สมาทานศีลแล้วศีลขาด

 
domo
วันที่  10 ก.ค. 2550
หมายเลข  4234
อ่าน  3,718

สมาทานศีลแล้วศีลขาด ต้องสมาทานใหม่ทุกข้อหรือเฉพาะข้อที่ขาดก็ได้คะ ไม่เข้าใจวิธีการสมาทานศีลที่ถูกต้อง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 13 ก.ค. 2550

การสมาทานศีลถ้าสมาทานรวม เมื่อขาดย่อมขาดทั้งหมดเมื่อสมาทานแยกเป็นข้อๆ เมื่อขาดข้อใดข้อหนึ่งย่อมขาดเพียงข้อนั้นเท่านั้น ฉะนั้น เมื่อขาดทุกข้อควรสมาทานใหม่ทั้งหมด เมื่อขาดเพียงบางข้อควรสมาทานเพียงข้อนั้นเท่านั้น

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 13 ก.ค. 2550

ศีล หมายถึง ความประพฤติที่เป็นปกติ ทางกาย ทางวาจาที่ปกติเป็นกุศลศีลหรือปกติเป็นอกุศลศีล การรักษาศีลอยู่ที่เจตนาความตั้งใจโดยไม่ต้องสมาทานศีลก็ได้ เช่น มีความตั้งใจจะรักษาศีลไปตลอดชีวิต เจอเหตุการณ์เฉพาะหน้าก็ไม่ฆ่า เช่น ยุงกัดเรา เราไม่ตบ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 13 ก.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

สมาทาน หมายถึง การถือเอา ด้วยเจตนาที่จะถือเอา ในการที่จะงดเว้น ดังนั้น เจตนาเกิดกับอะไร เกิดกับจิตครับ เพราะฉะนั้น ศีลอยู่ที่คำบาลีหรือเปล่า ที่สวดหรืออยู่ที่เจตนาที่จะถือเอา คือ งดเว้นที่จะไม่ลวงศีล (บุญอยู่ที่จิต ไม่ใช่อยู่ที่คำสวด) ดังนั้น ศีลมีหลายอย่าง เจตนาก็เป็นศีล เจตสิกก็เป็นศีล หมายถึง เจตสิกที่จะงดเว้นไม่ล่วงศีลในขณะที่ประสบพบเหตุการณ์นั้น ดังนั้น การสมาทานศีลคือ มีเจตนาที่ตั้งใจจะงดเว้นที่จะไม่ล่วงศีลขณะนั้นจึงเป็นศีลครับ จึงไม่ใช่อยู่ที่แบบแผนพิธีการ เพราะบุญอยู่ที่จิต ศีลก็มีอยู่ที่จิต ถ้าท่องสวด ปาณา ... สุราเม ... แต่ไม่เห็นโทษของการล่วงศีล ไม่มีเจตนาที่จะงดเว้นในการที่จะล่วงศีลเลย ก็ไม่ชื่อว่ามีศีล และสมาทานศีลครับ เพราะไม่มีเจตนาที่จะรักษา เพราะศีลอยูที่เจตนาที่จะงดเว้น ในประเด็นเรื่องศีลขาด ก็สมาทานใหม่ได้ ถ้าเป็นศีล ๕ ก็สมาทานเป็นข้อๆ ได้ครับ แต่ถ้าเป็นศีลอุโบสถ (ศีล ๘) ถ้าขาดข้อใดข้อหนึ่งก็ต้องสมาทานใหม่ทุกข้อครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 13 ก.ค. 2550

เรื่อง ศีลและศีลจะบริสุทธิ์ได้ด้วยเหตุ

เชิญคลิกอ่านได้ที่ ...

ศีลย่อมบริสุทธิ์โดยอาการ ๔ อย่าง

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
udomjit
วันที่ 13 ก.ค. 2550

ดิฉันไม่ค่อยเข้าใจเรื่องบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ในเรื่องศีล มีศีลอยู่ในชิวิตประจำวันแล้วยังต้องสมาทานด้วยหรือคะ เช่น ตั้งใจไม่เบียดเบียน ไม่ขโมย ไม่ผิดในกาม ไม่โกหก ไม่เสพของมี alcohol แล้วทั้งวันก็ทำได้ เช่นนี้เรียกว่ามีบุญจากการมีศีลใช่หรือไม่ใช่อย่างไรคะ หรือว่าต้องไปสมาทานจากพระภิกษุ แล้วจึงมาตั้งใจดำรงชีวิตในเงื่อนไขนั้นจึงจะเรียกว่ามีบุญจากการมีศีล

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
study
วันที่ 14 ก.ค. 2550

บุญญกิริยาที่เป็นศีลคือ การวิรัตติ์งดเว้นจากทุจริตทางกายวาจา ขณะที่มีเจตนางดเว้นจากทุจริตเป็นกุศลศีล ขณะที่ตั้งใจสมาทานเป็นข้อๆ ก็เป็นกุศลศีลเช่นกัน

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
udomjit
วันที่ 14 ก.ค. 2550

ขอบคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
domo
วันที่ 14 ก.ค. 2550
ขออนุโมทนาและขอบพระคุณค่ะ บุญรักษาทุกท่าน
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 13 พ.ย. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ