พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๑๐. เรื่องหญิงคนใดคนหนึ่ง [๘๐]

 
บ้านธัมมะ
วันที่  25 ก.ค. 2564
หมายเลข  34865
อ่าน  465

[เล่มที่ 41] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้า 412

๑๐. เรื่องหญิงคนใดคนหนึ่ง [๗๐]


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 41]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 25 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้า 412

๑๐. เรื่องหญิงคนใดคนหนึ่ง [๗๐]

ข้อความเบื้องต้น

พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภหญิงคนใดคนหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "รมณียานิ" เป็นต้น.

หญิงนครโสภิณียั่วจิตพระเถระให้หลง

ดังได้สดับมา ภิกษุผู้ถือบิณฑบาตเป็นวัตรรูปหนึ่ง เรียนกัมมัฏฐานในสำนักของพระศาสดาแล้ว เข้าไปสู่สวนร้างสวนหนึ่งทำสมณธรรมอยู่ ครั้งนั้น หญิงนครโสภิณีคนหนึ่งทำการนัดแนะกับบุรุษว่า "ฉันจักไปสู่ที่ชื่อโน้น เธอพึงมาในที่นั้น" ได้ไปแล้ว บุรุษนั้นไม่มาแล้ว นางแลดูทางมาของบุรุษนั้นอยู่ไม่เห็นเขา กระสันขึ้นแล้ว จึงเที่ยวไปข้างโน้นข้างนี้ เข้าไปสู่สวนนั้น พบพระเถระนั่งคู้บัลลังก์ แลไปข้างโน้นข้างนี้ ไม่เห็นใครๆ อื่น คิดว่า ผู้นี้เป็นเป็นชายเหมือนกัน เราจักยังจิตของผู้นี้ให้ลุ่มหลง ยืนอยู่ข้างหน้าของพระเถระนั้น เปลื้องผ้านุ่งแล้ว (กลับ) นุ่งบ่อยๆ สยายผมแล้วเกล้า ปรบมือแล้วหัวเราะ.

ความสังเวชเกิดขึ้นแก่พระเถระ แผ่ซ่านไปทั่วสรีระ ท่านคิดว่า นี้เป็นอย่างไรหนอแล.

พระศาสดาทรงแสดงธรรมแก่พระเถระ

ฝ่ายพระศาสดาทรงใคร่ครวญว่า ความเป็นไปของภิกษุผู้เรียนกัมมัฏฐานจากสำนักของเราไปแล้วด้วยตั้งใจว่า จักทำสมณธรรม เป็นอย่างไรหนอแล

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 25 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้า 413

ทรงเห็นหญิงนั้นแล้ว ทรงทราบกิริยาอนาจารของหญิงนั้น และความเกิดขึ้นแห่งความสังเวชของพระเถระ ประทับนั่งในพระคันธกุฎนั่นแหละ ตรัสกับพระเถระนั้นว่า "ภิกษุ ที่ๆ ไม่รื่นรมย์ของพวกคนผู้แสวงหากามนั่นแหละ เป็นที่รื่นรมย์ของผู้มีราคะปราศจากแล้วทั้งหลาย" ก็แลครั้นตรัสอย่างนั้นแล้ว ทรงแผ่พระโอภาสไป เมื่อจะทรงแสดงธรรมแก่ภิกษุนั้น ตรัสพระคาถานี้ว่า.

๑๐. รมณียานี อรญฺานิ ยตฺถ น รมตี ชโน วีตราคา รเมสฺสนฺติ น เต กามคเวสิโน.

"ป่าทั้งหลาย เป็นที่น่ารื่นรมย์ ท่านผู้มีราคะไปปราศแล้วทั้งหลาย จักยินดีในป่าอันไม่เป็นที่ยินดีของชน (เพราะ) ท่านผู้มีราคะไปปราศแล้วนั้น เป็นผู้มีปกติไม่แสวงหากาม".

แก้อรรถ

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อรญฺานิ ความว่า ธรรมดาป่าทั้งหลาย อันประดับด้วยไพรสณฑ์มีต้นไม้รุ่นๆ มีดอกบานแล้ว สมบูรณ์ด้วยน้ำใสสะอาด เป็นที่น่ารื่นรมย์.

บทว่า ยตฺถ เป็นต้น ความว่า ชนผู้แสวงหากาม ย่อมไม่ยินดีในป่าทั้งหลายใด เหมือนแมลงวันบ้าน ไม่ยินดีในป่าบัวหลวง ซึ่งมีดอกอันแย้มแล้วฉะนั้น.

บทว่า วีตราคา เป็นต้น ความว่า ก็ท่านผู้มีราคะไปปราศแล้วทั้งหลาย คือพระขีณาสพ จักยินดีในป่าทั้งหลายเห็นปานนั้น เหมือนแมลงภู่และแมลงผึ้งยินดีในป่าบัวหลวงฉะนั้น.

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 25 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้า 414

ถามว่า "เพราะเหตุไร".

แก้ว่า "เพราะท่านผู้มีราคะไปปราศแล้วเหล่านั้น เป็นผู้มีปกติไม่แสวงหากาม" อธิบายว่า เพราะท่านเหล่านั้นย่อมไม่เป็นผู้มีปกติแสวงหากาม (จึงยินดีในป่าทั้งหลาย).

ในกาลจบเทศนา พระเถระนั้นนั่งตามปกตินั่นแล บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลาย มาโดยอากาศ ทำความชมเชย ถวายบังคมพระบาททั้งสองของพระตถาคต ได้ไปแล้ว ดังนี้แล.

เรื่องหญิงคนใดคนหนึ่ง จบ.

อรหันตวรรควรรณนา จบ.

วรรคที่ ๗ จบ.