พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๑. พันธนาคารชาดก ว่าด้วยเครื่องผูก

 
บ้านธัมมะ
วันที่  21 ส.ค. 2564
หมายเลข  35615
อ่าน  439

[เล่มที่ 57] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 275

๖. นตังทัฬหวรรค

๑. พันธนาคารชาดก

ว่าด้วยเครื่องผูก


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 57]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 275

๖. นตังทัฬหวรรค

๑. พันธนาคารชาดก

ว่าด้วยเครื่องผูก

[๒๕๑] เครื่องผูกอันใด ที่ทำด้วยเหล็กก็ดี ทำด้วยไม้ก็ดี ทำด้วยหญ้าปล้องก็ดี นักปราชญ์ไม่กล่าวเครื่องผูกนั้นว่า เป็นเครื่องผูกอันมั่นคง ความกำหนัดยินดีในแก้วมณีและกุณฑลก็ดี ความห่วงใยในบุตรและภรรยาก็ดี.

[๒๕๒] นักปราชญ์กล่าวเครื่องผูกนั้นว่า เป็นเครื่องผูกอันมั่นคง ทำให้สัตว์ตกต่ำ หย่อน แก้ได้ยาก แม้เครื่องผูกนั้น นักปราชญ์ก็ตัดได้ไม่มี ความห่วงใย ละกามสุข หลีกออกไปได้.

จบ พันธนาคารชาดกที่ ๑

อรรถกถานตังทัฬหวรรคที่ ๖

อรรถกถาพันธนาคารชาดกที่ ๑

พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภเรือนจำ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า น ตํ ทฬฺหํ พนฺธนมาหุ ธีรา.

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 276

ได้ยินว่าในครั้งนั้น พวกราชบุรุษได้จับพวกโจรผู้ตัดช่องย่องเบา ฆ่าผู้คนในหนทาง ฆ่าชาวบ้านเป็นอันมาก นำเข้าถวายพระเจ้าโกศล. พระราชารับสั่งให้จองจำพวกโจรเหล่านั้น ด้วยเครื่องจำ คือ ขื่อคา เชือก และโซ่. ภิกษุชาวชนบท ประมาณ ๓๐ รูป ประสงค์จะเฝ้าพระศาสดา จึงพากันมาเฝ้าถวายบังคม รุ่งเช้าออกบิณฑบาตผ่านเรือนจำเห็นพวกโจรเหล่านั้น กลับจากบิณฑบาต เวลาเย็นเข้าเฝ้าพระตถาคต ทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ วันนี้พวกข้าพระพุทธเจ้าออกบิณฑบาตได้เห็นพวกโจรมากมายที่เรือนจำ ถูกจองจำด้วยขื่อคา และเชือกเป็นต้น ต่างก็เสวยทุกข์ใหญ่หลวง พวกโจรเหล่านั้น ไม่สามารถจะตัดเครื่องจองจำเหล่านั้นหนีไปได้ ยังมีเครื่องจองจำอย่างอื่นที่มั่นคงกว่าเครื่องจองจำเหล่านั้นอีกหรือไม่ พระเจ้าข้า. พระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เครื่องจองจำเหล่านั้นจะชื่อว่า เครื่องจองจำอะไรกัน ส่วนเครื่องจองจำ คือกิเลสได้แก่ ตัณหาในทรัพย์ ในข้าวเปลือก ในบุตรภรรยาเป็นต้น นี่แหละ มั่นคงยิ่งกว่าเครื่องจองจำเหล่านั้นตั้งร้อยเท่าพันเท่า แต่เครื่องจองจำนี้แม้ใหญ่หลวง ตัดได้ยากอย่างนี้ บัณฑิตแต่ก่อนยังตัดได้ แล้วเขาไปหิมวันตประเทศ ออกบวชแล้วทรงนำเรื่องอดีตมา ตรัสเล่า.

ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์อุบัติในตระกูลคหบดียากจนตระกูล

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 277

หนึ่ง. ครั้นเจริญวัยแล้วบิดาได้ถึงแก่กรรม. พระโพธิสัตว์ได้ทำการรับจ้างเลี้ยงมารดา. ครั้งนั้นมารดาจึงได้ไปสู่ขอธิดาตระกูลหนึ่งมาไว้ในเรือนให้พระโพธิสัตว์ทั้งๆ ที่ไม่ต้องการ แล้วนาง ก็ถึงแก่กรรม.

ฝ่ายภรรยาของพระโพธิสัตว์ก็ตั้งครรภ์. พระโพธิสัตว์ไม่รู้ว่านางตั้งครรภ์จึงบอกว่า ดูก่อนนาง เจ้าจงรับจ้างเขาเลี้ยงชีวิตเถิด ฉันจักบวชละ. นางจึงกล่าวว่า ฉันตั้งครรภ์ เมื่อฉันคลอดแล้ว พี่เห็นเด็กแล้วก็บวชเถิด. พระโพธิสัตว์ก็รับคำ พอนางคลอด จึงบอกกล่าวว่า น้องคลอดเรียบร้อยแล้ว พี่จักบวชละ. นางจึงกล่าวว่า จงรอให้ลูกหย่านมเสียก่อนเถิด แล้วก็ตั้งครรภ์อีก. พระโพธิสัตว์ดำริว่า เราไม่อาจให้นางยินยอมแล้วไปได้ เราจะไม่บอกกล่าวนาง จะหนีไปบวชละ. พระโพธิสัตว์มิได้บอกกล่าวนาง พอตกกลางคืนก็ลุกหนีไป. ครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลพระนครได้จับพระโพธิสัตว์นั้นไว้. พระโพธิสัตว์จึงบอกว่า เจ้านาย ข้าพเจ้าเป็นผู้เลี้ยงมารดา โปรดปล่อยข้าพเจ้าเถิด ครั้นให้เขาปล่อยแล้วก็ไปอาศัยในที่แห่งหนึ่ง ออกทางประตูใหญ่นั้นเอง เข้าป่าหิมพานต์ บวชเป็นฤาษียังอภิญญาและสมาบัติให้เกิด เพลิดเพลินอยู่ด้วยฌาน. พระโพธิสัตว์เมื่ออยู่ ณ ที่นั้น เมื่อจะเปล่งอุทานว่า เราได้ตัดเครื่องจองจำ คือบุตรภรรยาเครื่องจองจำ คือกิเลสที่ตัดได้ยากเห็นปานนี้แล้ว ได้กล่าวคาถา เหล่านี้ว่า :-

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 278

เครื่องผูกอันใด ที่ทำด้วยเหล็กก็ดี ทำด้วยไม้ก็ดี ทำด้วยหญ้าปล้องก็ดี นักปราชญ์ไม่กล่าวเครื่องผูกนั้นว่า เป็นเครื่องผูกอันมั่นคง ความกำหนัดยินดีในแก้วมณี และกุณฑลก็ดี ความห่วงใยในบุตรและภรรยาก็ดี.

นักปราชญ์กล่าวเครื่องผูกนั้นว่า เป็นเครื่องผูกอันมั่นคง ทำให้สัตว์ตกต่ำ ย่อหย่อน แก้ได้ยาก แม้เครื่องผูกนั้นนักปราชญ์ก็ตัดได้ ไม่มีความห่วงใย ละกามสุข หลีกออกไปได้.

ในบทเหล่านั้น บทว่า ธีรา ความว่า ชื่อว่า ธีรา เพราะมีปัญญา เพราะปราศจากบาป. อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่า ธีรา เพราะเป็นผู้ประกอบด้วยปัญญานั้น ได้แก่ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระสาวกของพระพุทธเจ้า และพระโพธิสัตว์. พึงทราบวินิจฉัยในบทว่า ยทายสํ เป็นต้น นักปราชญ์ทั้งหลายย่อมไม่กล่าวเครื่องจองจำที่ทำด้วยเหล็กอันได้แก่ โซ่ เครื่องจองจำทำด้วยไม้อันได้แก่ ขื่อคา เครื่องจองจำทำด้วยเชือกที่ขวั้นเป็นเชือกด้วยหญ้ามุงกระต่ายหรือด้วยอย่างอื่นมี ปอ เป็นต้น ว่าเป็นเครื่องจองจำอันมั่นคง แน่นหนา. บทว่า สารตฺตรตฺตา ได้แก่ ความกำหนัดยินดี คือ ยินดีด้วยความกำหนัดจัด. บทว่า มณิ- กุณฺฑเลสุ ได้แก่ ในแก้วมณีและแก้วกุณฑล หรือในแก้วกุณฑล ประกอบด้วยแก้วมณี. บทว่า เอตํ ทฬฺหํ ความว่า นักปราชญ์

 
  ข้อความที่ 5  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 279

ทั้งหลายกล่าวว่า เครื่องจองจำอันเป็นกิเลสของผู้ที่กำหนัดยินดีในแก้วมณีและแก้วกุณฑล และของผู้ที่ห่วงใยในบุตรและภรรยาว่า เป็นเครื่องจองจำอันมั่นคงแน่นหนา. บทว่า โอหาริน ความว่า ชื่อว่า เครื่องจองจำทำให้ตกต่ำ เพราะชักนำลงในเบื้องต่ำ โดยฉุดให้ตกลงในอบาย ๔. บทว่า สิถิลํ ความว่า ชื่อว่าเครื่องจองจำย่อหย่อน เพราะไม่ตัดผิวหนังและเนื้อ ไม่ทำให้เลือดออกตรงที่ผูก ไม่ให้รู้สึกว่าเป็นเครื่องจองด้วย ยอมให้ทำการงานทั้งทางบกและทางน้ำเป็นต้น. บทว่า ทุปฺปมุญฺจ ความว่า ชื่อว่าเครื่องจองจำแก้ได้ยาก เพราะเครื่องจองจำ คือ กิเลสเกิดขึ้นแม้คราวเดียว ด้วยอำนาจตัณหาและโลภะ ย่อมแก้หลุดได้ยาก เหมือนเต่าหลุดจากที่ผูกได้ยาก. บทว่า เอตมฺปิ เฉตฺวาน ความว่า นักปราชญ์ทั้งหลาย ตัดเครื่องจองจำ คือกิเลสนั้น แม้มั่นคงอย่างนี้ ด้วยพระขรรค์ คือญาณ ตัดห่วงเหล็กดุจช้าง ตกมัน ดุจราชสีห์หนุ่มทำลายซี่กรง รังเกียจวัตถุกามและกิเลสกาม ดุจพื้นที่เทหยากเยื่อ ไม่มีความห่วงใย ละกามสุขหลีกออก ไป ก็และครั้นหลีกออกไปแล้ว เข้าป่าหิมพานต์บวชเป็นฤๅษี ยังกาลเวลาให้ล่วงไปด้วยสุขเกิดแต่ฌาน.

พระโพธิสัตว์ครั้นทรงเปล่งอุทานนี้อย่างนี้แล้ว มีฌาน ไม่เสื่อม มีพรหมโลกเป็นที่ไปในเบื้องหน้า.

พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศ สัจธรรม. เมื่อจบสัจธรรม ภิกษุบางพวกได้เป็นพระโสดาบัน

 
  ข้อความที่ 6  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 280

บางพวกได้เป็นพระสกทาคามี บางพวกได้เป็นพระอนาคามี บางพวกได้เป็นพระอรหันต์. มารดาในครั้งนั้นได้เป็นพระนางมหามายาในครั้งนี้ บิดาได้เป็นพระเจ้าสุทโธทนมหาราช ภรรยาได้เป็นมารดาพระราหุล ส่วนบุรุษผู้ละบุตรและภรรยาออกบวชคือ เราตถาคตนี้แล.

จบ อรรถกถาพันธนาคารชาดกที่ ๑