สับสนกับการเรียนต่อมหาวิทยาลัย

 
Stamp
วันที่  17 เม.ย. 2558
หมายเลข  26460
อ่าน  1,098

ตอนนี้หนูอายุ 18 ซึ่งกำลังจะเข้ามหาลัย มหาลัยที่อยากเข้าก็สอบไม่ติด เหลือแต่มหาลัยแถวบ้านแต่มหาลัยนี้การเรียนการสอนและสังคมไม่ค่อยดี เพราะจะมีแต่คนที่ไม่ค่อยเรียนมารวมๆ กัน เขาบอกว่าจบไปก็ไม่ค่อยจะรับทำงาน ไม่รู้จะเอายังไงดีค่ะ จะเรียนหรือจะรอสอบปีหน้าดีอยากอยู่ที่ๆ สังคมดีๆ พากันไปเรียนยังงี้มากกว่า กลัวว่าถ้าเรียนในมหาลัยที่ไม่ดีกลัวว่าจะเสียคน กลัวโดนหลอก หลงผิดไปในสิ่งที่ไม่ดี ตอนนี้อาจจะคิดได้อยู่ว่าอะไรผิด ถูก แต่ถ้าได้ไปอยู่ในสังคมแบบนั้นจริงๆ ก็อาจจะเลี่ยงไม่ได้เพราะเจอผู้คนที่ไม่ดี ก็เข้าใจว่าการที่ได้เจอผู้คน เรื่องต่างๆ เป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา แต่ยังไงก็ต้องเลือกอยู่ดี เลยสับสนมากค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 17 เม.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ทุกอย่างเป็นไปตามสภาพธรรมที่จัดสรร ไม่มีใครที่จะรู้อนาคต หรือ รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แม้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่คิดว่าดีแล้ว ก็เปลี่ยนแปลงได้ ตามเหตุปัจจัย เพราะฉะนั้น คฤหัสถ์ ก็ควรที่จะเรียน ศึกษาเพื่อสำหรับประกอบอาชีพในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยใด หากเป็นวิชาชีพ ก็สามารถที่จะประกอบอาชีพในอนาคตได้ ขึ้นอยู่กับตั้งใจเรียนแสวงหาความรู้ในขณะนั้น ซึ่ง ทุกอย่างไม่พ้นจากกรรมและผลของกรรม แต่ ไม่ลืมที่สุด ศึกษาพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง จะได้วิชชา คือ ปัญญาที่นำทางชีวิต และ เข้าใจชีวิตได้อย่างแท้จริง ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 17 เม.ย. 2558

ขอนอนน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

แม้ว่าจะไม่ได้เรียนในมหาวิทยาลัย ก็สามารถเรียนรู้วิชาชีพต่างๆ ได้ เพื่อประกอบอาชีพการงานเพื่อประคับประคองชีวิตให้เป็นไปอย่างไม่เดือดร้อน พร้อมกับไม่ประมาทในการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา เพราะชีวิตเล็กน้อยสั้นมาก ที่พึ่งจริงๆ คือ ความเข้าใจพระธรรมและความดีทั้งหลายที่ได้สะสมไว้ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 17 เม.ย. 2558

ปัจจุบันทำดีและศึกษาพระธรรมดีที่สุด เพราะข้างหน้าเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิด มือที่มองไม่เห็น คือกรรมที่เราทำไว้ทั้งดีและไม่ดี และ การเรียนในมหาวิทยาลัยไหนก็ได้ ขอให้เป็นคนดีมีมีคุณธรรมมีความเข้าใจธรรมและมีโอกาสเจริญกุศลทุกประการประเสริฐที่สุดแล้วในชาตินี้ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pdharma
วันที่ 17 เม.ย. 2558

เมื่อกรรมจะให้ผล ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เรียนมหาวิทยาลัยใด ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แม้อยู่ในมหาวิทยาลัยที่เข้าใจว่าดีกว่า ก็อาจประสบกับผลของกรรมที่ไม่ต้องการได้ และหากผลของกรรมดีที่ทำไว้ให้ผล แม้จะอยู่ในมหาวิทยาลัยที่คิดว่าไม่ค่อยดี ก็จะได้รับผลของกรรมที่ทำไว้ดีแล้วอยู่นั่นเอง ดังนั้น เมื่อต้องไปอยู่ในสังคมแบบนั้นจริงๆ และคิดว่าอาจจะเลี่ยงไม่ได้เพราะเจอผู้คนที่ไม่ดี จะทำอย่างไร...

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า

"ธรรมทั้งหลาย อันชนพวกใดไม่ลืมเลือนแล้ว

ชนพวกนั้นย่อมไม่ถูกจูงไปในวาทะของชนพวกอื่น

บุคคลผู้รู้ดีทั้งหลาย รู้ทั่วถึงโดยชอบแล้ว

ย่อมประพฤติเสมอในหมู่สัตว์ผู้ประพฤติไม่เสมอ."

[สุสัมมุฏฐสูตร พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 60]

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
peem
วันที่ 17 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
tanrat
วันที่ 18 เม.ย. 2558

ธรรมะเป็นเรื่องในชีวิตประจำวันจริงๆ การเกิดมาเป็นมนุษย์นั้นก็ยาก เกิดแล้วก็ต้องเป็นไป ถ้าเข้าใจธรรมะจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่มีเรา มีแต่จิต รูป เจตสิก และนิพพาน พระผู้มีพระภาคจะทรงแสดงธรรมให้ผู้ฟังประจักษ์แจ้งตามก็ไม่ได้ แต่ทรงชี้แนะให้ผู้ฟัง ฟัง แล้วพิจารณา ไตร่ตรองตาม แล้วก็เลือกที่จะประพฤติปฏิบัติตาม ตามกำลังของปัญญาแห่งตน นี่แหละยากจริงๆ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ประสาน
วันที่ 18 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ธุลีพุทธบาท
วันที่ 18 เม.ย. 2558

ความเป็นผู้มีศิลปวิทยา มีความรู้ความสามารถในวิชาการทั้งหลาย

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า "เป็นมงคลอันอุดม" เพราะนำมาซึ่งความเจริญ

หากศิลปวิทยา วิชาการนั้นๆ เป็นไปเพื่อการเลี้ยงชีพ ดำรงชีวิตให้อยู่อย่างผาสุข

โดยมีจุดประสงค์ที่จะมีชีวิตเพื่อการอบรมเจริญปัญญาและคุณความดี ครับ.

จึงควรตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่เป็นความรู้ความสามารถให้ดีที่สุด

ในช่วงชีวิตที่อยู่ในมหาวิทยาลัย

ที่สำคัญ คือ ทำดีและศึกษาพระธรรม ควบคู่กันไป

เพราะไม่ว่าจะเรียนมหาวิทยาลัยหรือไม่ก็ตาม ทุกๆ ขณะก็ คือ ธรรมที่มีจริงๆ

แต่ผู้มีปัญญาย่อมทำในสิ่งที่ควรทำให้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์ ครับ.

ขอแนะนำให้ลองฟัง ลองศึกษาพระธรรม ชุด "วินัยคฤหัสถ์" ในเว็ปไซต์นี้

โดยเข้าไปที่เมนู ซีดี > MP3_รวมชุดต่างๆ > วินัยคฤหัสถ์-สมถภาวนา

เป็นความรู้ความเข้าใจในพระธรรมที่ควรประพฤติที่ควรเก็บสะสมไว้

ความเข้าใจดังกล่าวจะเป็นคำตอบว่าควรเรียนหรือไม่ เมื่อไหร่ ที่ไหน อย่างไร เพราะอะไร

แล้วเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อไป คือ สภาพธรรมที่เคยสะสมมาตามความเป็นจริง

ไม่ว่าจะพบใคร ประสบสิ่งใด และมีอุปนิสัยโน้มเอียงไปอย่างไรในอนาคต

ไม่มีใครสามารถบังคับบัญชาได้ เพราะเป็นไปตามเหตุ ตามปัจจัยที่ได้สะสมมา

ปัญญา ที่มาจากการศึกษาพระธรรมแล้วเท่านั้น ที่จะเป็นที่พึ่ง

นำทางชีวิตไปสู่สิ่งที่ดีงาม ประเสริฐสุด ด้วยความเห็นถูก ความเข้าใจถูก ครับ.

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์ทั้งสองท่าน ครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
thilda
วันที่ 18 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ ไม่ว่าจะเลือกเรียนที่ไหน ควรเลือกเรียนในสิ่งที่ตนชอบและถนัดค่ะ และที่ที่ตนเรียน ควรสอนในสิ่งที่เราเลือกได้ดี การเลือกเรียนนี้ไม่ใช่เรียนแค่ 4 ปี แต่จะอยู่กับเราไปตลอด เพราะคืออาชีพที่เราเลือก การเปลี่ยนอาชีพนั้นไม่ง่าย ถ้าเลือกในสิ่งที่ชอบ ประกอบอาชีพในสิ่งที่ชอบ จะต้องใช้ความพยายามน้อยกว่าการทำในสิ่งที่ไม่ชอบ และที่สำคัญจะมีเวลามากกว่า ในการฟังธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาค่ะ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตนี้ที่ได้อัตภาพเป็นมนุษย์ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
wirat.k
วันที่ 20 เม.ย. 2558

การศึกษาเล่าเรียนของคฤหัสถ์ผู้ครองเรือนก็เพื่อประกอบวิชาชีพเลี้ยงตน

และครอบครัวในอนาคต เลือกเรียนที่ไหนก็ได้ ตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด

ที่สำคัญคือฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมไปด้วยนะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Jarunee.A
วันที่ 1 ธ.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ