การถกถียงเรื่องธรรมะ

 
litarn
วันที่  2 ก.พ. 2550
หมายเลข  2760
อ่าน  1,226

พอดีนั่งเปิดเว็บไซต์บ้านธัมมะที่ทำงาน และมีเพื่อนเข้ามาถาม บทสนทนาเรื่องธรรมะ จึงเกิดขึ้น มีเพื่อนบางคนพยายามถกเถียง และบอกว่าสิ่งที่เราศึกษาไม่จริงบ้าง บางคน ก็พูดจาส่อเสียดว่าเราทำตัวเป็นคนแก่ศึกษาธรรมะ จนในที่สุดเราก็เกิดโมโหขึ้นมา แต่ ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร ช่วยแนะนำด้วยค่ะ ว่าควรทำอย่างไร จิตใจจึงจะไม่โกรธ ไม่โมโห อย่างนี้

ขอกราบขอบพระคุณไว้ ณ โอกาสนี้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 2 ก.พ. 2550

การอยู่ร่วมกับสังคมต้องอาศัยขันติความอดทนอดกลั้นกับคำพูดของคนทั่วไป ควร เจริญเมตตากับทุกคน ควรศึกษาว่าสภาพธรรมแต่ละอย่างที่ปรากฏเป็นเพียงธัมมะ อย่างหนึ่ง พระพุทธองค์ตรัสว่าในโลกนี้คนส่วนมากเป็นคนทุศีลไม่มีคุณธรรม เราควร อดทนเหมือนช้างที่เข้าสู่สงครามฉะนั้น

เชิญคลิกอ่านที่นี่...

อดทนเหมือนช้างที่เข้าสู่สงคราม [เรื่องพระนางสามาวดี]

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
study
วันที่ 2 ก.พ. 2550
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
medulla
วันที่ 2 ก.พ. 2550

ถ้ากับคนที่เค้าไม่ศรัทธาการศึกษาพระธรรม และยังกล่าวว่าต่างๆ นานา คงต้อง งดเสวนาเรื่องนี้กับพวกเขาเลยค่ะ เพราะเรื่องศาสนา แม้แต่เรื่องการเมือง ถ้าความ คิดและแนวทางผิดแผกแตกต่างกัน จะทำให้แตกคอกันได้ง่ายค่ะ ตามเวบบอร์ดที่ สนทนาธรรม ถ้าเวบบอร์ดไหนเราเห็นว่าไม่ใช่ทาง ก็ไม่ควรเข้าไปอ่านให้เสียเวลา ทำให้สะสมความรู้สึกปั่นป่วนสับสน เถียงไปเถียงมาจะกลายเป็นคนโมโหง่าย ใครว่า อะไรหน่อยก็ทนไม่ได้ ก็คงต้องพยายามงดเสวนา งดอ่านความคิดเห็นตามที่อโคจร ต่างๆ เสวนาตามกาลที่เหมาะสม เน้นฟังธรรมอย่างมั่นใจ ไม่ต้องสนใจเสียงรอบข้าง

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
litarn
วันที่ 2 ก.พ. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 2 ก.พ. 2550

พระพุทธเจ้าตรัสเรื่องมงคลสูตร ข้อที่ 1 ไม่คบคนพาล ถ้าจำเป็นต้องคบก็เพื่อ อนุเคราะห์เท่านั้น วาทะลับหลังใด ไม่เป็นจริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่ พึงกล่าววาทะนั้นเป็นอันขาด วาทะลับหลังใด จริง แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์พึงสำเหนียกเพื่อจะไม่กล่าววาทะนั้น วาทะลับหลังใด จริงแท้ ประกอบด้วยประโยชน์พึงเป็นผู้รู้จักกาล เพื่อจะกล่าววาทะนั้น วาจาสุภาษิต มีองค์ 5 กล่าวตามกาล กล่าว แต่คำสัตย์ กล่าววาจาอ่อนหวาน กล่าววาจาประกอบด้วยประโยชน์ กล่าว ด้วยเมตตาจิต (ต้องอบรมปัญญาจนกว่าจะเป็นพระอนาคามีจึงจะไม่โกรธ)

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
pornpaon
วันที่ 2 ก.พ. 2550
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 3 ก.พ. 2550

ที่สำคัญจุดประสงค์ในการศึกษาต้องถูก นี่เป็นจุดที่สำคัญที่สุด ของผู้ที่ศึกษา ธัมมะทุกคน เพราะเหตุใด เพราะเมื่อจุดประสงค์ผิด ทุกอย่างก็ผิด เช่น ต้องการรู้เยอะๆ สิ่งนี้เรายังไม่รู้เลยต้องรู้ให้ได้ ซึ่งจุดประสงค์ที่ถูกคือเพื่อดับกิเลส และขัดเกลากิเลส ไม่เช่นนั้นถ้าจุดประสงค์ผิด ก็จะเป็นการศึกษาที่จับงูพิษที่หาง งูก็กัดเขาเอง จุด ประสงค์ผิด ก็ทำให้กายวาจาผิด โดยมีการทุ่มเถียง เป็นผลมาจากการศึกษาผิด ครับ จะขอยกตัวอย่าง ในพระไตรปิฎก เกี่ยวกับ การศึกษาที่ผิด และ ธรรมวินัยของ พระพุทธเจ้า ผลที่แท้จริงคืออะไร

เชิญคลิกอ่านที่นี่...

ศึกษาพระธรรมผิด.....เปรียบเสมือนการจับงูพิษที่ข้างหาง

ตถาคตมีวิชชาและวิมุตติเป็นผลานิสงส์ [กุณฑลิยสูตร]

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ