ปาราชิกมั้ยครับ

 
water
วันที่  18 ส.ค. 2557
หมายเลข  25326
อ่าน  2,261

ขอเล่าเหตุการณ์หน่อยนะครับ พอดีว่าได้คุยกับเพื่อนเรื่องทั่วไป หลังจากนั้นเพื่อนพูดถึงเรื่องปืน ว่าเดี่ยวนี้ขายถูกมากมึหลายกระบอก อาตมาจึงบอกไปว่า อาตมาบวชอยู่พูดเรื่องพวกนี้ไม่ได้ แล้วก็ได้บอกไปว่า "ระวังปืนทางอินเทอร์เน็ตเพราะอาจถูกจับได้ และ บอกว่าห่างๆ ไว้ช่วงนี้เพราะเขาปราบปรามอยู่ แล้วบอกไปว่า ของพวกนี้หาไม่ยากหรอก"

คือกลัวว่าจะเป็นการยุยง หรือเปล่า แล้วมันจะเป็นการแสวงหาอาวุธในข้อปาราชิกไหม ช่วยตรวจสอบให้ด้วยครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 18 ส.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพ ครับ

ปาราชิก คือ ประเภทของโทษที่เกิดจากการล่วงละเมิดสิกขาบทประเภทครุอาบัติ อาบัติหนักที่สุด ที่เรียกว่าอาบัติปาราชิก พระภิกษุต้องอาบัติปาราชิกสี่ ข้อใดข้อหนึ่ง แม้จะไม่กล่าวลาสิกขาบท ก็ถือว่าขาดจากความเป็นพระภิกษุทันที เมื่อความผิดสำเร็จ

ปาราชิก มี 4 ข้อ อยู่ใน ศีล 227 ได้แก่

1. เสพเมถุน แม้กับสัตว์เดรัจฉานตัวเมีย (ร่วมสังวาสกับคนหรือสัตว์)

2. ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ มาเป็นของตน จากบ้านก็ดี จากป่าก็ดี (ขโมย)

3. พรากกายมนุษย์จากชีวิต (ฆ่าคน) หรือ แสวงหาศาสตรา อันจะนำไปสู่ความตายแก่ร่างกายมนุษย์

4. กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรมอันเป็นความเห็นอย่างประเสริฐ อย่างสามารถ น้อมเข้าในตัวว่า ข้าพเจ้ารู้อย่างนี้ ข้าพเจ้าเห็นอย่างนี้ (ไม่รู้จริง แต่โอ้อวดความสามารถของตัวเอง)

ซึ่งการยุยงเรื่องอาวุธไม่ได้อยู่ในข้อปาราชิกเลย ครับ เพราะฉะนั้น จึงไม่ต้องอาบัติปาราชิกแต่อย่างใด ขออนุโมทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
water
วันที่ 18 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 18 ส.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพครับ

ไม่ต้องอาบัติปาราชิกในเพราะเรื่องที่กล่าวมา แต่ก็ต้องพิจารณาว่า สำหรับเพศบรรพชิต เป็นเพศที่จะต้องขัดเกลากิเลสเป็นอย่างยิ่ง เพราะความเป็นบรรพชิต ไม่ได้เป็นที่เครื่องนุ่งหุ่ม หรือ เพศที่แตกต่างไปจากคฤหัสถ์ แต่อยู่ที่มีความจริงใจที่จะขัดเกลากิเลสเป็นสำคัญ [ไม่ใช่ว่าบวชเข้ามาแล้ว แต่ก็ยังทำอะไร เหมือนอย่างคฤหัสถ์อยู่ อย่างนี้ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต เพราะเพศบรรพชิต เป็นเพศที่เว้นจากอกุศลธรรมจริงๆ ] ซึ่งจะต้องมีการศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจอย่างถูกต้องด้วย เพราะถ้าไม่มีการศึกษาแล้ว ก็จะมีการกระทำที่ผิด ไม่ตรงตามพระธรรมวินัย ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง ประการที่สำคัญ สิกขาบทแต่ละข้อๆ ที่เป็นพระวินัยบัญญัตินั้น เป็นเรื่องที่ละเอียดมากทั้งหมดพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติด้วยพระองค์เอง ประโยชน์อยู่ที่การศึกษาแล้วน้อมประพฤติปฏิบัติตามในสิ่งที่พระองค์ทรงอนุญาต และละเว้นในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม แต่ถ้าละเลย ไม่เห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญ มีการละเมิด ก็จะเป็นอาบัติ มีโทษอยู่เหนือตน เป็นอันตรายแก่ผู้ล่วงละเมิด ถ้าไม่กระทำคืนให้ถูกต้องตามพระวินัยแล้ว ก็จะเป็นเครื่องกั้น ในการบรรลุมรรคผล นิพพาน และถ้ามรณภาพลง (ตาย) ในขณะที่ดำรงอยู่ในเพศบรรพชิตที่ยังไม่ได้ปลงอาบัติ ก็เป็นผู้มีอบายเป็นที่ไปในเบื้องหน้าซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 18 ส.ค. 2557

หน้าที่ของพระภิกษุ คือการศึกษาธรรมะ และน้อมประพฤติตามพระธรรมวินัย การพููดถ้าไม่เป็นไปในเรื่องของธรรมะ ก็เป็นเดรัจฉานกถา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
water
วันที่ 18 ส.ค. 2557

ปาราชิกข้อที่ แสวงหาอาวุธ

1.ต้องมีอาวุธอยู่ในครอบครองก่อนใช่ไหม และอาวุธนั้นต้องไปทำร้ายเขาใช่ไหมครับ

2.ถ้าเป็นการพูดว่าเมื่อสึกไปหาปืนมีทะเบียนสักกระบอก แบบนี้เป็นปาราชิกไหมครับ (เป็นเจ้าหน้าที่อุทยานครับ)

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
khampan.a
วันที่ 19 ส.ค. 2557

เรียนความคิดเห็นที่ ๕ ครับ

๑. ตราบใดก็ตามที่ยังไม่ใช้อาวุธนั้นไปฆ่าคนอื่นให้ถึงแก่ความตาย ก็ยังไม่เป็นอาบัติปาราชิก แต่จะเป็นอาบัติในส่วนอื่นเช่น จับต้องวัตถุที่ไม่ควรจับต้อง

๒. ไม่เป็นอาบัติปาราชิกที่พูดอย่างนั้น แต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะควร เพราะตอนนี้เป็นบรรพชิต ซึ่งจะต้องตั้งใจฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม น้อมประพฤติตามพระธรรมขัดเกลากิเลสของตนเอง ครับ

... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
water
วันที่ 19 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ