พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

อัฑฒกาสีเถรีอปทานที่ ๗ (๓๗) ว่าด้วยบุพจริยาของพระอัฑฒกาสีเถรี

 
บ้านธัมมะ
วันที่  1 ธ.ค. 2564
หมายเลข  41608
อ่าน  371

[เล่มที่ 72] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 690

เถรีอปทาน

ขัตติยกัญญาวรรคที่ ๔

อัฑฒกาสีเถรีอปทานที่ ๗ (๓๗)

ว่าด้วยบุพจริยาของพระอัฑฒกาสีเถรี


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 72]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 690

อัฑฒกาสีเถรีอปทานที่ ๗ (๓๗)

ว่าด้วยบุพจริยาของพระอัฑฒกาสีเถรี

[๑๗๗] ในภัทรกัปนี้ พระพุทธเจ้าผู้เป็น พงศ์พันธุ์แห่งพราหมณ์ ทรงพระยศมาก พระ นามว่ากัสสปะ ประเสริฐ กว่าพวกบัณฑิต เสด็จ อุบัติขึ้นแล้ว

ครั้งนั้น ดิฉันบวชในศาสนาของพระองค์ สำรวมในปาติโมกข์และอินทรีย์ รู้จัก ประมาณในอาสนะต่ำ ประกอบความเพียรในความ เป็นผู้ตื่นอยู่ บำเพ็ญเพียร

มีจิตชั่ว ได้ด่าภิกษุณีองค์หนึ่งผู้ปราศจาก อาสวะครั้งเดียวว่านางแพศยา ด้วยบาปกรรมนั้น นั่นแหละ ดิฉันต้องหมกไหม้อยู่ในนรก

ด้วยกรรมที่ยังเหลืออยู่นั้น ดิฉันเกิดใน สกุลหญิงแพศยา ถูกขายให้บุรุษอื่นอยู่โดยมาก ในชาติหลัง

ดิฉันเกิดในสกุลเศรษฐีในแคว้นกาสี มี ความถึงพร้อมด้วยรูป ดุจดังนางเทพอัปสรในหมู่ เทวดา ด้วยผลแห่งพรหมจรรย์

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 691

ประชุมชนเห็นดิฉันมีรูปน่าชม จึงตั้ง ดิฉันไว้ในความเป็นหญิงแพศยา ในพระนคร ราชคฤห์ที่อุดม ด้วยผลที่ด่าภิกษุณีนั้น

ดิฉันได้ฟังพระสัทธรรมที่พระพุทธเจ้าผู้ ประเสริฐตรัสแล้ว เป็นผู้ประกอบด้วยบุพวาสนา ได้บวชเป็นภิกษุณี

แต่เมื่อไปสู่สำนักพระพิชิตมารเพื่อจะ อปสมบท พบพวกนักเลงดักอยู่ที่หนทาง ได้แล้ว ซึ่งทูตอุปสมบท

ดิฉันมีธรรมทุกอย่างทั้งบุญและบาปหมด สิ้นไปแล้ว ข้ามพ้นสงสารทั้งปวงแล้ว และความ เป็นหญิงแพศยาก็สิ้นไปแล้ว

ข้าแต่พระมหาวีรเจ้า หม่อมฉันมีญาณ ในอรรถะ ธรรมะ นิรุตติ และปฏิภาณ เกิดขึ้น แล้วในสำนักของพระองค์

ดิฉันเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ... คำสอน ของพระพุทธเจ้าดิฉันได้ทำเสร็จแล้ว.

ทราบว่า ท่านพระอัฑฒกาสีภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ ฉะนี้แล.

จบอัฑฒกาสีเถรีอปทาน