เปลี่ยนศาสนาบาปหรือไม่

 
จรัล
วันที่  12 ก.พ. 2550
หมายเลข  2811
อ่าน  5,573

1. ข้าพเจ้าได้เปลี่ยนศาสนา จากเดิมที่นับถือศาสนาอื่น มาเป็นพุทธเกือบ 25 ปีแล้ว (เปลี่ยนตอนอายุ 17 ปี) ซึ่งทำให้ข้าพเจ้ามีแนวทางที่ชัดเจนในการดำเนิน ชีวิต และทำให้ชีวิตส่วนตัว คนในครอบครัวมีความสุข ตลอดจนหน้าที่การงานก็มี ความเจริญก้าวหน้า แต่ทีข้าพเจ้ามีความทุกข์ใจอยู่อย่างหนึ่งก็คือข้าพเจ้าบาปหรือไม่ ที่ข้าพเจ้าเปลี่ยนศาสนา ท่านผู้ไดรู้แจ้งในเรื่องนี้ กรุณาตอบให้ข้าพเจ้าได้ทราบด้วย

2. มีคนเคยบอกข้าพเจ้าว่าทุกศาสนามีนรกและสวรรค์เดียวกันใช่หรือไม่ครับ

ขอบคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 12 ก.พ. 2550

๑. ตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงแสดงความหมายคำว่า บาปหรือบุญ หมายถึง สภาพจิต ถ้าจิตเป็นอกุศลเศร้าหมอง ทำให้ผู้อื่น และตนเองเดือดร้อน ชื่อว่า บาป ถ้าจิตดีผ่องใส เป็นกุศลไม่ทำให้ตน และผู้อื่นเดือดร้อน ชื่อว่า บุญ ฉะนั้น เมื่อมีศรัทธาในพระพุทธเจ้า หลัก ธรรมคำสอนของพระองค์ และสาวกของ พระองค์แล้ว กุศลและปัญญาเจริญขึ้น เป็นสิ่งที่ดี เป็นบุญไม่มีโทษใดๆ เลย คือ ไม่เป็นบาป

๒. ตามหลักธรรมของพระพุทธองค์แสดงภพภูมิต่าง อันเป็นที่เสวยผลของกรรมดีและกรรมชั่วที่ตน เคยกระทำไว้ ไม่มีแยกว่านรก หรือสวรรค์ของศาสนาไหน คือผู้ที่ ประกาศตนว่านับถือพระพุทธศาสนาแล้ว เมื่อกรรมชั่วให้ผลย่อมนำเกิดในนรก ผู้ที่ นับถือศาสนาอื่น เมื่อกรรมชั่วให้ผลย่อมเกิดในนรกเช่นกัน ไม่มีแยกหรือยกว้น ใน ทางตรงกันข้ามถ้ากรรมดีให้ผลย่อมนำเกิดในสวรรค์ ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
devout
วันที่ 12 ก.พ. 2550

เรื่องชื่อเป็นเพียงบัญญัติเท่านั้นนะคะ เพราะโดยความเป็นจริง (ปรมัตถ์) มีแต่ เพียงสภาพธรรม กุศลไม่ว่าจะเป็นศาสนาไหน เกิดกับใครก็เป็นกุศล อกุศลก็เช่นเดียวกัน

ปุถุชนนั้นยังมีศรัทธาที่ไม่มั่นคง ย่อมไหลไปตามอำนาจของความเห็นผิด ทำให้ยึดถือข้อปฏิบัติที่ผิด ที่ไม่ใช่หนทางที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ส่วนพระอริยบุคคลท่าน ดับความเห็นผิด คือ ทิฏฐานุสัย และความลังเลสงสัยไม่แน่ใจ คือ วิจิกิจฉานุสัยได้ จึงทำให้ท่านมีศรัทธาที่มั่นคงในพระรัตนตรัย และไม่ยึดถือข้อปฏิบัติที่ผิด (ศีล พรตปรามาส)

สิ่งใดที่ทำให้กุศลและปัญญาของท่านเจริญ ควรมีสิ่งนั้นเป็นสรณะโดยเฉพาะคำ สอนที่นำออกจากสังสารวัฏฏ์ ก็มีเพียงพุทธศาสนานี้เท่านั้น

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
PUM
วันที่ 12 ก.พ. 2550

1. ในทางพุทธศาสนา บาป ได้แก่ อกุศลกรรมบท 10 (การประพฤติทุจริตทางกาย,ทางวาจาและทางใจ) ถ้าท่านกระทำอกุศลกรรมบท 10

ถือว่าเป็น "บาป"

2. ในแต่ละประเทศก็มีกฏหมายเป็นของตนเอง ใครทำผิดที่ไหนก็ต้องได้รับการพิพากษาตามบทกฏหมายของประเทศนั้นๆ ซึ่งในความรู้สึกของแต่ละคนอาจรู้สึกว่า ยุติธรรมบ้าง ไม่ยุติธรรมบ้าง หรือรุนแรงเกินไปบ้าง แต่ในพระพุทธศาสนาทุกคน ทุกผู้ทุกนามจะต้องถูกพิพากษาด้วยกฏเดียวกัน คือ กฏแห่งกรรม ไม่มีการแบ่งแยกชาติชั้นวรรณ ยุติธรรมเท่าเทียมกันหมด สุดท้ายนี้ ขอแสดงความยินดีที่พุทธศาสนามีศานิกเพิ่มขึ้น และดีใจที่ท่านเจ้าของคำถามเป็นพุทธศาสนิกที่ใฝ่ศึกษามิได้เป็นพุทธแค่ตัวอักษรในทะเบียนบ้าน

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 12 ก.พ. 2550

เปลี่ยนศาสนาอื่นมานับถือพุทธไม่บาปหรอก เพราะทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดีก็จริง แต่ศาสนาอื่นไม่ได้สอนเรื่องของการอบรมปัญญาที่ให้พ้นทุกข์ ไม่ต้อง เวียนว่ายตายเกิดอีก คุณมีบุญมากที่ได้พบธรรมะที่ประเสริฐที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ไว้ ให้พวกเราได้อบรมปัญญา (การเจริญสติปัฎฐาน)

ส่วนบางคนนับถือพุทธ ได้เจอคำสอนจากพระไตรปิฎกโดยตรง แต่เพราะวิบาก- กรรมของเขา เขาก็เลยไปนับถือศาสนาอื่น หรือไปปฏิบัติผิด เพราะความใจร้อน อยากได้ผลเร็ว ๆ น่าเสียดายจริงๆ เพราะฉะนั้น ใครที่จะพบหนทางถูกหรือผิดก็ ขึ้นอยู่กับบุญหรือวิบากกรรมของเขา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pornchai.s
วันที่ 13 ก.พ. 2550

ประเทศไทย มีผู้นับถือ พระพุทธศาสนาแต่ในทะเบียนบ้าน มากมาย โดยไม่เข้าใจคำสอนของพุทธองค์ มีศรัทธา แต่ไม่เข้าใจหนทางการอบรมเจริญปัญญาที่ถูกต้อง เพราะไม่ได้ศึกษาพระธรรมนั่นเอง แม้ัในกลุ่มที่มีการศึกษาพระไตรปิฎก ศึกษาพระ- อภิธรรม ก็ยังปฏิบัติผิดเป็นจำนวนมาก เพราะคนเหล่านั้น คิดว่า การปฏิบัติธรรม ต้องมีรูปแบบ ต้องมีข้อปฏิบัติ เป็น ข้อๆ ต้องนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ ต้องเดินจงกรม ต้องเข้าห้องปฏิบัติ มีระยะเวลาไปเข้าอบรม ปฏิบัติธรรม ฯลฯ ล้วนเป็นความเห็นผิดทั้งนั้นครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ธีรวังโส
วันที่ 13 ก.พ. 2550

อวิชชาเป็นธัมอันเป็นเบื้องต้นของทุกข์ใช่หรือไม่ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
study
วันที่ 13 ก.พ. 2550

[เล่มที่ 26] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้าที่ 194

๕. ปฐมอวิชชาปัจจยสูตร

[๑๒๘] พระผู้มีพระภาคเจ้า ประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่าดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ ฯล ฯ ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อม มีด้วยประการอย่างนี้.

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
unknown
วันที่ 17 ก.พ. 2550

เปลี่ยนศาสนาแล้วเปลี่ยนความเข้าใจด้วยรึเปล่าครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
อารายเนี่ย
วันที่ 16 พ.ค. 2550

เรื่อง เปลี่ยศาสนาบาปหรือไม่

[เล่มที่ 39] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 12

แสดงสรณคมน์ขาด ไม่ขาด และผล บัดนี้ จะแสดงสรณคมน์ขาดเป็นต้น ที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้ว่า จะแสดงสรณคมน์ขาดและไม่ขาดทั้งผล ทั้งสรณะที่ควรถึง ดังต่อไปนี้. การขาดสรณคมน์ ของบุคคลผู้ถึงสรณคมน์อย่างนี้ มี ๒ อย่าง คือมีโทษและไม่มีโทษ การขาดสรณคมน์เพราะการตาย ชื่อว่าไม่มีโทษ การขาดสรณคมน์เพราะหันไปนับถือศาสดาอื่น และประพฤติผิดในพระศาสดานั้น ชื่อ ว่ามีโทษ

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
lovedhamma
วันที่ 27 มิ.ย. 2556

เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ ขออนุโมทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ