ขอโอกาสเรียนถามถึงเรื่องการทำน้ำมนต์

 
Pharinyapon
วันที่  3 ก.ค. 2563
หมายเลข  32010
อ่าน  593

ขออนุญาติเรียนถามท่านผู้รู้ เรื่องการทำน้ำมนต์

คือดิฉันไม่เข้าใจ ในเมื่อพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ให้เชื่อเรื่องของกรรมและผลของการกระทำ ถ้าเป็นเช่นนั้น ภัยต่างๆ ที่เกิดในเมืองเวสาลีเกิดจากอะไร ทำไมภัยต่างๆ ในเมื่องเวสาลีถึงระงับเพราะพระอานนท์กระทำพระปริตรและประพรมน้ำพุทธมนต์

ที่สงสัยเช่นนี้เพราะได้สนทนากับภิกษุเรื่องการทำน้ำมนต์ ซึ่งท่านก็เชื่อว่าน้ำมนต์เป็นสิ่งศักดิ์รักษาโรคภัยไข้เจ็บอะไรๆ และได้ยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด

และยังมีเรื่อง คือเรื่องอายุวัฒนกุมาร ที่จะตายในวันที่ ๗ แต่เพราะบิดาและมารดานิมนต์ภิกษุสงฆ์และพระพุธทเจ้ามาเจริญพระปริตร ทำให้มีอายุยืนยาว และมีคาถาว่า พร ๔ ประการย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีปกริไหว้กราบ มีปกติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่เป็นนิตย์ คาถานี้หมายถึงอะไรคะ

จากทั้งสองเรื่องนี้ขอท่านผู้รู้ช่วยอธิบายให้ความรู้ไขข้อสงสัยของดิฉันด้วย

ขออนุโมทนา


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 4 ก.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การใช้น้ำ ประพรม ในสมัยพุทธกาล เพื่อให้ประชาชน เกิดสติ มิใช่ เพื่อรักษาโรค ป้องกันอันตราย เพราะ ขณะที่พรมน้ำนั้น ได้มีการแสดงธรรม ให้ ประชาชนเข้าใจด้วย คือ แสดงรัตนสูตร ชาวเมืองเกิด กุศลจิตที่ได้ฟัง ได้เข้าใจ และ เกิด การรู้ตัวที่ได้โดนน้ำปะพรม ให้เกิด รู้ตัวที่จะฟังธรรมไปในขณะนั้น กุศลจิตของตนเองที่เกิดนั่นแหละเป็นเครื่องป้องกันอันตรายในขณะนั้นครับ ซึ่งพระพุทธเจ้า ทรงติเตียน การทำน้ำมนต์

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 318

(๑๒๐) ๗. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่น อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ ทำพิธีบนบาน ทำพิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี สอนมนต์ป้องกันบ้านเรือน ทำกะเทยให้กลับเป็นชาย ทำชายให้กลายเป็นกะเทย ทำพิธีปลูกเรือน ทำพิธีบวงสรวงพื้นที่ พ่นน้ำมนต์ รดน้ำมนต์ ทำพิธีบูชาไฟ ปรุงยา...

คำบรรยายท่านอาจารย์สุจินต์ ดังนี้

เพราะฉะนั้นเรื่องของสีลัพพตปรามาส เป็นเรื่องที่ต้องเป็นปัญญาที่รู้ลักษณะของสภาพธรรม ต้องพิจารณาในเหตุผล ต้องเข้าใจตามความเป็นจริง ไม่ใช่เพียงแต่ฟังตาม เชื่อตาม หรือประพฤติปฏิบัติตาม อย่างท่านพระอานนท์ในรัตนสูตร ท่านเป็นพระโสดาบัน ท่านไม่มีสีลัพพตปรามาส ท่านผู้ฟังคิดว่าท่านพรมน้ำมนต์ ใช่ไหมคะ ในรัตนสูตร แต่ขอให้พิจารณา ท่านพระอานนท์เถระเป็นเอตทัคคะถึง ๕ สถาน และท่านเป็นพระโสดาบันบุคคลในขณะนั้น ท่านดับมิจฉาทิฏฐิ ละ สีลัพพตปรามาสหมดไม่มีเหลือเลย แต่เมื่อดูภายนอกท่านผู้ฟังก็อาจจะถือว่า เป็นต้นเหตุของการปะพรมน้ำมนต์ แต่ความจริงท่านพระอานนท์ไม่มีสีลัพพตปรามาส การที่จะเตือนให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดระลึกถึงพระคุณของพระรัตนตรัยในโอกาสต่างๆ

สำหรับการสวดต่ออายุ ในความเป็นจริง การสิ้นชีวิตเป็นผลของกรรม คือ เมื่อถึงเวลาก็สิ้นชีวิต จุติจิตเกิดขึ้น เมื่อถึงเวลาอันสมควร อันตามเหตุปัจจัยที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องของผลของกรรมที่เป็นวิบาก จึงไม่มีใครจะบังคับบัญชาให้เป็นไปตามใจ หรือ ตามต้องการได้ครับ ในพระไตรปิฎก ได้แสดงในเรื่องการต่ออายุ ในคาถาธรรมบท เรื่อง อายุวัฒนกุมาร ซึ่ง เด็กคนนี้ อาจจะสิ้นอายุในอีกไม่กี่วันข้างหน้า บิดา มารดาของเด็ก ได้นิมนต์ พระภิกษุสงฆ์และมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน เลี้ยงภัตตาหาร และให้มีการสวดพระธรรม ยักษ์ที่จะเอาชีวิตเด็ก จึงไม่มีโอกาส เพราะเทวดามาประชุมกันมาก ยักษ์ไม่ไ่ด้โอกาสที่จะเข้าใกล้เด็ก เพื่อเอาชีววิตเด็กครับ ทำให้เด็กมีอายุยืนต่อจากนั้น ซึ่งถ้าไม่แยบคายก็คิดว่า เพราะมีการสวด จึงทำให้ต่ออายุของเด็กได้ในเรื่องนี้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เพราะผลของบุญของเด็กเองที่อุปถัมภ์ให้เด็กมีชีวิตต่อ หากไม่ถึงคราวที่จุติจิตจะเกิด คือ สิ้นชีวิต ก็ไม่สามารถทำให้สิ้นชีวิตไ้ด้ครับ แต่เพราะบุญของเด็กเองที่ตามอุปถัมภ์ จึงไม่ทำให้เด็กสิ้นชีวิตในตอนนั้น แต่ไม่ใช่การสวด จึงต่ออายุเด็กครับ ซึ่งในเรื่องนี้ เด็กคนนี้ต่อมาก็ได้ฟังพะรธรรม บรรลุเป็นพระโสดาบันและได้มีอายุยืนนานครับ ก็เพราะผลของบุญของเขาเองเป็นสำคัญครับ ดังนั้นการสวดต่ออายุ จึงเป็นความเข้าใจผิด คลาดเคลื่อนมาจากการศึกษาพระธรรมที่ผิด ไม่ถูกต้องครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 4 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 4 ก.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาตลอดระยะเวลาสี่อสงไขยแสนกัปป์เมื่อครั้งที่ยังทรงเป็นพระโพธิสัตว์ (พระมหาสัตว์) ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานอย่างยิ่ง เพื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งจะได้เกื้อกูลสัตว์โลกให้หลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้แล้ว ทรงมีพระมหากรุณาต่อสัตว์โลก จึงทรงแสดงพระธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้โปรดสัตว์โลก ตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษา นับคำไม่ถ้วน ทั้งหมดนั้น เป็นไปเพื่อปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูกโดยตลอด ซึ่งมีผู้ที่ได้รับประโยชน์จากพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง มากมายนับไม่ถ้วน

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูก เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรม ไม่ใช่ อกุศลธรรม ถ้าคำสอนใดที่สอนให้พอกพูนอกุศลให้มากๆ สอนให้คนหลงงามงาย นั่นไม่ใช่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้ว ถ้าพุทธบริษัทไม่มีการศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบ ก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจได้เลย และ สำหรับในการศึกษานั้น ก็จะต้องมีจุดประสงค์ที่ถูกต้องในการศึกษาด้วย เพื่ออย่างเดียวเท่านั้น คือ ความเข้าใจถูก เห็นถูก ซึ่งเมื่อมีความเข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ความประพฤติอันดีงามทั้งหลายทั้งปวง ก็ย่อมจะคล้อยไปตามความเข้าใจพระธรรม นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นบรรพชิต หรือ คฤหัสถ์ก็ตาม ถ้าได้เข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ย่อมเป็นประโยชน์เกื้อกูล ทั้งนั้น ย่อมไม่เป็นเหตุให้กระทำการใดๆ ที่ผิด หรือ นอกเหนือไปจากคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างแน่นอน

สิ่งที่ไม่ดี ได้แก่ กิเลส อันเป็นเครื่องเศร้าหมองของจิต นั้น การที่จะขับไล่สิ่งที่ไม่ดี คือ กิเลส ออกได้ ไม่ใช่ด้วยอย่างอื่น แต่ด้วยการสะสมกุศลประการต่างๆ ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา กุศลจิต เกิดขึ้นได้ตาม เหตุปัจจัยโดยอาศัยความเข้าใจและการเห็นโทษของกิเลส ที่เกิดจากได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมในชีวิตประจำวัน เพราะถ้ายังไม่เห็นโทษของกิเลส ก็ยังละกิเลสไม่ได้ และถ้ายังไม่เข้าใจ ก็หมายความว่า ยังไม่เห็นโทษของกิเลส อยู่นั่นเอง

เพราะฉะนั้นแล้ว จึงควรอย่างยิ่งที่จะได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมปัญญาไปตามลำดับ เพื่อละความไม่รู้ เพื่อเห็นโทษของอกุศลตามความเป็นจริง และเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเอง ต่อไป ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Pharinyapon
วันที่ 4 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาค่ะ ขอบพระคุณอาจารย์ทั้งสองท่านที่ช่วยให้คำตอบที่ก่อให้เกิดความเข้าใจค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ประสาน
วันที่ 5 ก.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 5 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
พัชรีรัศม์
วันที่ 8 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 8 ม.ค. 2564

ขอเชิญรับฟัง...

รัตนสูตร

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ