ปกติกับผิดปกติ

 
บ้านธัมมะ
วันที่  8 ก.ย. 2565
หมายเลข  43758
อ่าน  386

ถ. ปกติกับผิดปกติ ลักษณะต่างกันอย่างไร ให้ยกตัวอย่าง

สุ. เวลานี้กำลังนั่ง ปกติไหม ถ้าท่านใดจะขัดสมาธิ เพราะเข้าใจว่า ต้องเจริญสติปัฏฐานด้วยอิริยาบถนั้น เป็นปกติไหม ทำขึ้นหรือเปล่า ทำขึ้นด้วยความต้องการแล้ว ปิดบังแล้ว ข้ามนามที่กำลังเห็น ที่กำลังได้ยิน สีที่กำลังปรากฏ เสียงที่กำลังปรากฏ หรือเย็น ร้อน อ่อน แข็ง ที่กำลังปรากฏ แต่ไปทำขึ้นแล้ว นิดเดียวเท่านี้ บังไว้แล้ว นี่ผิดปกติ แต่เมื่อเจริญสติแล้ว สติระลึกรู้ลักษณะของเห็น ของสี ของได้ยินหรือเสียง ของเย็นหรือร้อนที่กำลังปรากฏ แทนโลภะ โทสะ โมหะ เพราะคนหนึ่งนั่ง เห็น ได้ยิน คิดนึก โลภะ โทสะ โมหะ อีกคนหนึ่งนั่ง เห็น ได้ยิน สติรู้ลักษณะของเห็น ของได้ยิน หรือของคิดนึกที่กำลังปรากฏ

ผู้อื่นจึงรู้ไม่ได้ว่า ใครบรรลุมรรคผลเป็นพระอริยเจ้า นอกจากผู้มีปัญญาได้อภิญญา สามารถรู้วาระจิตของผู้อื่น เพราะฉะนั้น ผู้ที่ยังไม่ได้เจริญสติ ก็นั่ง นอน ยืน เดิน มาตั้งแต่เกิด รับประทานอาหาร เห็น ได้ยิน ขับรถยนต์ คิดนึก ทุกอย่าง ด้วยโลภะ ด้วยโทสะ ด้วยโมหะ ในขณะที่จิตไม่เป็นไปในทาน ไม่เป็นไปในศีล ไม่เป็นไปในภาวนา แต่ผู้เจริญสติปัฏฐานก็ทำทุกอย่าง เดิน ยืน นั่ง นอน คิดนึก ทำกิจการงาน ขับรถยนต์ ตามปกติ แทนที่จะเป็นโลภะ เป็นโทสะ เป็นโมหะ ก็เป็นสติที่ระลึกรู้ลักษณะของนามและรูปที่กำลังปรากฏ ที่ผู้อื่นไม่สามารถจะรู้ได้ แล้วแต่ว่าสติจะเกิดเมื่อไร มีความชำนาญ มีความแคล่วคล่อง เป็นพละ มีกำลัง ไม่ว่านามหรือรูปใดๆ สติปัญญาก็มั่นคง ไม่หวั่นไหว เป็นปัญญาพละ พิจารณานามและรูปที่กำลังปรากฏ ไม่ว่าจะอยู่ในที่ใด ไม่ว่าจะทำกิจการงานใด ถ้าเกิดปัญญาแล้ว ไม่ต้องกลัวว่า น่ารังเกียจหรือ เป็นโทษ นั่นไม่ใช่ปัญญา ซึ่งรู้ชัดในลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ ในขณะนั้นไม่เป็นโลภะ ไม่เป็นโทสะ ไม่เป็นโมหะ ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 43

รับฟัง ...

ปกติกับผิดปกติ ต่างกันอย่างไร


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ