ไม่ประมาทแม้กุศลเพียงเล็กน้อย

 
khampan.a
วันที่  22 เม.ย. 2565
หมายเลข  43034
อ่าน  531

หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ
(ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)
[๖๙๒]

ไม่ประมาทแม้กุศลเพียงเล็กน้อย


ถ้าไม่มีฉันทะ จะสนทนาธรรมเพื่อความเข้าใจกันไหม? ขณะใดที่กุศลไม่เกิด ขณะนั้นอกุศลเกิด เพราะฉะนั้น ไม่ประมาทแม้กุศลเพียงเล็กน้อย เป็นผู้ที่เห็นประโยชน์ไหมว่าการที่จะให้กุศลทั้งหลายเจริญงอกงามขึ้น ไพบูลย์ขึ้น จนสามารถที่จะมีกำลังพอที่จะดับอกุศลได้ ต้องระดับไหน? จะขาดโพธิปักขิยธรรม (ธรรมที่เป็นฝักฝ่ายแห่งการตรัสรู้) ได้ไหม? ต้องมีความมั่นคงในการที่จะมีฉันทะพอใจที่จะได้รู้ความจริง ความจริงคือขณะนี้กำลังเกิดดับ จะเพียงพอเพียงแค่ฟังเรื่องราวเท่านั้นหรือ หรือว่าความจริงขณะนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงหนทางที่จะให้มั่นคงเจริญ จนกระทั่งสามารถที่จะละความไม่รู้ ดับความเห็นผิดได้

ถ้าไม่เข้าใจจริงๆ ก็ฟังเผินๆ คิดว่าเข้าใจแล้ว แต่ไม่รู้หรอกว่าความไม่รู้มากแค่ไหน รู้ได้เลยเดี๋ยวนี้นั่นเองที่ไม่รู้ แล้วต่อๆ ไปอีกทั้งวัน รู้หรือเปล่า? ก็แสดงให้เห็นว่าความไม่รู้มากแค่ไหน แต่ก็มีฉันทะความพอใจเห็นประโยชน์จริงๆ ของการที่ “รู้ต้องดีกว่าไม่รู้แน่” เพราะกว่าจะรู้ได้ไม่ง่าย แต่รู้ได้ แต่ไม่ง่าย เห็นไหม? ฉันทะมีแล้ว ที่จะรู้ความละเอียดลึกซึ้งที่จะประคองจิตไม่ให้ตกไปในทางฝ่ายที่เป็นอกุศล

เพราะฉะนั้น ชีวิตประจำวันถ้ายังคงเป็นอกุศลอยู่เสมอ ก็ยากที่จะสามารถรู้ความจริงได้เพราะว่าทุกคนมีโลภะ มีโทสะ แทบจะกล่าวได้ว่าทั้งวัน ถ้าขณะนั้นไม่เป็นกุศล ขณะนั้นที่กำลังโกรธ เคยเห็นโทษขณะนั้นไหม แล้วคิดว่าไม่ควรจะมีไหม ควรจะภาวนาอบรมความไม่โกรธขึ้นไหม เห็นไหม? ไม่ใช่ขณะอื่นที่จะไปพยายามอย่างอื่น ชีวิตประจำวันนี่แหละ รู้ความจริงว่าควรจะเป็นอย่างไร

เพราะฉะนั้น โพธิปักขิยธรรม ธรรมที่จะเป็นฝ่ายที่จะทำให้ปัญญาเจริญขึ้นจนสามารถที่จะรู้ความจริงและดับกิเลสได้ จะขาดสิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้เลย ในชีวิตประจำวันนี่แหละ กำลังรับประทานอาหารติดข้องมากไหม ต้องสิ่งนั้นต้องอย่างนี้ต้องเติมนั่นต้องใส่นี่ ไหนล่ะสัมมัปปธาน (ความเพียรที่ตั้งไว้โดยชอบ) ขณะนั้นเป็นอกุศลไม่ใช่หรือ แล้วจะละอกุศลหรือเปล่า? แต่ว่าไม่ใช่เป็นไปได้ตามใจชอบ เพราะฟังมาต่างหาก มีความมั่นคงที่ขณะนั้นเกิดขึ้นระลึกได้ เป็นปัจจัยที่ได้เข้าใจมาแล้ว จึงค่อยๆ รู้ว่าไม่มีประโยชน์เลยที่จะติดข้องอย่างมากๆ ต้องอร่อยปานนั้นหรือต้องทำอย่างนี้อย่างนั้น ใครจะทำก็ทำไปใช่ไหม แต่ว่าความติดข้องยังมี แต่ก็อย่าให้ถึงขนาดที่ว่าสะสมเพิ่มขึ้นๆ ๆ ไม่รู้จบสิ้น ก็เห็นโทษ แล้วก็เห็นคุณว่าถ้าไม่ทำอะไรที่มากมายก็ไม่เดือดร้อน ไม่เป็นการที่จะต้องกระวนกระวายที่จะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ หรือแม้แต่ขณะที่ไม่พอใจ เห็นโทษ แล้วก็ความไม่พอใจขณะนั้น ก็ไม่มีปัจจัยที่จะเกิดต่อไปให้มากมาย ขณะนั้นก็เป็นการละอกุศลที่เกิดแล้ว


กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 22 เม.ย. 2565

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
เข้าใจ
วันที่ 23 เม.ย. 2565

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 23 เม.ย. 2565

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เมตตา
วันที่ 24 เม.ย. 2565

กราบยินดีในความดีค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ