วจีทุจริต 4

 
ฉีฟ่งจื้อ
วันที่  28 ม.ค. 2560
หมายเลข  28569
อ่าน  2,218

เรียน ท่านวิทยากร

การพูดเพ้อเจ้อเพื่อให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์คล้อยตามหรือสนุกสนานเฮฮา และการพูดโกหกเช่นไปไหนมา หรือไม่บางทีตอบไม่ตรงตามเป็นจริงว่าไม่ได้ไป แต่ไม่ทำให้เสียหาย กรณีทั้ง 2 ประการถือว่าได้ล่วงกรรมบถหรือไม่ และต้องลงอบายภูมิหรือไม่ และการพูดเช่นไรไม่ต้องลงอบายภูมิ

ขอบพระคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 28 ม.ค. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การพูดตลก ส่วนใหญ่จะเป็นคำไม่จริง เข้าข่ายพูดเท็จ ด้วย และอาจจะเป็นการพูดไร้สาระ ไม่เป็นประโยชน์ อันเป็นดิรัจฉานกถา ที่เป็นการพูดเพ้อเจ้อ เพราะเป็นการพูดที่ขวางทางสวรรค์ นิพพาน ไม่ได้เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมและปัญญา เลยแม้แต่น้อย

น่าพิจารณาเพิ่มเติม ในความหมายของการพูดเพ้อเจ้อ หรือ พูดสัมผัปปลาปะนั้น หมายถึง อกุศลเจตนาที่จงใจพูดในเรื่องที่ไม่มีประโยชน์แก่ผู้อื่น

การพูดเพ้อเจ้อ มีองค์ประกอบ ๒ อย่าง คือ มุ่งที่จะพูดคำที่ไร้ประโยชน์ และ มีการกล่าวถ้อยคำเช่นนั้นออกไป ซึ่งเกิดจากอกุศลจิต นั่นเอง แต่ก็ไม่ได้หมายรวมความว่า การพูดเรื่องทั่วไปแล้วจะเป็นการพูดเพ้อเจ้อทั้งหมด เพราะเหตุว่าพระธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียด ลึกซึ้ง และพิจารณาที่สภาพจิตเป็นสำคัญ เช่น การพูดกับผู้อื่นด้วยเมตตาจิต ถามถึงสุขทุกข์ และการพูดแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ในการดำรงชีวิตแก่ผู้อื่นด้วยกุศลจิต ครูอาจารย์สั่งสอนศิลปวิทยาเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับประกอบอาชีพที่สุจริตในภายภาคหน้า แก่ศิษย์ อย่างนี้ไม่เป็นการพูดเพ้อเจ้อ ดังนั้น การจะผิดอกุศลกรรมบถข้อการพูดเพ้อเจ้อ ซึ่งเป็นวจีทุจริต นั้น ต้องหมายถึงเฉพาะการพูดด้วยอกุศลเจตนา ให้ผู้อื่นรับรู้ในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ เท่านั้น และยังมีข้อที่ควรพิจารณาอีกคือ การพูดเรื่องเดียวกัน แต่จิตอาจจะต่างกันก็เป็นได้ ขึ้นอยู่กับว่า จะพูดด้วยกุศลหรือ ด้วยอกุศล เพราะวาจาก็เป็นไปตามจิต

เพราะฉะนั้น ประโยชน์ที่ได้จากการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ในส่วนของอกุศลธรรม นั้น ก็เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก เห็นโทษเห็นภัยของอกุศลธรรม แล้วถอยกลับจากอกุศลธรรม แม้จะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม เพราะเหตุว่า ถ้าเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยก็จะเป็นผู้ประมาท ในที่สุดแล้วก็จะเป็นอกุศลที่มีมาก มีกำลังล่วงจนกระทั่งล่วงเป็นทุจริตกรรมประการต่างๆ ได้ ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 28 ม.ค. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การพูดเพ้อเจ้อไร้สาระสนุสนานเฮฮา หรือ การพูดโกหก แม้เล็กๆ น้อยๆ ก็เป็นโทษทั้งนั้น เพราะเป็นอกุศล จะดีไม่ได้

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเตือนพุทธบริษัทในเรื่องการพูดไว้มากมาย ว่าสิ่งใดควรพูด สิ่งใดไม่ควรพูด กล่าวคือ หากเป็นเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์เป็นเรื่องที่เพิ่มอกุศลให้มีมากขึ้น มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น ทั้งคนพูดและคนฟัง ไม่ได้ทำให้กุศลเจริญขึ้นเลย คำพูดในลักษณะดังกล่าวนี้ เป็นดิรัจฉานกถา เป็นคำพูดที่ไม่เป็นประโยชน์ เป็นคำพูดที่ไม่ควรพูด พร้อมกันนั้นพระองค์ทรงแสดงเรื่องที่ควรพูด ควรสนทนากัน ไว้ด้วย คือ กถาวัตถุ ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส เป็นเรื่องการอบรมปัญญาเพื่อรู้ความจริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง เป็นต้น ซึ่งเป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง

เป็นความจริงที่ว่า ตราบใดที่ยังไม่ใช่พระอรหันต์ วาจาก็ย่อมไปกับกุศลบ้าง อกุศลบ้าง เป็นธรรมดา แต่สำหรับบุคคลผู้เห็นโทษของอกุศลธรรม เห็นประโยชน์ของการเจริญกุศลทุกประการ ย่อมหลีกเลี่ยงวาจาหรือคำพูดใดๆ ที่ไม่เป็นประโยชน์ทั้งแก่ตนและแก่ผู้อื่น เพราะการพูดคำพูดดังกล่าว ทำให้อกุศลธรรมเพิ่มมากขึ้น ทำให้กุศลธรรมเสื่อมลงอย่างเห็นได้ชัด และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยนั้น คือ เป็นผู้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาต่อไป ครับ

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
thilda
วันที่ 28 ม.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
kullawat
วันที่ 29 ม.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
kullawat
วันที่ 29 ม.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 2 ก.พ. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 4 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ