ปลิโพธประการสุดท้าย คือ อิทธิปลิโพธ กั้นการเจริญวิปัสสนา

 
chatchai.k
วันที่  14 ก.ย. 2565
หมายเลข  43849
อ่าน  235

มีความกังวลใจในที่อยู่ไหมในวันหนึ่งๆ วันนี้ตื่นเช้ามาก็ต้องปัดกวาดเช็ดถู ทุกๆ อย่างนั้นเป็นความกังวล ความห่วงใยในที่อยู่ เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ว่าเมื่อในพระไตรปิฎกมีแสดงไว้ว่า อาวาสปลิโพธ หรือกัมมปลิโพธ อัทธานปลิโพธก็จะกลายเป็นเรื่องอื่นไป ไม่ใช่ชีวิตประจำวัน

เพราะฉะนั้น ในปลิโพธที่เป็นเครื่องกังวลใหญ่ๆ ๑๐ ประการ ใน ๙ ประการนั้นไม่กั้นการเจริญสติปัฏฐาน ไม่ว่าจะเป็นความกังวลในที่อยู่ก็สามารถมีสติระลึกรู้ลักษณะของนามของรูปที่กำลังปรากฏในขณะนั้นได้ หรือว่าไม่ว่าจะเป็นในลาภปัจจัยที่ได้รับ เป็นนามเป็นรูปในชีวิตประจำวันทั้งนั้น มีอะไรบ้างในชีวิตประจำวัน ที่ใครค้นคว้าหาแล้ว ไม่ใช่นามไม่ใช่รูป แม้ในขณะนี้ เพราะฉะนั้น ก็ควรจะทราบไว้ว่า ธรรมที่ได้ทรงแสดงไว้ในพระไตรปิฎก ไม่ว่าจะเป็นไปในเรื่องใด หรือว่าในเรื่องของปลิโพธนั้น ก็เป็นชีวิตจริงๆ ของทุกๆ คน

ในปลิโพธใหญ่ๆ ๑๐ ประการ อาวาสปลิโพธ กุลปลิโพธ ลาภปลิโพธ คณปลิโพธ กัมมปลิโพธ อัทธานปลิโพธ ญาติปลิโพธ อาพาธปลิโพธ คันถปลิโพธ อิทธิปลิโพธ ปลิโพธ ๙ ประการไม่กั้นการเจริญวิปัสสนา แต่ประการสุดท้าย คือ อิทธิปลิโพธนั้นกั้นการเจริญวิปัสสนาได้ เพราะเหตุว่าปลิโพธนั้นเป็นความกังวลในการเจริญฤทธิ์

ทุกท่านก็คงจะทราบว่า การเจริญฤทธิ์ไม่ใช่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ถ้าท่านต้องการรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพารมณ์ ก็ยังจะหาได้ตามปกติ ไม่ต้องเสียเวลามาก แต่ในการเจริญฤทธิ์ ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ภายในวันเดียวหรือสองวัน ท่านต้องศึกษาการเจริญเหตุที่จะให้เกิดฤทธิ์โดยละเอียด คือ จะต้องศึกษาเรื่องของการเจริญสมถภาวนา และเมื่อศึกษาเข้าใจแล้ว ยังจะต้องพากเพียรที่จะให้เกิดฌานจิต ความสงบของจิตเป็นขั้นๆ ตั้งแต่ฌานจิตที่เป็นปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน ปัญจมฌาน แล้วก็ยังต้องต่อไปถึงอรูปฌานที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ จนกระทั่งได้ทั้งรูปฌานและอรูปฌานทั้งหมดแล้ว ก็ยังไม่สามารถที่จะแสดงฤทธิ์ได้ ที่จะสามารถแสดงฤทธิ์ได้นั้นจะต้องมีความชำนาญมาก มีวสี มีความแคล่วคล่อง แล้วแต่ว่าฤทธิ์ที่ท่านต้องการนั้นจะเป็นไปในทางใด จะเป็นไปในเรื่องของจักษุทิพย์ หรือว่าโสตทิพย์ หรือว่าการแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ต่างๆ นั่นก็ต้องฝึกหัดเจริญให้เกิดขึ้นแต่ละอย่างแต่ละทาง ซึ่งจะต้องใช้เวลานานมาก

เพราะฉะนั้น การเจริญสมาธิไม่ใช่การเจริญปัญญาเพื่อรู้แล้วละ แล้วคลายการยึดถือสภาพนามรูปว่าเป็นตัวตน แสดงให้เห็นว่า ถ้ายังต้องการเจริญฤทธิ์กั้นการเจริญวิปัสสนาได้ เพราะเหตุว่าเมื่อต้องการเจริญฤทธิ์ ก็จะต้องใช้ความเพียร ความฝักใฝ่ในความสงบมาก เมื่อมีความฝักใฝ่ในการเจริญฤทธิ์ สติก็ไม่ระลึกรู้ลักษณะของนามและรูปที่กำลังปรากฏในขณะนั้น


ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...

แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 67

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง ...

เรื่องของปลิโพธ ความกังวล ความห่วงใย


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ