เผยแพร่พระธรรมที่ศรีลังกา (12) ปีติอย่างยิ่ง ณ อนุราธปุระ
ร่วมกันเจริญกุศล วันที่ 18 ตุลาคม 2558
คณะชมรมบ้านธัมมะ 155 ท่าน อยู่สถานที่เดียวกัน ALIYA RESORT ที่พักสบาย สวย อาหารดี แทบทุกคนชอบกัน ขอบคุณกัน พี่วันชัยขอถ่ายรูป ปกติไม่ถ่าย บอกพี่ขอแล้วกัน แทนคำขอบคุณโรงแรมนี้ ก็ตามสบายพี่แล้วกันครับ และก็บอกพี่ๆ เป็นวิบากของสหายธรรม ไม่มีใครทำให้ วันนี้กิจกรรมแน่น เจริญกุศลกันเต็มที่
เริ่มด้วยไปมหินทเล ที่แปลว่า ภูเขาของมหิน ก็คือ พระมหินเถระ ผู้เป็นพระภิกษุที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาที่ประเทศศรีลังกา วันนี้สหายธรรมออกแต่เช้า ส่วนบางส่วนก็สนทนาธรรมที่โรงแรม ALIYA RESORT กับท่านอาจารย์สุจินต์ ก็เป็นไปตามเหตุปัจจัยของแต่ละท่าน แต่ละคน ไม่มีใครจัดการ บังคับ ธรรมจัดสรรทั้งสิ้น
ออกเดินทางไปมหินทเล เวลาแปดโมงเช้า แอบเซอร์ไพรส์สหายธรรม เตรียมขบวนแห่ เต้น ของศรีลังกา เพื่อนำคณะและนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งทางผู้จัดได้จัดไว้เป็นพิเศษ
เดินทางถึงมหินทเลกัน ตามที่นัดหมาย เจ้าอาวาสของวัดมหินทเลพาคณะเราไป พร้อมกับขบวนแห่ เต้นของศรีลังกา จริงๆ บันไดก็สูง แต่เพราะขบวนแห่ เพลินตาไป ลืมเมื่อยและ ตื่นตาตื่นใจกัน ลืมหมดว่าเป็นธรรม แต่ก็นะครับ เป็นปกติที่เป็นธรรมไม่ใช่เรา นึกได้ตอนหลังก็ยังดี
เดินทางถึง เจดีย์บรรจุพระธาตุของพระมหินเถระ ก็ประทักษิณและไหว้กันตามสมควร เจ้าอาวาสพาเข้าไปในวัด โชคดีของสหายธรรมที่ได้มาครั้งนี้ เจ้าอาวาสท่านได้ให้นมัสการพระบรมสารีริกธาตุอย่างใกล้ชิดและ พระธาตุของพระมหินเถระ ก็กุศลจิตเกิดกันไปมากน้อยของแต่ละท่าน ตามการสะสม และ การใกล้ชิดพระพุทธเจ้าแท้จริง คือ ความเข้าใจพระธรรม
ปีนเขากันต่อ ขึ้นไปที่พระมหาเสยะเจดีย์ พระมหาเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่สุมนสามเณรอันเชิญมาจากพระเจ้าอโศกมหาราช นมัสการบูชาด้วยใจ จิตที่เป็นกุศล ก็ผันผ้า พระเจดีย์เก่าที่บรรจุพระธาตุพระมหินเถระ เป็นอันเรียบร้อยในกิจกรรมเจริญกุศลที่มหินทเล
หลังจากนั้น คณะของเราก็เดินทางไปสถานที่สำคัญมากอีกแห่ง คือ พระมหาเจดีย์ถูปาราม สถานที่ประดิษฐานพระรากขวัญเบื้องขวา หรือกระดูกไหปลาร้าเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า หากได้ทราบประวัติ จะเห็นถึงความสำคัญยิ่ง เพราะพระพุทธเจ้าสามพระองค์ก่อนก็ได้ทรงมาประดิษฐานบริโภคเจดีย์ มี ประคดเอว เป็นต้น คณะร่วมบูชาด้วยผ้าทองพันพระเจดีย์และดอกดาวเรืองและดอกบัว ท้องฟ้าสดใส แดดแรงจ้า พื้นร้อนระอุ แต่การได้เกิดกุศลเป็นพุทธบูชา ย่อมมีค่าและคุ้มกับความอดทนที่จะได้เกิดกุศล ที่ชาติหนึ่งที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นและพระศาสนายังคงอยู่และพร้อมด้วยศรัทธา จึงเป็นขณะอันประเสริฐยิ่ง ครับ
กลับจากถูปาราม คณะท่านอาจารย์ที่สนทนาธรรมที่โรงแรม ก็เตรียมตัวออกมาสมทบ ตอนบ่ายกัน ที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เดินทางพบกัน ณ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่เป็นต้นเดิมจากพุทธคยา พระสังฆมิตตาเถรี อัญเชิญมาจากพุทธคยา ณ กาลครั้งหนึ่งที่ประเสริฐ
ฝนเริ่มตกปรอยๆ ทำให้อากาศที่ร้อนเริ่มเย็นสบาย คราวที่แล้วมากัน ณ ที่นี่ ร้อนมากๆ จนมีคนเป็นลมแดด แต่วันนี้ ฝนระงับความเร่าร้อน พร้อมๆ กับกุศลจิตที่เกิดขึ้นบ้าง ที่น้อมนมัสการต้นพระศรีมหาโพธิ์ดับความเร่าร้อน คือ กิเลส ในบางขณะ
ถึง ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ท่านอาจารย์สุจินต์กราบต้นพระศรีมหาโพธิ์นำคณะประทักษิณ และ มุ่งหน้าต่อ พระมหาเจดีย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มีพระบรมสารีริกธาตุมากที่สุด คือ พระมหาเจดีย์รุวันเวลิสายะ
เตรียมดอกบัวไว้ สามพันดอก และ ผ้าพันพระมหาเจดีย์ที่ต้องใช้ผ้าสามร้อยเมตร ดอกบัวพับไว้แล้ว เพื่อสะดวกกับคณะในการทำเวลาที่จะทำกิจกรรมต่อไปคือนมัสการพระบรมสารีริกธาตุที่วัดมหาวิหาร อันเป็นวัดแห่งแรกของอนุราธปุระและเป็นวัดที่พระพุทธโฆษาจารย์ที่แปลพระไตรปิฎกอยู่ที่นี่
สหายธรรมร่วมกันวางดอกบัว จนรอบพระเจดีย์และทำประทักษิณ และพันผ้ารอบพระมหาเจดีย์ และท้ายสุด คณะกล่าวนอบน้อมพระรัตนตรัยและอุทิศส่วนกุศลให้พระเจ้าทุฏคามนีอภัย ที่พระองค์ทรงสร้างพระมหาเจดีย์นี้จนเสร็จ
หลังจากนั้น คณะเดินทางไปวัดมหาวิหาร ร่วมนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ท่านอาจารย์ถวายผ้าไตรกับเจ้าอาวาสและนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ และ คณะถวายโคมเทียน กับทางวัดทั้งหมด เป็นอันกุศลกรรมทำสำเร็จแล้ววันนี้ ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขออนุโมทนากับกุศลจิตและวิริยะ และชมรมบ้านธัมมะที่เดินทางไปครั้งนี้ทุกท่าน
ขออนุโมทนา
ชอบถ่ายรูปก็ปกติ ไม่ชอบถ่ายรูปก็ปกติ ไม่ชอบให้ถ่ายรูปก็ปกติ ชอบให้ถ่ายรูป (ตัวเอง) ก็ปกติ ชอบเขียนก็ปกติ ไม่ชอบเขียนก็ปกติ ชอบอ่านก็ปกติ ไม่ชอบอ่านก็ปกติ ชอบเที่ยวก็ปกติ ไม่ชอบเที่ยวก็ปกติ ไม่ทำอะไรที่ผิดไปจากปกติ เมื่อเข้าใจว่า ทุกสิ่งที่ปรากฏในขณะนี้ ปรากฏ เพราะเกิดแล้ว เป็นปกติ เป็นธรรม ไม่ใช่เรา ขออนุโมทนาทุกท่านในความตรง ในความเข้าใจธรรม ที่แม้จะเกิดขึ้น หรือไม่เกิดขึ้น ก็เป็นปกติ ครับ
