พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

สุกกาเถรีอปทานที่ ๕ (๓๕) ว่าด้วยบุพจริยาของพระสุกกาเถร

 
บ้านธัมมะ
วันที่  1 ธ.ค. 2564
หมายเลข  41606
อ่าน  388

[เล่มที่ 72] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 681

เถรีอปทาน

ขัตติยกัญญาวรรคที่ ๔

สุกกาเถรีอปทานที่ ๕ (๓๕)

ว่าด้วยบุพจริยาของพระสุกกาเถร


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 72]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 681

สุกกาเถรีอปทานที่ ๕ (๓๕)

ว่าด้วยบุพจริยาของพระสุกกาเถรี

[๑๗๕] ในกัปที่ ๙๑ แต่ภัทรกัปนี้ พระ พุทธเจ้าผู้นายกของโลกพระนามวิปัสสี มีพระ เนตรงาม ทรงเห็นแจ้งซึ่งธรรมทั้งปวงเสด็จอุบัติ ขึ้นแล้ว

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 682

ครั้งนั้น หม่อมฉันเกิดในสกุลหนึ่ง ใน พระนครพันธุมดี ได้ฟังธรรมของพระมุนีแล้ว ออกบวชเป็นภิกษุณี เป็นผู้มีสุตะมาก ทรงธรรม ปฏิภาณ กล่าวธรรมกถาไพเราะ ปฏิบัติตาม พระพุทธศาสนา

ครั้งนั้น หม่อมฉันแสดงธรรมกถาเพื่อ ประโยชน์แก่ประชุมชนทุกสมัย หม่อมฉันเคลื่อน จากอัตภาพนั้นแล้วไปเกิดในภพดุสิต เป็นเทพ ธิดามียศ

ในกัปที่ ๓๑ แต่ภัทรกัปนี้ พระพิชิตมาร พระนามว่าสิขี มีพระรัศมีดังไฟ สง่าอยู่ในใจ ด้วยยศประเสริฐกว่าพวกบัณฑิต เสด็จอุบัติขึ้น แล้ว

แม้ในครั้งนั้นหม่อมฉันบวชแล้ว เป็นผู้ ฉลาดในพุทธศาสนา ยังพระพุทธพจน์ให้กระจ่าง แล้วไปสู่ภพดาวดึงส์

ในกัปที่ ๓๑ แต่ภัทรกัปนี้ พระพุทธเจ้า ผู้เป็นนายกของโลก พระนามว่าเวสสภู มีธรรม ดังว่ายานใหญ่ เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว แม้หม่อมฉัน ก็เกิดในกาล

บวชแล้วเป็นผู้ทรงธรรม ยังพุทธศาสนา เดียวกันนั้น ให้กระจ่างแล้ว ไปสู่เทวบุรีที่น่ายินดี ได้เสวยความสุขมาก

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 683

ในภัทรกัปนี้ พระพิชิตมารผู้อุดมพระนามว่ากกุสันธะ ประเสริฐกว่านรชน เสด็จอุบัติ ขึ้นแล้ว แม้ในครั้งนั้น หม่อมฉันก็เกิดในกาล เดียวกันนั้น

บวชแล้ว ก็ยังพุทธศาสนาให้กระจ่างจน ตลอดชีวิต เคลื่อนจากอัตภาพนั้นแล้ว ได้ไปสู่ ภพดาวดึงส์ เหมือนดังไปสู่ที่อยู่ของตน

ในภัทรกัปนี้แล พระพุทธเจ้าผู้เป็นนายก ของโลก พระนามว่าโกนาคมนะ ผู้ประเสริฐ กว่าพวกบัณฑิต อุดมกว่าสรรพสัตว์ เสด็จอุบัติ ขึ้นแล้ว

แม้ในครั้งนั้น หม่อมฉันบวชในศาสนา ของพระองค์ผู้คงที่ เป็นพหูสูตทรงธรรม ยังพุทธ ศาสนาให้กระจ่าง

ในภัทรกัปนี้เหมือนกัน พระมุนีพระนาม ว่ากัสสปะ มีพระคุณประเสริฐ เป็นสรณะแห่ง สัตวโลก ไม่มีข้าศึก ถึงที่สุดแห่งมรณะ เสด็จ อุบัติขึ้นแล้ว

หม่อมฉันบวชในศาสนาของพระพุทธ เจ้าผู้ทรงพระปรีชากว่าประชากร พระองค์นั้น ศึกษาพระสัทธรรมแล้วคล่องแคล่วในปริปุจฉา

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 684

ข้าแต่พระมหามุนี หม่อมฉันมีศีลงาม ความละอาย ฉลาดในไตรสิกขา แสดงธรรม กถามากจนตลอดชีวิต

ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น และด้วยการตั้ง เจตน์จำนงไว้ หม่อมฉันละร่างกายมนุษย์แล้ว ไปสู่ภพดาวดึงส์

ในภพหลังครั้งนี้ หม่อมฉันเกิดในสกุล เศรษฐีที่เจริญ สั่งสมรัตนะไว้มาก ในพระนคร ราชคฤห์อันอุดม

เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นนายกของ โลกอันภิกษุขีณาสพหนึ่งพันเป็นบริวารสรรเสริญ แล้ว เสด็จเข้าไปสู่เมืองราชคฤห์

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงฝึกอินทรีย์แล้ว พ้นขาดจากสรรพกิเลส มีวรรณะเปล่งปลั่งดังแท่ง ทองสิงคาล พร้อมด้วยพระขีณาสพซึ่งเคยเป็นชฎิล ผู้ฝึกอินทรีย์แล้ว พ้นขาดจากสรรพกิเลสเสด็จเข้า ไปสู่เมืองราชคฤห์

หม่อมฉันได้เห็นพระพุทธานุภาพ และ ได้ฟังธรรมมีคุณเป็นที่ประชุมแล้ว ยังจิตให้เลื่อม ใสในพระพุทธเจ้า บูชาพระองค์ผู้พลธรรมมาก

เวลาต่อมา หม่อมฉันออกบวชเป็นภิกษุณี ในสำนักพระธรรมทินนาเถรี หม่อมฉันเผากิเลส

 
  ข้อความที่ 5  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 685

ทั้งหลายในเมื่อกำลังปลงผม บวชแล้วไม่นาน ศึกษาศาสนธรรมทั่วแล้ว

แต่นั้น ได้แสดงธรรมในสมาคมแห่งมหาชน เมือหม่อมฉันกำลังแสดงธรรมอยู่ ธรรมาภิสมัยได้มีแก่ประชุมชนหลายพัน

มียักษ์ตนหนึ่งได้ฟังธรรมนั้นแล้ว เกิด อัศจรรย์ใจ เลื่อมใสต่อหม่อมฉัน ได้ไปยังพระนครราชคฤห์

พวกมนุษย์ในพระนครราคฤห์อันหม่อม ฉันทำแล้วอย่างไร ได้ดื่มธรรมดังว่าดื่มน้ำผึ้งอยู่ ฉะนั้น มนุษย์เหล่าใดไม่นั่งใกล้ภิกษุณีชื่อสุกกา ผู้แสดงอมตบท อันเป็นเหตุไม่ให้ถอยกลับ ให้ เกิดความชื่นใจ มีรสโอชา มนุษย์เหล่านั้นเห็น จะเป็นเหมือนพวกคนมีปัญญาเดินทางไกล หาน้ำ ฝนดื่มฉะนั้น

ข้าแต่พระมหามุนี หม่อมฉันเป็นผู้มี ความชำนาญในฤทธิ์ มีความชำนาญในทิพโสตธาตุ มีความชำนาญในเจโตปริยญาณ

รู้ปุพเพนิวาสญาณและทิพยจักษุอันหมด จดวิเศษ มีอาสวะทั้งปวงสิ้นไปแล้ว บัดนี้ภพใหม่ มิได้มีอีก

 
  ข้อความที่ 6  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 686

ข้าแต่พระมหาวีรเจ้า หม่อมฉันมีญาณ ในอรรถะ ธรรมะ นิรุตติและปฏิภาณ เกิดขึ้น แล้วในสำนักของพระองค์

ดิฉันเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ... คำสอน ของพระพุทธเจ้าดิฉันได้ทำเสร็จแล้ว.

ทราบว่า ท่านพระสุกกาภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วยประการ ฉะนี้แล.

จบสุกกาเถรีอปทาน

จบภาณวารที่ ๕