สอบถามเรื่องพ่อเสียชีวิตกระทันหัน

 
Namnana
วันที่  6 ต.ค. 2564
หมายเลข  37616
อ่าน  394

แล้วไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงมีเลือดออกทะลักออกมาจากทวารทั้ง 7 ค่ะ ตำรวจบอกว่าพ่อหัวใจล้มเหลวค่ะเพิ่งเสียเมื่อสิ้นเดือนสิงหาคม

รบกวนสอบถามท่านผู้รู้ค่ะพ่อเสียชีวิตกระทันหัน (ตายโหง) ตรงกับวันพระใหญ่เมื่อ31สิงหาคมที่ผ่านมามีเลือดออกมาจากทวารทั้งเจ็ดทุกส่วนเยอะมากค่ะมีรูปแต่ไม่กล้าลงรูปที่พ่อเสียค่ะคือตำรวจบอกแค่ว่าหัวใจล้มเหลวแต่พ่อไม่มีโรคประจำตัวอะไรค่ะแข็งแร็งทุกอย่างออกหาปลาหากินได้ทุกวันและที่ต้องการอยากรู้จริงๆ คือว่าหลังจากพาศพกลับมาทำพิธีแค่คืนเดียวพร่งนี้ก็ต้องเผาเพราะช่วงนี้โควิดแต่ไม่มีการเชิญดวงวิญญาณเลยแล้วแบบนี้พ่อจะอยู่ที่ไหนค่ะและไปสงบไหมค่ะ ลืมบอกว่าพ่อไม่ได้ใส่เสื้อตอนเสียชีวิตค่ะและมีคนพบเห็นดวงวิญญาณพ่ออยู่ที่นั้นจนชาวบ้านเขาหวาดกลัวไปหมดค่ะ มีวิธีแนะนำไหมค่ะ เพราะหนูคนเดียวทำอะไรไม่ถูกค่ะ ขอบคุณค่ะที่รับฟังหนูตอนนี้หนูทุกข์ใจมากๆ ค่ะทั้งสงสารพ่อและสภาพสิ่งแวดล้อมแถวนั้นมากๆ บ้านหนูปิดตายไปแล้วค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 7 ต.ค. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

[เล่มที่ 47] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖ - หน้าที่ ๕๕๖

สัลลสูตร

ภาชนะดินที่นายช่างทำแล้วทุกชนิดมีความแตกเป็นที่สุด แม้ฉันใด ชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย ก็ฉันนั้น ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งคนเขลา ทั้งคนฉลาด ล้วนไปสู่อำนาจของความตาย มีความตายเป็นที่ไปในเบื้องหน้าด้วยกัน ทั้งหมด

เมื่อสัตว์เหล่านั้น ถูกความตายครอบงำแล้ว ต้องไปปรโลก (โลกอื่น) บิดาจะ ป้องกันบุตรไว้ก็ไม่ได้ หรือ พวกญาติจะป้องกันพวกญาติไว้ก็ไม่ได้


ความตายจะเกิดขึ้นเมื่อใด ไม่มีใครทราบได้เลย เพราะเป็นธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เมื่อจุติจิตเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ นั่นแหละ ที่เรียกว่าสิ้นสุดสภาพความเป็นบุคคลนี้ คือ ตาย ไม่สามารถย้อนกลับมาเป็นบุคคลนี้ได้อีก ทุกคนไม่สามารถรอดพ้นจากความตายไปได้เลย และเมื่อยังมีกิเลสอยู่ ตายแล้วก็เกิดทันที ถ้ากรรมดีให้ผลนำเกิด ก็ไปเกิดในสุคติภูมิ เกิดเป็นมนุษย์หรือเกิดเป็นเทวดา ถ้าอกุศลกรรม ให้ผลนำเกิด ก็ไปเกิดในอบายภูมิ มี นรก เป็นต้น ไปตามกรรมของตนจริงๆ ไม่ต้องมีใครเชิญวิญญาณ เพราะวิญญาณ คือ จิตแต่ละขณะ ซึ่งเกิดดับสืบต่อกันอย่างไม่ขาดสาย วิญญาณ ไม่มีการล่องลอย ไม่มีรูปร่าง ไม่มีใครเห็นวิญญาณ เพราะไม่ใช่สิ่งที่ปรากฏทางตา

ดังนั้น เมื่อได้เริ่มศึกษาพระธรรมซึ่งเป็นคำจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ดีแล้ว ก็จะทำให้ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูก ไม่หวั่นไหวไปกับคำไม่จริง หรือ สิ่งที่เชื่อๆ ตามๆ กันไป เพราะได้เริ่มเข้าใจถูก เมื่อเข้าใจถูก ก็ทำสิ่งที่ถูก และยังสามารถเกื้อกูลให้บุคคลอื่นได้เกิดความเข้าใจถูกด้วย สิ่งที่จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ก็คือ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ การเศร้าโศก หรือ แม้กระทั่งความกลัว ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ