พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

ปัญฐจทีปทยิกาเถรีอปทานที่ ๕ (๑๕) ผลของการถวายประทีป ๕ ดวง

 
บ้านธัมมะ
วันที่  1 ธ.ค. 2564
หมายเลข  41584
อ่าน  421

[เล่มที่ 72] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 532

เถรีอปทาน

เอกกุโปสถวรรคที่ ๒

ปัญฐจทีปทยิกาเถรีอปทานที่ ๕ (๑๕)

ผลของการถวายประทีป ๕ ดวง


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 72]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 532

ปัญฐจทีปทยิกาเถรีอปทานที่ ๕ (๑๕)

ผลของการถวายประทีป ๕ ดวง

[๑๕๕] ครั้งนั้น ดิฉันเป็นหญิงนักท่องเที่ยวอยู่ในพระนครหังสวดี ดิฉันต้องการกุศล จึงท่องเที่ยวไปตามวัดและอาราม ดิฉันได้พบไม้- โพธิ์อันอุดมในวันกาฬปักษ์ ดิฉันยังจิตให้เลื่อมใสในไม้โพธิ์นั้น แล้วนั่งลงที่โคนโพธิ์

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 533

ดิฉันตั้งจิตอันประกอบด้วยความเคารพ ไว้ ประนมอัญชลีเหนือเศียรเกล้า สำแดงถึง ความโสมนัส แล้วคิดอย่างนี้ในทันใดนั้นว่า

ถ้าพระพุทธเจ้าเป็นผู้มีพระคุณนับไม่ได้ ไม่มีบุคคลอื่นเปรียบเสมอจริงไซร้ ขอให้แสดง ปาฏิหาริย์แก่เราเถิด ขอให้ไม้โพธิ์นี้จงเปล่งรัศมี

ในทันไดนั้นเอง ไม้โพธิ์ก็ได้โพลงไป ทั่วพร้อมกับที่ดิฉันนึก รัศมีนั้นสำเร็จด้วย สีทองล้วน ไพโรจน์ไปทั่วทิศ

ดิฉันนั่งอยู่ที่โคนโพธิ์นั้น ๗ คืน ๗ วัน เมื่อถึงวันเป็นคำรบ ๗ ดิฉันได้ทำการบูชาด้วย ประทีป

ประทีป ๕ ดวงลุกโพรงรอบอาสนะ ครั้งนั้นประทีปของดิฉันลุกโพลงอยู่ จนถึงเวลา พระอาทิตย์อุทัย

เพราะกรรมที่ทำไว้ดีนั้น และเพราะการ ตั้งเจตน์จำนงไว้ ดิฉันละร่างมนุษย์แล้วได้ไป สวรรค์ชั้นดาวดึงส์

วิมานที่บุญกรรมสร้างสรรให้ดิฉันอย่าง สวยงาม ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น เรียกว่า ปัญจทีปวิมาน สูง ๖๐ โยชน์ กว้าง ๓๐ โยชน์

มีประทีปนับไม่ถ้วนส่องแสงสว่างล้อม ดิฉัน ทั่วเทพพิภพโชติช่วงด้วยแสงประทีป

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 534

ดิฉันนั่งหันหน้าไปทิศบูรพาแล้ว ถ้า ประสงค์จะดู ย่อมเห็นทุกสิ่งได้ด้วยจักษุทั้ง เบื้องบน เบื้องล่างและเบื้องขวาง

ดิฉันปรารถนาจะเห็นกรรมดีกรรมชั่วที่ คนทำในที่มีประมาณเท่าใด ที่มีประมาณเท่านั้น ย่อมไม่มีต้นไม้หรือภูเขามากั้นกาง

ดิฉันได้เป็นพระอัครมเหสีของท้าวสักกเทวราช ๘๐ พระองค์ ได้เป็นพระอัครมเหสีของ พระเจ้าจักรพรรดิ ๑๐๐ พระองค์

ดิฉันเข้าถึงกำเนิดใดๆ คือ เทวดาหรือ มนุษย์ ในกำเนิดนั้นๆ ประทีปจำนวนแสนส่อง แสงสว่างล้อมดิฉัน

ดิฉันจุติจากเทวโลกแล้ว เกิดในครรภ์ มารดา เมื่อดิฉันอยู่ในครรภ์มารดา นัยน์ตาของ ดิฉันไม่หลับ ประทีปจำนวนแสนดวงส่องสว่าง ในเรือนประสูติของดิฉัน ผู้เพียบพร้อมด้วยบุญกรรม นี้เป็นผลแห่งประทีป ๕ ดวง

เมื่อถึงภพสุดท้าย ดิฉันกลับได้ฉันทะที่ มีในใจเห็นนิพพานอันเป็นสภาวะเยือกเย็น ไม่มี ชราและมรณะ.

พอเกิดอายุได้ ๗ ขวบ ดิฉันก็ได้บรรลุ อรหัต พระพุทธเจ้าให้ดิฉันอุปสมบท นี้เป็น ผลแห่งประทีป ๕ ดวง

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 535

เมื่อดิฉันอยู่ที่มณฑป โคนไม้ หรือใน เรือนว่างเปล่า ประทีปส่องแสงสว่างให้ทุกเมื่อ เชื่อวัน นี้เป็นผลแห่งประทีป ๕ ดวง

ทิพยจักษุของดิฉันบริสุทธิ์ ดิฉันฉลาด ในสมาธิ ถึงความบริบูรณ์ในอภิญญา นี้เป็นผล แห่งประทีป ๕ ดวง

ดิฉันเป็นผู้อยู่จบพรหมจรรย์ทั้งปวง ทำ กิจเสร็จแล้ว ไม่มีอาสวะ ข้าแต่พระมหาวีระผู้มี จักษุ หม่อมฉันผู้ชื่อว่าปัญจทีปาขอถวายบังคม พระยุคลบาทของพระองค์

ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ ดิฉันได้ให้ทาน ใดในกาลนั้น ด้วยทานนั้น ดิฉันไม่รู้จักทุคติ เลยนี้เป็นผลแห่งประทีป ๕ ดวง

ดิฉันเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ... คำสอน ของพระพุทธเจ้าดิฉันได้ทำเสร็จแล้ว.

ทราบว่า ท่านพระปัญจทีปทายิกาภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านี้ด้วย ประการฉะนี้แล.

จบปัญจทีปทายิกาเถรีอปทาน