พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๖. นวสูตร ว่าด้วยเหตุเกิดแห่งภพทั้ง ๓

 
บ้านธัมมะ
วันที่  22 ต.ค. 2564
หมายเลข  38703
อ่าน  297

[เล่มที่ 34] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 422

ทุติยปัณณาสก์

อานันทวรรคที่ ๓

๖. นวสูตร

ว่าด้วยเหตุเกิดแห่งภพทั้ง ๓


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 34]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 422

๖. นวสูตร

ว่าด้วยเหตุเกิดแห่งภพทั้ง ๓

[๕๑๖] ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์ตรัสว่า ภพ ภพ ดังนี้ ภพย่อมมีได้ด้วยเหตุเพียงไร พระเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามว่า ดูก่อนอานนท์ ก็กรรมที่อำนวยผลให้ในกามธาตุจักไม่มีแล้ว กามภพพึงปรากฏบ้างหรือหนอ.

อา. ไม่พึงปรากฏเลย พระเจ้าข้า.

พ. ดูก่อนอานนท์ เหตุนี้แล กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา วิญญาณชื่อว่าเป็นพืช ตัณหาชื่อว่าเป็นยาง วิญญาณประดิษฐานแล้ว เพราะธาตุอย่างเลวของสัตว์พวกที่มีอวิชชาเป็นเครื่องสกัดกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจ ด้วยประการฉะนี้ จึงมีการเกิดในภพใหม่ต่อไปอีก ดูก่อนอานนท์ ก็กรรมที่อำนวยผลให้ในรูปธาตุจักไม่มีแล้ว รูปภพพึงปรากฏบ้างหรือหนอ.

อา. ไม่พึงปรากฏเลย พระเจ้าข้า.

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 423

พ. ดูก่อนอานนท์ เหตุนี้แล กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา วิญญาณจึงชื่อว่าเป็นพืช ตัณหาชื่อว่าเป็นยาง วิญญาณประดิษฐานแล้ว เพราะธาตุอย่างกลางของสัตว์พวกที่มีอวิชชาเป็นเครื่องสกัดกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจ ด้วยประการฉะนี้ จึงมีการเกิดในภพใหม่ต่อไปอีก ดูก่อนอานนท์ ก็กรรมที่อำนวยผลให้ในอรูปธาตุจักไม่มีแล้ว อรูปภพพึงปรากฏบ้างหรือหนอ.

อา. ไม่พึงปรากฏเลย พระเจ้าข้า.

พ. ดูก่อนอานนท์ เหตุนี้แล กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา วิญญาณชื่อว่าเป็นพืช ตัณหาชื่อว่าเป็นยาง วิญญาณประดิษฐานแล้ว เพราะธาตุอย่างประณีตของสัตว์พวกที่มีอวิชชาเป็นเครื่องสกัดกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจ ด้วยประการฉะนี้ จึงมีการเกิดในภพใหม่ต่อไปอีก ดูก่อนอานนท์ ภพย่อมมีได้ด้วยเหตุดังกล่าวมาฉะนั้นแล.

จบนวสูตรที่ ๖

อรรถกถานวสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในนวสูตรที่ ๖ ดังต่อไปนี้ :-

บทว่า กามธาตุเวปกฺกํ ได้แก่ กรรมที่เผล็ดผลจากกามธาตุ. บทว่า กามภโว ได้แก่ อุปัตติภพในกามธาตุ. บทว่า กมฺมํ เขตฺตํ ความว่า กุศลกรรมและอกุศลกรรม ชื่อว่าเป็นเสมือนนา เพราะอรรถว่า เป็นสถานที่งอกขึ้น (แห่งวิบากขันธ์). บทว่า วิญฺาณํ พีชํ ความว่า วิญญาณที่มีอภิสังขารเป็นปัจจัยที่เกิดพร้อมกัน ชื่อว่าเป็นพืช เพราะอรรถว่า เป็นเหตุงอกขึ้น. บทว่า ตณฺหา เสฺนโห ความว่า ตัณหาชื่อว่าน้ำ เพราะด้วยสามารถแห่งการสงเคราะห์และเพิ่มพูน.

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 424

บทว่า อวิชฺชา นีวรณานํ ความว่า ผู้อันอวิชชากางกั้นแล้ว. บทว่า ตณฺหาสญฺโชนานํ ความว่า ผู้ถูกเครื่องผูกพันคือตัณหาผูกพันไว้. บทว่า หีนาย ธาตุยา ได้แก่ ในกามธาตุ. บทว่า วิญฺาณํ ปติฏฺิตํ ความว่า วิญญาณที่มีอภิสังขารเป็นปัจจัยตั้งมั่นแล้ว. บทว่า มชฺฌิมาย ธาตุยา ได้แก่ ในรูปธาตุ. บทว่า ปณีตาย ธาตุยา ได้แก่ ในอรูปธาตุ. คำที่เหลือในพระสูตรนี้ง่ายทั้งนั้น ฉะนี้แล.

จบอรรถกถานวสูตรที่ ๖