จะเป็นพาลหรือจะเป็นบัณฑิต

 
khampan.a
วันที่  9 พ.ย. 2563
หมายเลข  33272
อ่าน  426

ถ้าเทียบแล้วกุศลจิตน้อยมากถ้าเทียบกับอกุศล เพราะฉะนั้น ถ้าไม่คิดที่จะแก้อกุศลโดยการที่เพิ่มกุศลในทุกๆ ทาง ก็ย่อมไม่มีทางที่จะดับกิเลสได้ แต่ถ้าเริ่มเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ฝึกตน ก็จะทำให้เป็นผู้ที่ตรง โดยการที่เห็นกิเลสทั้งหลายว่าเป็นโทษและพากเพียรที่จะละกิเลส ถ้าผูกโกรธใคร ลองคิดสิว่า จะเป็นพาลหรือจะเป็นบัณฑิต ถ้าเป็นพาล ก็ผูกโกรธต่อไป ใครก็ช่วยไม่ได้ แต่ถ้าเป็นบัณฑิต เห็นว่าความผูกโกรธไม่มีประโยชน์เลย เป็นอันตราย เป็นโทษ เพียงแค่อภัยทานยังทำไม่ได้ แล้วจะปฏิบัติธรรมอะไร

นี่ก็มีการที่จะพิจารณาตนเองได้ในทุกๆ ทาง แล้วก็จะทำให้เป็นผู้ที่เพิ่มกุศลจิต ด้วยการทำดีทางกาย ทางวาจา ต่อคนที่คิดว่าไม่เป็นมิตรกันหรือว่าไม่ถูกกัน นี่คือ บัณฑิต ที่ย่อมฝึกตน และก็เป็นผู้ที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีและทำกุศลทุกอย่างทันที


กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 9 พ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
เฉลิมพร
วันที่ 11 พ.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ