ไม่ควรตั้งต้นด้วยความต้องการบรรลุธรรม

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  17 มี.ค. 2550
หมายเลข  3089
อ่าน  1,851

ผมมีความเห็นว่า การศึกษาธรรมนั้น ไม่ควรตั้งต้นด้วยความต้องการบรรลุธรรม อันจะนำไปสู่ความคิด และการกระทำต่างๆ ที่คิดว่าจะช่วยให้ได้รับในสิ่งที่อยากได้นั้น แต่ผู้ศึกษาควรมีความตั้งใจที่จะศึกษาเพื่อให้เกิดความเข้าใจในพระธรรม ด้วยความศรัทธาในพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิ-คุณ และ พระมหากรุณาคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า และด้วยความนอบน้อมและเคารพในธรรม เมื่อเหตุสมควรแก่ผล นั่นคือ ความเข้าใจที่สะสมมามากเพียงพอเมื่อใด เมื่อนั้นก็จะบรรลุธรรมได้ โดยปราศจากความต้องการใดๆ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
praisin
วันที่ 17 มี.ค. 2550

แต่ผมเห็นว่าเมื่อเรามีความทุกข์เราก็ต้องการดับทุกข์ คือทำอย่างไรจึงจะดับทุกข์ได้ โดยไม่ฆ่าตัวตาย

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
devout
วันที่ 17 มี.ค. 2550
จะดับทุกข์ ก็ต้องรู้เหตุของทุกข์ใช่มั้ยค่ะ แล้วเหตุของทุกข์คืออะไร ทราบหรือยังค่ะ?
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 18 มี.ค. 2550

ถึงแม้ว่าอยากจะบรรลุ แต่ถ้าไม่ได้สะสมเหตุปัจจัยมา ทำอย่างไรก็ไม่บรรลุ เปรียบเหมือนกับที่ซื้อสลากกินแบ่งของรัฐบาล ทุกคนที่ซื้อก็อยากจะถูก ไม่ใช่เพราะความอยากถูกจึงถูก แต่ที่เขาถูกก็เพราะเขาเคยทำเหตุของกุศลมา ทำให้เขาถูกสลากกินแบ่งของรัฐบาล

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
PUM
วันที่ 18 มี.ค. 2550

การตรัสรู้ เป็นพุทธวิสัย และหน้าที่ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนพุทธบริษัทมีหน้าที่ศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมเพื่อพิสูจน์ให้เห็นจริงด้วยตน เพราะฉะนั้นปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธต้องเป็นไปโดยลำดับ ข้ามขั้นไม่ได้ หลายคนคิดว่าการปฏิบัติธรรม คือการนั่งสมาธิแล้วเมื่อจิตเป็นสมาธิแล้วธรรมก็จะผุดขึ้นมาเองโดยไม่ต้องศึกษาซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะการตรัสรู้ไม่ใช่สาวกวิสัย การศึกษาธรรมเพื่อหาหนทางกำจัดหรือบำบัดทุกข์ก็ควรเริ่มศึกษาโครงร่างหลักสูตรก่อน คือ อริยสัจ ๔ จะได้รู้ว่าทุกข์มีอะไรบ้าง อะไรคือเหตุแห่งทุกข์ (สมุทัย) เพราะจะดับทุกข์ต้องดับที่เหตุ อะไรคือความดับทุกข์ (นิโรธ) และหนทางใดที่จะไปถึงซึ่งความดับทุกข์ (มรรค) แล้วจึงศึกษาให้ลึกในรายละเอียด เมื่อทำความเข้าใจกับ อริยสัจ ๔ แล้วก็จะรู้ว่า การฆ่าตัวตายไม่ใช่การดับทุกข์เพราะไม่ได้ดับที่เหตุแห่งทุกข์ ดังนั้น การฆ่าตัวตายจึงเป็นการหนีทุกข์ หนีปัญหาและยังเป็นการตอกย้ำซ้ำเติมตัวเอง โดยการสร้างนิสัยที่อ่อนแอให้ติดตัวไปในชาติต่อๆ ไปเมื่อชีวิตประสบปัญหา ก็แก้ปัญหาด้วยการฆ่าตัวตายอีก ตามความเคยชินที่สะสมมาเพราะฉะนั้น ถ้าศึกษาธรรมถูกวิธี เราก็จะรู้วิธีจัดการกับความทุกข์ได้ ความทุกข์บางอย่างที่รู้สึกว่าใหญ่หลวงสำหรับคนหนึ่งอาจจะดูเล็กน้อยสำหรับอีกคนหนึ่ง ก็เพราะวิธีคิดต่างกันมุ มมองปัญหาต่างกัน ไหนๆ ก็ทนทุกข์มาได้จนถึงวันนี้แล้ว ก็น่าจะทนทุกข์อีกหน่อยเพื่อศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ เพื่อจะได้วิธีดับทุกข์ที่ถูกต้องและตรงกับปัญหาที่สุด อย่างน้อยก็เป็นอุปนิสัยติดไปในชาติหน้า ดีกว่าฆ่าตัวตายไปโดยที่ปัญญาเท่าเดิม เสียทีที่เกิดเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ปุถุชนคนหนึ่ง
วันที่ 18 มี.ค. 2550

อนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
mamapapa
วันที่ 20 มี.ค. 2550

เมื่อฟังพระธรรมเข้าใจแล้ว ไม่ว่าใครกล่าว ก็จะมีความปิติโสมมนัสในคำกล่าวนั้น ในกรณีเช่นนี้ก็เช่นกัน

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
petcharath
วันที่ 21 มี.ค. 2550

ควรเริ่มฟังพระธรรมเพื่อความเข้าใจ ก่อนที่จะต้องการบรรลุ เพราะพระธรรมเป็นของยาก สะสมการฟังธรรมให้มากขึ้นค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
opanayigo
วันที่ 2 ก.ค. 2550

ศึกษาธรรม = ศึกษาทุกข์ = ศึกษาตนเอง

เห็นทุกข์ = เห็นธรรม

เห็นธรรม = เห็นธรรมดา

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน....ชนะตนนั่นแหล่ะดี

ขอนอบน้อมแด่คุณพระรัตนตรัย

อนุโมทนาในกุศลเจตนาทุกท่าน

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
suwit02
วันที่ 2 ก.พ. 2552

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
happyindy
วันที่ 2 ก.พ. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
pamali
วันที่ 22 ก.ย. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
chatchai.k
วันที่ 28 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ