วยปัญญา ผู้นั้น ก็จะค่อยๆ ละคลายความโกรธและเห็นประโยชน์ของความสงบ มั่นคงในความสงบ

~ ใครจะเป็นอย่างไร มีความคิดเห็นอย่างไร กระทำทุจริตแค่ไหนระดับไหน ใจของเราไม่ขุ่นข้อง แต่ถ้าใจเราขุ่นข้อง ขณะนั้น ก็เป็นพาลอีกเหมือนกัน เรานั่นแหละที่เป็นพาล

~ เมื่อมีความเข้าใจถูกแล้ว คิดดี ทำดีกับทุกคน เพราะมีความเข้าใจถูกต้องว่า ไม่มีเราเลย มีแต่ธรรมที่ดีและธรรมที่ไม่ดี

~ ถ้าเข้าใจขึ้น ความคิดดีก็เพิ่มขึ้นจนกระทั่งสามารถที่จะรู้ว่า สิ่งที่มีค่าที่สุดในสังสารวัฏฏ์ คือ การที่ได้เข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังมีจริงๆ เดี๋ยวนี้

~ ปัญญา ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนเลย ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เมื่อใดก็ตาม



ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๘๓



...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
petsin.90
วันที่ 30 ต.ค. 2565

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Jans
วันที่ 30 ต.ค. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Junya
วันที่ 30 ต.ค. 2565

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง และกราบขอบพระคุณอาจารย์ มศพ. และอาจารย์คำปั่นมากค่ะที่แบ่งปันธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Lai
วันที่ 30 ต.ค. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์

สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และอนุโมทนาค่ะ คุณคำปั่น

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เจียมจิต สุขอินทร์
วันที่ 30 ต.ค. 2565

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
swanjariya
วันที่ 30 ต.ค. 2565

กราบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 30 ต.ค. 2565

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เมตตา
วันที่ 31 ต.ค. 2565

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
เมตตา
วันที่ 31 ต.ค. 2565

ขอบพระคุณ และยินดียิ่งในความดีของ อ.คำปั่น ด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เมตตา
วันที่ 31 ต.ค. 2565

ขอบพระคุณ และยินดีในความดีของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
jaturong
วันที่ 31 ต.ค. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
talaykwang
วันที่ 31 ต.ค. 2565

ขออนุโมทนาในกุศลค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
chatchai.k
วันที่ 31 ต.ค. 2565

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
kukeart
วันที่ 5 พ.ย. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
มังกรทอง
วันที่ 8 พ.ย. 2565

ขอน้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
เจียมจิต สุขอินทร์
วันที่ 9 พ.ย. 2565

อนุโมทนา ค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ