จงละเว้นการฉันโภชนะในเวลาวิกาลในราตรีนั้นเสียเถิด

 
chatchai.k
วันที่  2 ต.ค. 2565
หมายเลข  44478
อ่าน  136

ท่านพระอุทายีกราบทูลพระผู้มีพระภาคต่อไปว่า

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ได้มีสมัยที่พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาว่า ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เราขอเตือนเธอทั้งหลายจงละเว้นการฉันโภชนะในเวลาวิกาลในราตรีนั้นเสียเถิด ดังนี้

ข้าพระองค์นั้นมีความน้อยใจ มีความเสียใจว่า ความที่ภัตทั้ง ๒ นี้ของเราทั้งหลายเป็นของปรุงประณีตกว่าฉันใด พระผู้มีพระภาคตรัสการละอันนั้นของเราทั้งหลายเสียแล้ว พระสุคตตรัสการสละคืนอันนั้นของเราทั้งหลายเสียแล้ว

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เรื่องเคยมีมาแล้ว บุรุษคนใดได้ของสมควรจะแกงมาในเวลากลางวัน จึงบอกภริยาอย่างนี้ว่า เอาเถิดจงเก็บสิ่งนี้ไว้ เราทั้งหมดเทียวจักบริโภคพร้อมกันในเวลาเย็น อะไรๆ ทั้งหมดที่สำหรับจะปรุงกินย่อมมีรสในเวลากลางคืน กลางวันมีรสน้อย

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ทั้งหลายนั้นเห็นแก่ความรัก ความเคารพ ความละอาย และความเกรงกลัวในพระผู้มีพระภาค จึงพากันละการบริโภคโภชนะในเวลาวิกาลในราตรีนั้นเสีย ด้วยประการอย่างนี้

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เรื่องเคยมีแล้ว ภิกษุทั้งหลายเที่ยวไปบิณฑบาตในเวลามืดค่ำ ย่อมเข้าไปในบ่อน้ำครำบ้าง ลงไปในหลุมโสโครกบ้าง บุกเข้าไปยังป่าหนามบ้าง เหยียบขึ้นไปบนแม่โคกำลังหลับบ้าง พบกับโจรผู้ทำโจรกรรมแล้วบ้าง ยังไม่ได้ทำโจรกรรมบ้าง มาตุคามย่อมชักชวนภิกษุเหล่านั้นด้วยอสัทธรรมบ้าง

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เรื่องเคยมีมาแล้ว ข้าพระองค์เที่ยวบิณฑบาตในเวลามืดค่ำ หญิงคนหนึ่งล้างภาชนะอยู่ ได้เห็นข้าพระองค์โดยแสงฟ้าแลบ แล้วตกใจกลัวร้องเสียงดังว่า ความไม่เจริญได้มีแก่เราแล้ว ปีศาจจะมากินเราหนอ เมื่อหญิงนั้นกล่าวอย่างนั้นแล้ว ข้าพระองค์ได้พูดกับหญิงนั้นว่า ไม่ใช่ปีศาจดอกน้องหญิง เป็นภิกษุยืนเพื่อบิณฑบาต ดังนี้ หญิงนั้นกล่าวว่า บิดาของภิกษุตายเสียแล้ว มารดาของภิกษุตายเสียแล้ว ดูกร ภิกษุ ท่านเอามีดสำหรับเถือโคที่คม เชือดท้องเสียยังจะดีกว่าการที่ท่านเที่ยวบิณฑบาตในเวลาค่ำมืด เพราะเหตุแห่งท้องเช่นนี้ไม่ดีเลย ดังนี้

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อข้าพระองค์ระลึกถึงเรื่องนั้นอยู่ มีความคิดอย่างนี้ว่า

พระผู้มีพระภาคทรงนำธรรมอันเป็นเหตุแห่งทุกข์เป็นอันมากของเราทั้งหลายออกไปเสียได้หนอ

พระผู้มีพระภาคทรงนำธรรมอันเป็นเหตุแห่งสุขเป็นอันมากเข้าไปให้แก่เราทั้งหลายหนอ

พระผู้มีพระภาคทรงนำอกุศลธรรมเป็นอันมากของเราทั้งหลายออกไปเสียได้หนอ

พระผู้มีพระภาคทรงนำกุศลธรรมเป็นอันมากเข้าไปให้แก่เราทั้งหลายหนอ

พยัญชนะที่ท่านพระอุทายีกราบทูลพระผู้มีพระภาค ท่านผู้ที่เจริญสติจะรู้สึกซาบซึ้งในข้อความที่ท่านพระอุทายีกล่าว ซึ่งจะขอกล่าวถึงในภายหลัง

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

ก็อย่างนั้นแลอุทายี โมฆบุรุษบางพวกในธรรมวินัยนี้ เมื่อเรากล่าวว่า จงละโทษสิ่งนี้เสียเถิด เขากลับกล่าวอย่างนี้ว่า ทำไมจะต้องว่ากล่าวเพราะเหตุแห่งโทษเพียงเล็กน้อยนี่เล่า พระสมณะนี้ช่างขัดเกลาหนักไป เขาจึงไม่ละโทษนั้นด้วย ไม่เข้าไปตั้งความยำเกรงในเราด้วย

หมายความว่า เข้าไปตั้งความไม่ยำเกรงในพระผู้มีพระภาคด้วย

พระผู้มีพระภาคตรัสต่อไปว่า

ดูกร อุทายี อนึ่งโทษเพียงเล็กน้อยของภิกษุทั้งหลายผู้ใคร่ในสิกขานั้น ย่อมเป็นเครื่องผูกอันมีกำลังมั่น แน่นแฟ้น ไม่เปื่อย เป็นเหมือนท่อนไม้ใหญ่ ฐานะเพศของบรรพชิตกับฆราวาสนั้นต่างกัน ถ้าโทษแม้เพียงเล็กน้อยของผู้ที่อุปสมบทเป็นพระภิกษุมีอยู่ ย่อมเป็นเครื่องผูกที่มีกำลังมั่น แน่นแฟ้น ไม่เปื่อย เป็นเหมือนท่อนไม้ใหญ่ การที่จะรู้แจ้งอริยสัจธรรมย่อมเป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่เห็นโทษในสิ่งที่เป็นโทษในวินัยของพระอริยเจ้า


ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...

แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 144


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ