พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

โกธวรรค ที่ ๑๗ ว่าด้วยเรื่องความโกรธ

 
บ้านธัมมะ
วันที่  26 ก.ค. 2564
หมายเลข  34971
อ่าน  802

[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้า 424

โกธวรรค ที่ ๑๗

ว่าด้วยเรื่องความโกรธ


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 42]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 25 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้า 424

คาถาธรรมบท

โกธวรรค (๑) ที่ ๑๗

ว่าด้วยเรื่องความโกรธ

[๒๗] ๑. บุคคลพึงละความโกรธ สละความถือตัว ล่วงสังโยชน์ทั้งสินได้ ทุกข์ทั้งหลายย่อมไม่ตกต้องบุคคลนั้น ผู้ไม่ข้องในนา มรูป ไม่มีกิเลสเครื่องกังวล.

๒. ผู้ใดแล พึงสกัดความโกรธที่พลุ่งขึ้นเหมือนคนห้ามรถที่กำลังแล่นไปได้ เราเรียกผู้นั้นว่าสารถี ส่วนคนนอกนี้เ ป็นเพียงผู้ถือเชือก.

๓. พึงชนะคนโกรธ ด้วยความไม่โกรธ พึงชนะคนไม่ดี ด้วยความดี พึงชนะคนตระหนี่ ด้วยการให้ พึงชนะคนพูดเหลวไห ล ด้วยคําจริง.

๔. บุคคลควรกล่าวคำสัตย์ ไม่ควรโกรธ ถึงถูก เขาขอน้อย ก็พึงให้ บุคคลพึงไปในสำนักของเทวดาทั้งหลายได้ ด้วยฐานะ ๓ นั่น.

๕. มุนีเหล่าใดเป็นผู้ไม่เบียดเบียน สำรวมแล้วด้วยกายเป็นนิตย์ มุนีเหล่านั้นย่อมไปสู่ฐานะอันไม่จุติ ซึ่ งเป็นที่คนทั้งหลายไปแล้วไม่เศร้าโศก.

๖. อาสวะทั้งหลายของผู้ตื่นอยู่ทุกเมื่อ มีปกติตามศึกษาทั้งกลางวันกลางคืน น้อมไปแล้วสู่พระนิพพาน ย่อมถึงความตั้งอ ยู่ไม่ได้.


๑. วรรคนี้มีอรรถกถา ๘ เรื่อง.

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 25 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้า 425

๗. อตุละ การนินทาและสรรเสริญนั่นเป็นของเก่า นั่นไม่ใช่เป็นเหมือนมีในวันนี้ ชนทั้งหลายย่อมนินทาผู้นั่งนิ่งบ้าง ย่อมนินทาผู้พูดมากบ้าง ย่อมนินทาผู้พูดพอประมาณบ้าง ผู้ไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก คนผู้ถูกนินทาโดยส่วนเดียว หรือว่าอันเขาสรรเสริญโดยส่วนเดียว ไม่ได้มีแล้ว จักไม่มี และไม่มีอยู่ในบัดนี้ หากว่าวิญญูชนใคร่ครวญแล้วทุกๆ วัน สรรเสริญผู้ใด ซึ่งมีความประพฤติไม่ขาดสาย มีปัญญา ผู้ตั้งมั่นด้วยปัญญาและศีล ใครเล่าย่อมควรเพื่อติเตียนผู้นั้น ผู้เป็นดังแท่งทองชมพูนุท แม้เทวดาทั้งหลายก็สรรเสริญเขา ถึงพรหมก็สรรเสริญแล้ว.

๘. พึงรักษาความกำเริบทางกาย พึงเป็นผู้สำรวมทางกาย พึงละกายทุจริตแล้ว พึงประพฤติสุจริตทางกาย พึงรักษาความกำเริบทางวาจา พึงเป็นผู้สำรวมทางวาจา พึงละวจีทุจริต พึงประพฤติสุจริตทางวาจา พึงละความกำเริบทางใจ พึงเป็นผู้สำรวมทางใจ พึงละมโนทุจริตแล้วพึงประพฤติสุจริตทางใจ ธีรชนทั้งหลายสำรวมทางกาย สำรวมทางวาจา สำรวมทางใจ ธีรชนเหล่านั้นแล ชื่อว่าสำรวม รอบคอบดีแล้ว.

จบโกธวรรคที่ ๑๗.