พระพุทธเจ้ากลับจากไปโปรดพระมารดา กลับอย่างไร

 
kan_abc
วันที่  28 เม.ย. 2550
หมายเลข  3576
อ่าน  2,058

พระพุทธเจ้ากลับจากไปโปรดพระมารดา กลับอย่างไร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 29 เม.ย. 2550

ขอเชิญอ่านข้อความจากอรรถกถาธรรมบท

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓

พระศาสดา. โมคคัลลานะ ในวันที่ ๗ แต่วันนี้ (ไป) เราจักลงที่ประตูเมืองสังกัสสะ ในวันมหาปวารณา ผู้ใคร่จะพบเราก็จงไปที่นั่นเถิด;ก็แลสังกัสสนครจากกรุงสาวัตถี มีประมาณ ๓๐ โยชน์ ในทางเท่านั้นกิจที่จะต้องเตรียมเสบียง ย่อมไม่มีแก่ใครๆ . เธอพึงบอกแก่คนเหล่านั้นว่า ' ท่านทั้งหลาย จงเป็นผู้รักษาอุโบสถไป ดุจไปสู่วิหารใกล้เพื่อฟังธรรมเถิด.' พระพุทธองค์ทรงเปิดโลก พระเถระทูลว่า " ดีละ พระเจ้าข้า " แล้วได้บอกตามรับสั่ง.พระศาสดาเสด็จจำพรรษาปวารณาแล้ว ตรัสบอกแก่ท้าวสักกะว่า " มหา-บพิตร อาตมภาพจักไปสู่ถิ่นของมนุษย์." ท้าวสักกะทรงนิรมิตบันได๓ ชนิด คือบันไดทองคำ บันไดแก้วมณี บันไดเงิน. เชิงบันไดเหล่านั้นตั้งอยู่แล้วที่ประตูสังกัสสนคร. หัวบันไดเหล่านั้น ตั้งอยู่แล้วที่ยอดเขาสิเนรุ. ในบันไดเหล่านั้น บันไดทอง ได้มีในข้างเบื้องขวา เพื่อพวกเทวดา. บันไดเงิน ได้มีในข้างเบื้องซ้าย เพื่อมหาพรหมทั้งหลาย.บันไดแก้วมณีได้มีในท่ามกลาง เพื่อพระตถาคต. พระศาสดาประทับยืนอยู่บนยอดเขาสิเนรุ. ทรงทำยมกปาฏิหาริย์ในกาลที่เสด็จลงจากเทวโลก ทรงแลดูข้างบนแล้ว. สถานที่อันพระองค์ทรงแลดูแล้วทั้งหลาย ได้มีเนินเป็นอันเดียวกันจนถึงพรหมโลก; ทรงแลดูข้างล่าง, สถานที่อันพระองค์ทรงแลดูแล้ว ได้มีเนินเป็นอันเดียวกันจนถึงอเวจี; ทรงแลดูทิศใหญ่และทิศเฉียงทั้งหลาย. จักรวาลหลายแสน ได้มีเนินเป็นอันเดียวกัน; เทวดาเห็นพวกมนุษย์. แม้พวกมนุษย์ก็เห็นพวกเทวดา. พวกเทวดาและมนุษย์ทั้งหมด ต่างเห็นกันแล้วเฉพาะหน้าทีเดียว. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเปล่งพระฉัพพรรณรังสีไปแล้ว. มนุษย์ในบริษัทซึ่งมีปริมณฑล ๓๖ โยชน์แม้คนหนึ่ง เมื่อแลดูสิริของพระพุทธเจ้าในวันนั้นแล้ว ชื่อว่าไม่ปรารถนาความเป็นพระพุทธเจ้า มิได้มีเลย. พวกเทวดาลงทางบันไดทอง. พวกมหาพรหมลงทางบันไดเงิน; พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จลงทางบันไดแก้วมณี. เทพบุตรนักฟ้อนชื่อปัญจสิขะ ถือพิณสีเหลืองดุจผลมะตูมยืนอยู่ณ ข้างเบื้องขวา ทำบูชาด้วยการฟ้อนแด่พระศาสดาลงมา มาตลิสังคาหก-เทพบุตรยืน ณ ข้างเบื้องซ้าย ถือของหอมระเบียบและดอกไม้อันเป็นทิพย์นมัสการอยู่ ทำบูชาแล้วลงมา. ท้าวมหาพรหมกั้นฉัตร. ท้าวสุยามถือพัดวาลวิชนี. พระศาสดาเสด็จลงพร้อมด้วยบริวารนี้ หยุดประทับอยู่ที่ประตูสังกัสสนคร. แม้พระสารีบุตรเถระ มาถวายบังคมพระศาสดาแล้ว เพราะพระศาสดาเสด็จลงด้วยพุทธสิริเห็นปานนั้น อันท่านไม่เคยเห็นแล้ว ใน กาลก่อนแต่นี้. เพราะฉะนั้น จึงประกาศความยินดีของตน ด้วยคาถาทั้งหลายเป็นต้นว่า :- " พระศาสดา ผู้มีถ้อยคำอันไพเราะ ทรงเป็น อาจารย์แห่งคณะ๑ เสด็จมาจากดุสิตอย่างนี้ เรายัง ไม่เห็น หรือไม่ได้ยินต่อใคร ในกาลก่อนแต่นี้ "แล้วทูลว่า " พระเจ้าข้า วันนี้เทวดาและมนุษย์แม้ทั้งหมดย่อมกระหยิ่มปรารถนาต่อพระองค์. "

ฯลฯ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 29 เม.ย. 2550
พระพุทธเจ้าเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยคุณธรรมทุกอย่าง และมีอภิญญาจิต มีฤทธิ์ จะเสด็จไปไหน อย่างไรได้หมด เหาะ เหิน เดินอากาศได้ทุกอย่าง เพราะฉะนั้นไม่ต้องสงสัยว่าพระองค์เสด็จลงจากดาวดีงส์อย่างไรค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 29 เม.ย. 2550

อ่านแล้วซาบซึ้งจริงๆ

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย ด้วยเศียรเกล้า

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
olive
วันที่ 30 เม.ย. 2550

เครื่องปลื้มใจยิ่งกว่าพระพุทธรัตนะนี้ย่อมไม่เคยมี

สาธุ ขออนุโมทนาด้วยค่ะ..

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
อิสระ
วันที่ 30 เม.ย. 2550
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
udomjit
วันที่ 13 ส.ค. 2550

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
orawan.c
วันที่ 14 ส.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ