ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๗๐

 
khampan.a
วันที่  23 ส.ค. 2563
หมายเลข  32684
อ่าน  1,462

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

* * ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๗๐
* *


~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นปาฏิหาริย์ ที่ไม่เคยได้ฟังมาก่อนแล้วคิดต่างๆ นานา เห็นผิด ทำผิดต่างๆ แต่ถ้าได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว เป็นผู้ตรงเท่านั้นที่จะทำให้พ้นจากความเห็นผิดได้ คำจริงของพระองค์เท่านั้น ที่จะทำให้คนอื่นพ้นจากความเห็นผิดได้ด้วยความเข้าใจของเขาเอง เพราะฉะนั้น การที่เราจะให้ใครพ้นจากความเห็นผิด ไม่ใช่ไปบอกเขาไม่ใช่ไปชวนเขา แต่ให้เขาได้ฟังคำ (ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) ให้เขาไตร่ตรองเอง จนกระทั่งเป็นความเข้าใจของเขาเอง เขานั่นแหละจะช่วยตนเองให้พ้นจากความเห็นผิดได้ เพราะเหตุว่า เข้าใจคำที่ได้ฟัง

~ เป็นการยากที่จะได้ถึงความเป็นผู้ที่มั่นคงในพระธรรม เพราะว่า พระธรรม ไม่ง่ายเลย ยิ่งได้ฟังได้เข้าใจ ก็ยิ่งเห็นความลึกซึ้งอย่างยิ่ง จนมีความประสงค์ที่จะให้คนอื่นได้เข้าใจถูกต้อง ไม่ว่าเขาจะรักหรือเขาจะชัง ก็ไม่หวั่นไหว เพราะเหตุว่า เราไม่ได้ทำสิ่งนี้เพื่อจะให้คนรักหรือคนชัง แต่ว่า ทำเพื่อประโยชน์จริงๆ

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรมแล้วๆ เล่าๆ ถึงสิ่งที่กำลังมีในขณะนี้ จนกว่าผู้นั้นจะเกิดปัญญา ทรงมีพระมหากรุณาอย่างยิ่ง เพราะเขาไม่รู้ เพราะฉะนั้น ก็ทรงแสดงโดยละเอียดโดยประการทั้งปวงสิ้นเชิง เพื่อเขาจะเข้าใจ เมื่อเขาเข้าใจแล้วเขาก็เป็นผู้ที่ปลอดโปร่งจากการหลงผิด

~ ความจริงแล้ว ผู้ที่จากไป (ตาย) ก็คือ ผู้ที่เกิดก่อนคนอื่นนั่นเอง เพราะว่าเมื่อตายแล้ว ต้องเกิด เพราะฉะนั้น ก็เป็นธรรมดาที่ขณะสุดท้ายของชีวิตในชาตินี้หนึ่งขณะเองที่ทำกิจเคลื่อนพ้นความเป็นบุคคลนี้ เคลื่อนจากความเป็นบุคคลนี้ คือ จะเป็นบุคคลนี้ต่อไปอีกไม่ได้เลย เป็นธรรมดา

~ ใครกำลังจะตายบ้าง? ลองคิด ทุกคนหรือเปล่า? ตายเดี๋ยวนี้ก็ได้จริงไหม? เพราะฉะนั้น ทุกคนก็กำลังจะตาย จนกว่าจะถึงขณะซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย แม้ความตายก็ต้องเป็นในขณะนั้นที่มีปัจจัยถึงพร้อมที่จะพ้นสภาพความเป็นบุคคลนี้ จะเป็นบุคคลนี้อีกต่อไปไม่ได้เลยในสังสารวัฏฏ์

~ สิ่งที่ควรระลึกถึงบ่อยๆ คือ ความตาย ก่อนตายควรที่จะเป็นอย่างไร? นี้คือสิ่งที่สำคัญ เตรียมตัวที่จะเป็นคนใหม่หรือยัง จะเป็นคนใหม่ในชาติใหม่ก็มาจากคนนี้แหละ

~ มีเงินทองมากมาย แต่ก็เป็นทุกข์เดือดร้อนได้ จะเอาเงินไปซื้อให้ทุกข์หมดไปก็ไม่ได้ แต่ถ้าเป็นปัญญาแล้ว จะไม่นำทุกข์มาให้เลยแม้แต่น้อย

~ ขณะที่อกุศลธรรมทั้งหลายเกิด ไม่สามารถทำให้เข้าใจธรรมได้ แต่ก็อย่าประมาทปัญญา เพราะว่า ขณะนี้กำลังเกิดปัญญา ท่ามกลางอกุศล อกุศลมากกว่าเยอะ แต่ปัญญาก็ยังเกิด เพราะฉะนั้น ปัญญาก็จะค่อยๆ เกิด ค่อยๆ เจริญขึ้น ไม่ใช่เราไปทำเลย เพราะฉะนั้น ขาดปัญญาไม่ได้ และปัญญาก็เกิดเองไม่ได้ นอกจากฟังพระธรรมและไตร่ตรองจนกระทั่งค่อยๆ เข้าใจขึ้น

~ เวลาที่ได้ข่าวว่าใครทำดี รู้สึกอย่างไร? ก็ยินดีด้วยกับความดีของผู้นั้น, ถึงเขาไม่บอกเรา แต่เรายินดีด้วยในกุศลนั้นได้ไหม? ก็ย่อมได้ กุศลจะเกิดโดยที่ไม่มีใครอุทิศให้ก็ได้ แต่ถ้าเป็นอีกภพภูมิหนึ่งซึ่งเป็นญาติพี่น้องที่สิ้นชีวิตไปแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะอยู่ในภพภูมิไหน แต่ว่า ถ้าเขาสามารถที่จะรู้และยินดีเมื่อไหร่ กุศลจิตเกิดขึ้นกับเขา ซึ่งไม่ใช่เขาทำกุศลเอง แต่เขายินดีด้วยในกุศลที่คนอื่นทำ

~ เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ ได้มีโอกาสที่จะทำความดีทุกอย่างทุกประการที่สามารถจะกระทำได้แม้เพียงเล็กน้อย ก็ควรทำ เพราะเหตุว่า ถ้าขณะนั้นไม่ใช่จิตที่ดี ก็เป็นอกุศลจิต แม้เพียงเป็นกุศลจิต นิดเดียว ต่อไปจะเห็นค่าของหนึ่งขณะที่เป็นกุศล หรือแม้แต่การฟังธรรมแล้วเข้าใจแต่ละคำ แม้คำเดียว ก็มีค่า ที่จะทำให้เข้าใจคำอื่นต่อไปๆ

~ ฟังเรื่องร้ายๆ ก็สงสาร (เห็นใจ ประสงค์ที่จะให้เขาพ้นจากความทุกข์เดือดร้อนนั้น) แล้ว มีแต่กรรมและผลของกรรมที่ปรากฏ วันหนึ่งๆ มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น นั่นคือ ผลของกรรมที่ได้ทำแล้วในอดีต อย่างเช่น ถูกทรมาน ถูกเบียดเบียนประทุษร้าย เป็นต้น ถ้าเขาไม่ทำกรรมมา จะได้รับผลของกรรมอย่างนั้นหรือ? เพราะฉะนั้น สัตว์โลก ก็เป็นที่ดูกรรมและผลของกรรม แม้แต่ผู้ที่ทำกรรม ก็จะเป็นเหมือนอย่างบุคคลที่กำลังได้รับผลของกรรมนั่นแหละ

~ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดเกิดตามเหตุตามปัจจัย ถ้าเป็นสิ่งที่ดี ก็ให้ผลที่ดีถ้าเป็นสิ่งที่ไม่ดี ก็ให้ผลที่ไม่ดี

~ โกรธแล้ว เกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่เริ่มโกรธ จนกระทั่งโกรธจัดๆ โกรธมากๆ นำมาซึ่งอะไร แล้วถูกต้องไหม ดีไหม ต้องการไหมอย่างนั้น?

~ ความเข้าใจธรรมที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์ไม่ว่าจะกับอะไรทั้งสิ้น

~ สิ่งที่ผิด ยังควรที่จะเก็บไว้ไหม?

~ วินัย ก็คือ การกำจัดสิ่งที่ไม่ดี เช่น ความไม่รู้ ออกไป ซึ่งไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลย ถ้าไม่เกิดจากการเข้าใจคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ๔๕ พรรษาโดยรอบคอบโดยละเอียด ค่อยๆ ลบล้าง ค่อยๆ ละความเป็นเราทีละเล็กทีละน้อย จนกว่าจะดับได้หมดไม่เหลือเลย นี่คือประโยชน์ของการฟัง มิฉะนั้นแล้ว จะฟังทำไม

~ การฟังพระธรรมมีประโยชน์มากมายมหาศาล การฟังเป็นความดี เป็นเหตุให้การฟังเจริญ เมื่อมีการฟังครั้งหนึ่งแล้ว ผู้ที่เห็นประโยชน์จะไม่หยุดอยู่แค่นี้ ก็จะมีความอดทนมีความเพียรที่จะฟังที่จะศึกษาต่อไปอันเป็นโอกาสที่มีค่าที่สุดสำหรับชีวิต ผู้ที่สะสมเหตุที่ดี มีศรัทธา เห็นประโยชน์ของการได้เข้าใจพระธรรมมาแล้วจึงมีโอกาสได้ฟัง ได้ศึกษา ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้ฟัง

~ ถ้าสะสมความดีมามาก ก็ย่อมจะกระทำความชั่วได้ยากเหลือเกิน ไม่สามารถจะกระทำได้อย่างง่ายๆ เพราะสะสมมาที่จะละอาย รังเกียจในสิ่งที่ไม่ดี

~ แต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาจากพระปัญญา ซึ่งรู้ว่าสัตว์โลกไม่รู้ เพราะฉะนั้น ความรู้จะไม่มีเลยถ้าพระองค์ไม่ทรงแสดงธรรม เพราะฉะนั้น แต่ละคำ ฟังไว้ เพื่อที่จะค่อยๆ เข้าใจจนกระทั่งสามารถที่จะรู้ความจริงได้ตามลำดับ

~ ถ้าไม่มีการฟังพระธรรมเลย ก็จะต้องเป็นอย่างนี้ในสังสารวัฏฏ์ คือ ไม่รู้ความจริง เหมือนมืดสนิท หลงว่ามีสิ่งนั้นสิ่งนี้ โดยที่ไม่มีเลย จากชาตินี้ไปก็ไม่เหลือแล้ว แต่ละชาติๆ ก็ไม่เหลืออะไรเลย

* * ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ * *

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๖๙





...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 23 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
mammam929
วันที่ 23 ส.ค. 2563

กราบบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์และกราบอนุโมทนาในกุศลจิตทุกขณะที่เข้าใจความจริงค่ะ สาธุๆ ๆ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
natthayapinthong339
วันที่ 23 ส.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
saman_pacific
วันที่ 23 ส.ค. 2563

กราบอนุโมทนา ในกุศลจิต ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
j.jim
วันที่ 23 ส.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
มกร
วันที่ 23 ส.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
panasda
วันที่ 24 ส.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
kukeart
วันที่ 24 ส.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
jaturong
วันที่ 25 ส.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ