ความหวัง

 
gavajidham
วันที่  23 ก.ค. 2550
หมายเลข  4341
อ่าน  1,619

ความหวังเป็นความทุกข์หรือไม่


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 23 ก.ค. 2550

ความหวังเที่ยงหรือไม่เที่ยง?

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ajarnkruo
วันที่ 23 ก.ค. 2550
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ตุลา
วันที่ 23 ก.ค. 2550

ขอบูชาคุณพระรัตนตรัย

ความหวังเป็นโลภะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิเลส ใช่ไหมค่ะ?

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
study
วันที่ 23 ก.ค. 2550

ความหวังเป็นชื่อของกิเลสประเภทหนึ่ง คือโลภะ

โลภเจตสิกเมื่อกล่าวโดยนัยของอริยสัจ ๔ โลภ (ตัณหา) เป็นเหตุของทุกข์ คือเป็นสมุทัย

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 23 ก.ค. 2550

ถ้าเราทำความดี หรือดีกับใคร เราก็ไม่ต้องหวังว่าเขาจะดีกับเรา เหมือนอย่างที่เราดีกับเขา เพราะถ้าเราหวัง ความผิดหวังก็รอเราอยู่แล้วข้างหน้า ทำดีที่สุดแล้วไม่หวังค่ะ เช่น พ่อ แม่ มีลูกหลายคน เราก็ไม่ต้องสนใจว่าพ่อแม่จะรักเรามากหรือน้อย แต่เราก็ทดแทนคุณท่านและทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ ความหวังเป็นกิเลสนำมาซึ่งความทุกข์ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 23 ก.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ความหวัง ตามปกติทั่วไป หมายถึง โลภะ ความหวังหรือโลภะ ย่อมนำมาซึ่งทุกข์ เมื่อไม่หวัง ไม่ต้องการ ก็ไม่ทุกข์ ขณะที่เราหวังสิ่งใด แต่สิ่งนั้นมีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ไม่เที่ยง เราก็ต้องทุกข์เพราะสิ่งนั้นเพราะความพลัดพรากอันเนื่องมาจากความไม่เที่ยง ที่ทุกข์เพราะหวังเพราะต้องการ ติดข้องในสิ่งนั้น ทุกๆ วันมีคนเสียชีวิตมากมาย แต่เราไม่ทุกข์เพราะคนที่เสียชีวิตเพราะเราไม่หวัง ไม่ติดข้องต้องการในสิ่งนั้นครับ ตราบใดที่ยังหวังเพราะโลภะ ก็ต้องเป็นทุกข์เพราะสิ่งๆ ต่างๆ ไม่เที่ยง มีความแปรปรวนเป็นธรรมดาครับ ความหวังเป็นทั้ง โลภะด้วย และก็เป็นฉันทะที่ไม่เป็นโลภะด้วยครับ ลองอ่านข้อความในพระไตรปิฎกเรื่อง เมื่อไม่มีกิเลสก็ไม่หวัง (หวังที่เป็นโลภะ) และเรื่อง ความหวังที่เป็นฉันทะครับ ลองอ่านดูนะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 23 ก.ค. 2550
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 23 ก.ค. 2550
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 23 ก.ค. 2550
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
namarupa
วันที่ 23 ก.ค. 2550

ความหวังเป็นความทุกข์หรือไม่
พระพุทธองค์ทรงแสดงว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีการเกิดและดับ ย่อมเป็นความทุกข์อย่างแน่นอน

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
prakaimuk.k
วันที่ 24 ก.ค. 2550

พระสูตรข้างต้นที่ว่า ด้วยหวังว่า " พวกเราจักหลุดพ้นจากกิเลส มีราคะเป็นต้น

ก่อนกว่าดอกไม้ทั้งหลายหลุดจากขั้ว" ...

ความหวังที่เป็นฉันทะดังนี้ เป็นอธิษฐานบารมีด้วยหรือไม่คะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
wannee.s
วันที่ 24 ก.ค. 2550

ฉันทะเป็นกุศลก็ได้ เป็นอกุศลก็ได้ ไม่เหมือนโลภะ เป็นอกุศลแน่นอน

ฉันทะที่เป็นไปในกุศลคือ มีความตั้งใจแน่วแน่ (อธิษฐาน) ในการบำเพ็ญบารมีเพื่อดับกิเลส

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 24 ก.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

จากความเห็นที่ 11 การจะเป็นบารมีหรือไม่เป็นบารมีนั้น ขึ้นอยู่กับปัญญาเป็นสำคัญ ถ้าไม่มีปัญญาแล้ว (ปัญญาบารมี) ก็ไม่ใช่บารมีเลย ไม่ว่าจะเป็นการทำกุศลขั้นใด ถ้าไม่มีปัญญาก็ไม่เป็นบารมี แล้วปัญญาอย่างไรจึงเป็นบารมี ปัญญาที่เห็นโทษของกิเลสและสังสารวัฏฏ์จึงทำกุศลเพื่อออกจากวัฏฏ หรือการเข้าใจหนทางการดับกิเลส (ปัญญา) เมื่ออบรมปัญญาหรือมีความตั้งใจในการประพฤติปฏิบัติ โดยมีความเข้าใจหนทางการดับกิเลส (สติปัฏฐาน) ก็เป็นความตั้งใจที่เป็น อธิษฐานบารมีเพราะ เข้าใจหนทางดับกิเลส ต่างกับคนที่ไม่เข้าใจหนทางหรือเข้าใจผิด แม้จะมีความตั้งใจที่ประพฤติปฏิบัติ ก็ไม่เป็นอธิษฐานบารมีเพราะ ปฏิบัติผิด เข้าใจผิด ตั้งใจผิด ก็ไม่ถึงฝั่งคือ ดับกิเลสจึงไม่เป็นบารมีครับ ดังนั้น จะเป็นบารมีหรือไม่เป็น ในพระสูตรที่ให้ประพฤติดับกิเลสเหมือน ... ถ้าเข้าใจหนทาง (สติปัฏฐาน) ความตั้งใจ เป็นฉันทะ ก็เป็นอธิษฐานบารมีแต่ถ้าไม่เข้าใจหนทางก็ ... ... ดังนั้น จะเป็นบารมีหรือไม่เป็นบารมี ต้องประกอบด้วยปัญญาเสมอ

ขออนุโมทนาครับ ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
pornchai.s
วันที่ 24 ก.ค. 2550

บารมีทั้ง ๑๐ ประการ มีปัญญาบารมี เป็นประธาน เป็นหัวหน้า ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
ตุลา
วันที่ 26 ก.ค. 2550

ด้วยความขอบคุณ ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
gavajidham
วันที่ 12 ส.ค. 2550

มีคำพูดที่ได้ยินอยู่เสมอว่าจงอยู่อย่างมีความหวัง, ชีวิตนี้ยังมีหวัง, ชีวิตที่ปราศจากความหวังย่อมไม่ต่างอะไรกับ ... อื่นๆ อีก บุคคลที่กล่าวเช่นนี้ในสังคมมีเป็นจำนวนมากเขามีความหมายถึงอะไร เข้าใจถูกต้องเพียงใด, อธิษฐาน, บารมีสองคำนี้เป็นกุศลเจตสิกหรืออย่างไร

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
wannee.s
วันที่ 12 ส.ค. 2550

เคยอ่านพระไตรปิฏก ที่เปรตกล่าวกับหลานของตัวเองที่ถูกพระราชาลงโทษด้วยการเสียบหลาว เปรตจะมาให้กำลังใจด้วยการกล่าวว่า จงมีชีวิตอยู่เถิด เพราะการมีชีวิตอยู่ประเสริฐ ภายหลังพระราชาก็ได้ปล่อยบุรุษที่ถูกเสียบหลาว บุรุษที่เป็นหลานของเปรตก็สลดในผลกรรมจึงออกบวช และได้บรรลุ มรรค ผล นิพพานค่ะ อธิษฐาน คือความตั้งใจมั่น เป็นความมั่นคงของกุศลที่ค่อยๆ เจริญขึ้นค่ะ บารมี คือ ธรรมะที่ทำให้ถึงฝั่งพระนิพพาน อธิษฐาน ก็เป็นหนึ่งในบารมี ๑๐ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
gavajidham
วันที่ 21 ส.ค. 2550

ในความเห็นที่ 16 ช่วยตอบให้ตรงคำถามได้ไหมครับ อย่าพยายามตอบแบบเลี่ยงๆ เหมือนที่เคยตอบเลย เป็นท่านอื่นตอบก็ได้

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 21 ส.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัยจากความเห็นที่ 16

ตามธรรมดาแล้วปุถุชน ยังมีกิเลสอยู่มาก ยังมีความต้องการ มีโลภะ ยินดี ติดข้องในรูปเสียง..ทรัพย์สิน เงินทองและความสุขที่เป็นสุขกาย และสุขใจ ดังนั้นเป้าหมายของชีวิตก็เพื่อนำไปสู่ การได้รูป เสียง..เงินทองและความสุขใจอันเกิดจากความสำเร็จ เป็นต้น ดังนั้นจากคำกล่าวข้างต้นที่ว่าจงอยู่อย่างมีความหวัง ... ถ้าไม่มีความหวังก็ไม่ต่างอะไรจาก ... ซึ่งจริงแล้ว ก็เป็นความต้องการ โลภะที่หวัง แต่คนส่วนมากไม่รู้ว่าเป็นอกุศล แต่ถ้าไม่มีความหวังที่เป็นโลภะแล้ว จะมีชีวิตอยู่ด้วยอะไร ก็อยู่ด้วยปัญญาด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องในความเป็นจริง โดยไม่ต้องทุกข์เพราะความหวังที่เป็นโลภะ เพราะไม่มีความหวังแล้วครับ ส่วนอธิษฐานและบารมี เป็นสภาพธัมมะที่เป็นฝ่ายดี อธิษฐานคือ ความตั้งใจมั่นในสิ่งที่ดี เช่น ในการเจริญกุศลหรือขัดเกลากิเลส เป็นต้น

ส่วน บารมี เป็นคุณธรรม มี ๑๐ ประการ ที่จะทำให้ถึงพระนิพพานและดับกิเลสครับ ซึ่งอธิษฐาน มีหลายอย่าง แต่ก็เป็นธรรมฝ่ายดี เป็นต้น ลองอ่านดูนะ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 21 ส.ค. 2550

เรื่อง อธิษฐานบารมี

เชิญคลิกอ่านที่นี่

อธิษฐานธรรม[ปกิณณกกถา] ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
olive
วันที่ 22 ส.ค. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 22  
 
Sam
วันที่ 22 ส.ค. 2550

ผมเพิ่งได้อ่านหนังสือเล่มใหม่ของมูลนิธิฯครับ ชื่อ มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา ซึ่งมีข้อความตอบคำถามที่ว่า หากไม่มีชีวิตอยู่ด้วยความหวังแล้ว จะอยู่ด้วยอะไร ท่าน

อาจารย์สุจินต์ก็กรุณาตอบว่า "..มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา.." เป็นคำตอบที่สั้นและมีความหมายลึกซึ้งจริงๆ และทำให้เห็นว่า ความคิดเห็นของชาวโลก เป็นปฏิปักษ์ต่อคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจริงๆ หากพระองค์ไม่ทรงตรัสรู้และทรงแสดงธรรมแล้วไซร้ เราก็คงต้องไหลไปตามกระแสของโลกที่ส่วนใหญ่นิยมกัน ซึ่งไม่มีที่สิ้นสุดและวนเวียนกลับไปกลับมา ไม่มีวันพบทางดับความทุกข์ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 23  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 28 ก.ย. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ