อนาถบิณฑิกเศรษฐี

 
บ้านธัมมะ
วันที่  6 ก.ย. 2565
หมายเลข  43707
อ่าน  559

สำหรับท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีนั้น ท่านไม่เคยทูลถามปัญหาพระผู้มีพระภาคสักวันเดียว เพราะท่านคิดว่า พระตถาคตเจ้าเป็นพระพุทธเจ้าผู้ละเอียดอ่อน เป็นกษัตริย์ผู้ละเอียดอ่อน เมื่อทรงแสดงธรรมแก่เราด้วยเข้าพระหฤทัยว่า คฤหบดีมีอุปการะแก่เรามากดังนี้จะทรงลำบาก แล้วไม่ทูลถามปัญหาด้วยความรักในพระศาสดาเป็นอย่างยิ่ง นี่คืออุปนิสัยของอุบาสกอุบาสิกาแต่ละคน คือบางท่านด้วยความเคารพยำเกรงเลื่อมใสสัทธาในพระผู้มีพระภาค ไม่ถามปัญหาพระผู้มีพระภาคเลยสักครั้งเดียว ถึงแม้ว่าจะไปสู่ที่อุปัฎฐากพระผู้มีพระภาคถึงวันละ ๒ ครั้งก็ตาม

แต่พระศาสดานั้น เมื่อท่านเศรษฐีนั่งแล้ว ทรงพระพุทธดำริว่าเศรษฐีผู้นี้ รักษาเราในที่ไม่ควรรักษา เหตุว่าพระผู้มีพระภาคได้ทรงบำเพ็ญพระบารมีถึง ๔ อสงไขยแสนกัปป์นั้น ก็เพื่อแสดงธรรมแก่ผู้อื่นเท่านั้น ฉะนั้นอนาถบิณฑิกเศรษฐีรักษาพระผู้มีพระภาคในที่ไม่ควรรักษา ครั้นทรงพระพุทธดำริดังนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคตรัสพระธรรมเทศนาให้ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีฟัง กัณฑ์ ๑ เสมอ นี่ก็เป็นในครั้งอดีต บุคคลในครั้งอดีตนั้นถ้าจะใด้เห็นพระวิหารเชตวันก็ จะได้เห็น ศาลาโรงไฟต่างๆ ที่จงกรม เห็นพระผู้มีพระภาค เห็นพระภิกษุสงฆ์ เห็นกิจวัตร เห็นข้อประพฤติปฏิบัติของท่านในครั้งโน้น แต่ว่าในสมัยนี้พระเชตวันก็ยังเป็นสถานที่น่ารื่นรมย์ แต่ว่าผู้ที่เข้าไปก็ดี ออกมาก็ดี ผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมามีจักษุวิญญาณ มีโสตวิญญาณที่จะเห็นพระเชตวันในครั้งนี้ ก็อาจจะไม่ได้เป็นผู้ที่รู้ลักษณะของการเห็น รู้ลักษณะของการได้ยิน รู้ลักษณะของเย็น ร้อน อ่อนแข็งที่กำลังปรากฏในขณะนั้น เหมือนผู้ที่เข้าออก ณ พระเชตวันในครั้งกระโน้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นภิกษุ ภิกษุณี หรือว่าอุบาสก อุบาสิกา ท่านเหล่านั้นฟังธรรมและเจริญสติปัฏฐาน รู้ลักษณะของธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนั้น แล้วแต่ว่าท่านจะเจริญกันมากน้อยนานเท่าไร จึงจะบรรลุมรรคผล นี่ก็เป็นเรื่องที่ท่านก็ควรที่จะได้ทราบถึงอดีตของสถานที่ของบุคคล เพื่อเทียบเคียงกับข้อปฏิบัติ และสำหรับพระวิหารเชตวัน นั้น เมื่อท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีท่านสร้างแล้ว ก็เป็นสถานที่ที่ทำให้ท่านเกิดความปิติเป็นอันมาก ถึงแม้ว่าท่านจะได้สิ้นชีวิตไปแล้ว และเกิดเป็นเทพบุตรในชั้นดุสิต ท่านก็ได้มาเฝ้าพระผู้มีพระภาค ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 26

รับฟัง ... ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ