ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๗๓

 
khampan.a
วันที่  13 ก.ย. 2563
หมายเลข  32986
อ่าน  1,418

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

* * ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๗๓
* *

~ คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า น่าอัศจรรย์ จากความไม่รู้อะไรเลยทั้งสิ้น ตั้งแต่เกิดจนตายทุกชาติ แต่สามารถที่จะมีความเห็นถูกความเข้าใจถูกในทุกอย่างที่ปรากฏ จากกิเลสมากๆ จนกระทั่งค่อยๆ ละคลายดับไป จนกระทั่งไม่มีกิเลสเหลือเลย เพราะฉะนั้น น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่าอย่างอื่น เพราะสามารถที่จะเปลี่ยนจากความไม่รู้ เป็นความค่อยๆ เข้าใจขึ้นจนดับกิเลสได้

~ พระพุทธศาสนา คือ คำสอนของพุทธะ คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น ถ้าไม่เข้าใจคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่มีทางที่จะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย แล้วจะเป็นชาวพุทธหรือ? ก็เป็นชาวพุทธที่ไม่รู้จักพระพุทธศาสนา

~ ตั้งแต่เกิดจนตายที่ไม่ได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พูดคำที่ไม่รู้จัก จริงหรือเปล่า?

~ สิ่งเดียวที่จะระงับทุกอย่างที่ให้โทษเป็นโทษ ก็คือ มีความเข้าใจถูก

~ ถ้าไม่ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะรู้ไหมว่าโกรธไม่ใช่เรา เพราะโกรธ เป็นโกรธ จะเป็นเราได้อย่างไร เพราะมีปัจจัย (ทำให้) เกิดโกรธ ปกติไม่ได้โกรธ แต่มีปัจจัยที่จะเกิดโกรธ (ก็เกิด) เพราะฉะนั้น โกรธจะเป็นเราได้อย่างไร และไม่ใช่โกรธอย่างเดียว ทุกอย่างหมด ถ้าไม่มีปัจจัยจะเกิดได้ไหม? เพราะฉะนั้น ให้เข้าใจให้ถูกต้องว่า ไม่มีเรา เป็นแต่ละหนึ่งที่หลากหลายมาก ตามเหตุตามปัจจัย

~ ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย แข็งแรงดี แล้วก็เกิดเจ็บป่วย เป็นอย่างไร ชอบไหม? ไม่ชอบ นั่นคือ โทสะไหม? (เป็นโทสะ) เพราะยังมีเหตุที่จะให้เกิดโทสะ

~ ตราบใดที่ยังมีกิเลสแม้บางเบาเท่าไหร่ ก็ยังไม่สะอาด ยังไม่สงบจริงๆ ขณะที่สิ่งนั้น (กิเลสแม้บางเบา) เกิดขึ้น ไม่สงบแล้ว เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ไปแสดงอาการกิริยาอาการใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแค่สิ่งนั้นปรากฏ ก็รู้ว่า ไม่สงบเสงี่ยม

~ ผู้ที่มีปัญญา เห็นกิเลสแม้เพียงเล็กน้อย ซึ่งคนอื่นไม่เห็น แต่เขาผู้นั้นเห็นเหมือนดุจเห็นเมฆก้อนใหญ่ในท้องฟ้า เห็นโทษถึงปานนั้นของกิเลสเพียงเล็กน้อย

~ เห็นโทษของอกุศล แล้วก็อบรมเจริญปัญญาที่จะดับอกุศลนั้นๆ ด้วย ไม่ใช่เพียงแต่เห็นโทษเท่านั้น

~ มิตรที่ดี คือ ให้ความจริง ไม่ใช่หลอกลวง ไม่ใช่ให้เข้าใจผิด เมื่อให้สิ่งที่ถูกต้อง เป็นความจริง ก็ต้องเป็นมิตรที่ดี

~ เห็นความน่าอัศจรรย์อย่างยิ่งของปัญญา ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะปัญญาจะถือเอาแต่สิ่งที่ควรที่เป็นประโยชน์ และจะละทิ้งสิ่งที่ไม่ควร

~ เวลาที่มีทุกขเวทนาเกิด แล้วก็เป็นทุกข์เดือดร้อนใจ ให้ทราบได้ว่า เพิ่มทุกข์ให้กับตนเอง เหมือนกับถูกยิงด้วยลูกศรดอกที่หนึ่งทางกาย แล้วก็ยังไม่พอ ยังจะต้องถูกยิงด้วยลูกศรดอกที่สองที่แผลเก่านั้นอีกซ้ำลงไป เพราะฉะนั้น ทุกข์ก็ต้องเพิ่มขึ้น เพราะนอกจากทุกข์กายแล้วก็ยังมีทุกข์ใจ ด้วย

~ ถ้าใครยังมีโลภะ ยังมีโทสะ ยังมีโมหะ อันเป็นเหตุให้กระทำอกุศลกรรม ย่อมไม่พ้นจากอบาย เพราะเหตุว่าไม่มีใครสามารถที่จะนำไปสู่อบาย นอกจากกิเลส ทุกคนมีโลภะ มีโทสะ มีโมหะ เพราะฉะนั้น ทุกคนก็ยังมีกิเลสซึ่งเป็นที่อาศัยแห่งทุกข์ในอบาย ถ้าได้กระทำอกุศลกรรมเพราะโลภะ หรือเพราะโทสะ หรือเพราะโมหะก็ตาม เมื่อเป็นอกุศลกรรมย่อมสามารถที่จะทำให้ปฏิสนธิในอบายภูมิ

~ เป็นบุญอย่างยิ่ง ที่มีโอกาสได้ฟังคำที่ถูกต้อง ที่จะไม่หลงผิด เพราะคำผิด คำที่ชวนให้หลง มีมาก

~ ไม่ประมาทที่จะสะสมกุศลแม้เพียงเล็กๆ น้อยๆ เพราะใครจะรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้น กุศลแม้เพียงเล็กน้อย ก็ไม่ควรประมาทเลย ตราบใดที่เกิดเป็นผู้ที่สามารถที่จะกระทำกุศลได้

~ น่ากลัวอย่างยิ่งสำหรับความไม่ดีและควรกลัวด้วย ความไม่ดี ไม่ได้นำผลที่ดีมาให้เลยทั้งสิ้น สิ่งที่ควรกลัว ไม่ควรเข้าใกล้ ไม่ควรที่จะสะสม คือ ความชั่วทั้งหลาย แล้วคิดอย่างนี้หรือเปล่าระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่

~ อธิษฐาน หมายถึง ความตั้งใจมั่นในการเจริญกุศล เพราะเหตุว่า จิตใจของคนส่วนใหญ่แล้วอกุศลทั้งนั้น ทั้งวัน โอกาสของกุศลน้อยมาก เพราะฉะนั้น ผู้ที่มีอธิษฐานบารมี ก็เป็นผู้ที่รู้ตัวว่ากิเลสยังเยอะ จะต้องอาศัยความตั้งใจมั่นจริงๆ ในการเจริญกุศล มิฉะนั้นแล้ว ก็พลาดให้อกุศลทุกที

~ น่าเสียดาย ถ้าไม่เห็นประโยชน์ของกุศลและไม่สะสม ถ้าพลาดขณะนั้นไปแล้วทีละเล็กทีละน้อย แล้วที่จะสะสมกุศลให้มากขึ้นจะมาแต่ไหนถ้าประมาทกุศลแม้เพียงเล็กน้อย

~ ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป ควรมีสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่ได้เกิดมาแล้วไม่ได้จากไปเปล่าๆ หรือจากไปด้วยการไม่รู้ความจริงสะสมความไม่รู้สะสมกิเลสไปมากมาย ก็ค่อยๆ สามารถที่จะเห็นว่าสิ่งที่มีค่าสำหรับผู้ที่เกิดเป็นมนุษย์ คือ สามารถได้ฟังคำที่จะทำให้เกิดปัญญาและรู้จักบุคคลที่ประเสริฐสุดคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงแสดงหนทางที่จะทำให้กิเลสซึ่งมีมากในใจของทุกคนลดน้อยลงจนกระทั่งสามารถที่จะดับได้

~ ข้อสำคัญ ทุกคนกำลังจะตาย แน่นอน ชัดเจน ถูกต้องที่สุด ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าเลยสักขณะเดียว พอถึงเวลาก็ตาย แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น ก็กำลังจะตาย ไม่รู้วันไหนเวลาไหนด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีโอกาสได้ฟังธรรมให้เข้าใจทุกโอกาสที่มีแล้วจะได้ฟังอีกหรือเปล่า? จะเพิ่มความเข้าใจถูกต้องขึ้นอีกได้ไหม ถ้าไม่มีการได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น สิ่งที่มีค่าของชีวิตทุกชาติ คือ เข้าใจธรรม เพราะขณะที่เข้าใจเท่านั้นที่จะค่อยๆ สะสมเป็นปัจจัยที่จะทำให้สามารถรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏโดยความเป็นอนัตตา ไม่เลือกเลย คาดคะเนก็ไม่ได้ เพราะปัจจัยที่จะให้เกิดอะไร ไม่มีใครรู้

* * ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ * *

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๗๒



...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 13 ก.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pattarakornnontajid
วันที่ 13 ก.ย. 2563

กราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ...ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
natthayapinthong339
วันที่ 13 ก.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Sottipa
วันที่ 14 ก.ย. 2563

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
panasda
วันที่ 14 ก.ย. 2563

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
worrasak
วันที่ 14 ก.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
jaturong
วันที่ 14 ก.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
nattawan
วันที่ 14 ก.ย. 2563

น่าเสียดาย ถ้าไม่เห็นประโยชน์ของกุศลและไม่สะสม ถ้าพลาดขณะนั้นไปแล้วทีละเล็กทีละน้อย แล้วที่จะสะสมกุศลให้มากขึ้นจะมาแต่ไหนถ้าประมาทกุศลแม้เพียงเล็กน้อย

ยินดีในความดีค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
พัชรีรัศม์
วันที่ 14 ก.ย. 2563

กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ ด้วยความเคารพยิ่ง อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
สิริพรรณ
วันที่ 14 ก.ย. 2563

กราบยินดีในกุศลธรรมทุกท่านทุกประการค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
เจียมจิต
วันที่ 29 ก.ย. 2563

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
มังกรทอง
วันที่ 19 ส.ค. 2568

สนทนาธรรมเกิดขึ้น กุศลมี ฟังธรรมะในดิถี ถูกต้อง อาจารย์สุจินต์ศรี เป็นหลัก จิตเจตสิกรูปสอดคล้อง มั่นแฟ้นคำจริง

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ