ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๕๔

 
khampan.a
วันที่  3 ส.ค. 2557
หมายเลข  25207
อ่าน  2,170

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๕๔

~ สภาพธรรมที่เป็นวิบาก เป็นผลของอดีตกรรม เป็นสิ่งที่ปรากฏในปัจจุบันในขณะที่กำลังเห็น ในขณะที่กำลังได้ยิน ในขณะที่กำลังได้กลิ่น ในขณะที่กำลังลิ้มรส ในขณะที่กำลังรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสกาย

~ สิ่งใดๆ ทั้งภายใน คือ รูปร่างกายของตนเอง และวัตถุภายนอกทั้งหมดตามสภาพความจริงแล้ว ไม่ใช่ของใครเลย แต่ว่าเป็นสิ่งที่ปรากฏ เพียงชั่วขณะที่จักขุวิญญาณเกิดขึ้นเห็น แล้วก็ดับไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสิ่งที่ปรากฏ และสภาพรู้ คือ จักขุวิญญาณนั้น เพราะฉะนั้น มีอะไรบ้างที่ควรจะยึดถือว่าเป็นของเราเพราะเป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏเมื่อกระทบตา เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏเมื่อกระทบหูดับไปหมดแล้ว ไม่มีของเราเลย

~ ทุกคน เท่ากันโดยสภาพลักษณะที่เป็นปรมัตถธรรมเหมือนกัน แต่ว่าการที่จะยึดถือสภาพธรรมที่มีปรากฏว่าเป็นเรา ซึ่งเป็นกิเลสนั้น ก็ย่อมมีมากน้อยต่างกัน

~ การได้พิจารณาพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ก็เป็นเพราะเหตุปัจจัยที่ได้สะสมมา และเมื่อได้ยินได้ฟังแล้ว จะพิจารณาแล้วก็ใคร่ครวญให้รอบคอบละเอียดขึ้น จนเป็นปัญญาที่สามารถรู้ลักษณะของสภาพธรรมตรงตามที่ทรงแสดงไว้ ก็แล้วแต่เหตุปัจจัยที่ได้สะสมมา

~ เมื่อทุกคนยังไม่สามารถที่จะดับกิเลสอกุศลได้ เพราะว่าพอเห็นก็เกิดอกุศล โลภะบ้าง โทสะบ้าง ก็จริง แต่อย่าให้ถึงความรุนแรง ที่จะให้เป็นทุจริตกรรมพร้อมกันนั้นก็เป็นผู้ที่ไม่ประมาทในการเจริญกุศลกรรม และกุศลกรรมที่ควรเจริญอย่างยิ่ง ก็คือ การระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏทันทีในขณะนี้ก็ได้ ลักษณะของนามธรรมหรือรูปธรรมทางตา หรือทางหู หรือทางจมูกหรือทางลิ้น หรือทางกาย หรือทางใจ ก็ได้ นั่นเป็นกุศลเหตุ ที่จะเป็นเหตุให้กุศลวิบากข้างหน้าเกิดขึ้น

~ วิบากทั้งหมดไม่ใช่รูปธรรมเลย วิบากทั้งหมด ได้แก่ นามธรรม คือจิตและเจตสิก ซึ่งเป็นผลโดยตรงของเหตุ ซึ่งเป็นนามธรรม คือ กุศลธรรมและอกุศลธรรม กุศลและอกุศลเป็นปัจจัยให้เกิดรูปธรรมได้เช่นเดียวกับกุศลและอกุศลเป็นปัจจัยให้เกิดนามธรรม ซึ่งเป็นวิบาก แต่ว่ารูปธรรมนั้นไม่ใช่วิบาก เป็นผลของกุศลหรืออกุศลได้ แต่ไม่ใช่วิบาก สำหรับจิตและเจตสิกเท่านั้นที่เป็นวิบาก

~ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เพื่อที่จะอนุเคราะห์เกื้อกูลให้อบรมเจริญปัญญา จนกว่าสามารถที่จะประจักษ์ในลักษณะของนามธรรมซึ่งไม่ใช่รูปธรรม และในลักษณะของรูปธรรม ซึ่งไม่ใช่นามธรรมทางตา ทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ

~ พิจารณาได้ไหมในเรื่องของกาย เรื่องของวาจาเป็นปกติในชีวิตประจำวัน?คำพูด เป็นผู้อันความโกรธครอบงำหรือเปล่า ถ้ากายหรือวาจาเป็นไปเพราะความโกรธครอบงำในวันนี้แล้ว พิจารณาตนหรือเปล่าว่า เป็นผู้ที่มักโกรธอันความโกรธครอบงำแล้วจริง ถ้าจริง ก็พยายามที่จะละอกุศลธรรมอันชั่วช้านั้นเสีย

~ โกรธใครอยู่บ้างหรือเปล่า ขณะที่เรื่องผ่านไปแล้ว แต่ยังไม่ลืม ยังไม่พอใจยังขุ่นเคืองใจ ยังโกรธอยู่ นั่นคือยังผูกโกรธ

~ ตามความเป็นจริงแล้ว เนื่องจากการที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ต้องเป็นจิรกาลภาวนา เป็นการอบรมเจริญโดยระยะเวลาที่ยาวนานมากจริงๆ เพราะฉะนั้นก่อนจะถึงการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ ทุกชาติที่ยังไม่ได้บรรลุ ก็เป็นชาติที่กำลังอบรมเจริญบารมีเพื่อที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรม

~ การที่จะให้ชีวิตที่เกิดมาชั่วคราวแล้วก็ตายไป ดำเนินไปในทางที่ถูกที่ควรก็ต้องแล้วแต่ว่า กำลังของอวิชชาและปัญญา เพราะเหตุว่าชีวิตของแต่ละท่านที่จะดำเนินไปดำเนินด้วยกำลังของอวิชชา หรือว่าด้วยกำลังของปัญญา

~ ถ้าผู้มีปัญญาแล้ว ไม่ว่าความเสียหายใดๆ ที่คนอื่นกระทำกับท่านย่อมเพิ่มพูนความมั่นคง ความสมบูรณ์แห่งขันติ แต่ว่าถ้าเป็นผู้ที่ทรามปัญญาความเสียหายที่ผู้อื่นนำไปให้แก่ผู้ปราศจากปัญญา ย่อมเพิ่มพูนความเป็นปฏิปักษ์ของความอดทน

~ เมื่อเป็นอกุศลของตนเอง ตนเองก็จะต้องเป็นผู้ได้รับโทษจากอกุศลของตนซึ่งคนอื่นจะทำโทษให้กับบุคคลนั้นไม่ได้เลย นอกจากกิเลสของตนเอง

~ คิดเป็นคิด เห็นเป็นเห็น ไม่ใช่เรา

~ ถ้ากรรมที่ได้ทำมามากมายมหาศาล แล้วเราก็ไปปล่อยนก ๗ ตัว แค่นั้นพ้นไหมจากกรรมที่ได้กระทำไว้มากมาย นี่ก็แสดงให้เห็นว่าถ้าเป็นผู้ที่มั่นคงจริงๆ ในเรื่องกรรมและผลของกรรม กุศลจิตย่อมเกิดมากไม่หวั่นไหว

~ สำหรับพุทธบริษัทที่ยังไม่ปรินิพพาน ยังคงอยู่ในสังสารวัฏฏ์ ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด ยังไม่สิ้นกิเลส ก็จะต้องอบรมเจริญปัญญาต่อไปด้วยความอดทนซึ่งก็เป็นขันติบารมีของแต่ละท่านที่จะทำให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ในวันหนึ่ง

~ พระสูตรทุกพระสูตร เพื่อให้เข้าใจความจริง จนกว่าจะรู้ว่าไม่มีเรา

~ เข้าใจธรรมผิด อันตรายอย่างยิ่ง

~ อกุศลทั้งหมด ทุจริต กุศลทั้งหมด สุจริต

~ ความดี ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อนเลย

~ อยู่ดีๆ จะให้ความเข้าใจถูกเกิดขึ้นได้ไหม? ก็ต้องฟังพระธรรม

~ มั่นใจได้ว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นไปในชีวิตประจำวัน เป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย

~ ปัญญา ต้องอบรมเจริญขึ้นเป็นลำดับขั้น ไม่ใช่ฟังแล้วอยาก แล้วปฏิบัติผิด

~ ว่ายาก คือ หนาแน่นไปด้วยกิเลส

~ เป็นคนดี เพื่อที่จะได้เป็นเพื่อนที่ดีกับทุกคน

ขอเชิญผู้ศึกษาพระธรรมร่วมกัน (สหายธรรม) ร่วมแบ่งปันธรรมด้วยครับ

ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๕๓

... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
wannee.s
วันที่ 3 ส.ค. 2557

ขออนุโมทนา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 3 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 3 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
peem
วันที่ 3 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
bsomsuda
วันที่ 3 ส.ค. 2557

เมื่อทุกคนยังไม่สามารถที่จะดับกิเลสอกุศลได้ เพราะว่าพอเห็นก็เกิดอกุศล โลภะบ้าง โทสะบ้าง ก็จริง แต่อย่าให้ถึงความรุนแรง ที่จะให้เป็นทุจริตกรรม พร้อมกันนั้นก็เป็นผู้ที่ไม่ประมาทในการเจริญกุศลกรรม

และ กุศลกรรมที่ควรเจริญอย่างยิ่ง ก็คือ การระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏทันที

ในขณะนี้ก็ได้ ลักษณะของนามธรรมหรือรูปธรรมทางตา หรือทางหู หรือทางจมูก หรือทางลิ้น หรือทางกาย หรือทางใจ ก็ได้ นั่นเป็นกุศลเหตุ ที่จะเป็นเหตุให้กุศลวิบากข้างหน้าเกิดขึ้น

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
papon
วันที่ 3 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
j.jim
วันที่ 4 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 4 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ด้วยความเคารพยิ่ง จาก ใหญ่ราชบุรี-ธิดารัตน์ เดื่อมขันมณี

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
orawan.c
วันที่ 4 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
jaturong
วันที่ 4 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Noparat
วันที่ 4 ส.ค. 2557

เข้าใจธรรมผิด อันตรายอย่างยิ่ง ความดี ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อนเลย เป็นคนดี เพื่อที่จะได้เป็นเพื่อนที่ดีกับทุกคน

... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
สิริพรรณ
วันที่ 5 ส.ค. 2557

เป็นบุญยิ่งกว่าบุญใดที่ได้พบพระรัตนตรัย เป็นลาภอย่่างยิ่งกว่าลาภใดๆ ที่ได้พบกัลยาณมิตร กราบบูชาคุณท่านอ.สุจินต์ ขอบพระคุณอ.คำปั่น และวิทยากรทุกท่าน วิริยเจตสิก เพื่อระลึกสภาพธรรมบ่อยๆ เนืองๆ เห็นความจริงสิ่งที่เพียงปรากฏ ถ้าไม่รู้ ก็หลงมัวเมาในรูป เสียง กลิ่น รส ว่ายั่งยืน และยึดไว้ จึงไม่พ้นทุกข์

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
kullawat
วันที่ 19 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
มังกรทอง
วันที่ 13 ก.ย. 2564

โกรธใครอยู่บ้างหรือเปล่า ขณะที่เรื่องผ่านไปแล้ว แต่ยังไม่ลืม ยังไม่พอใจยังขุ่นเคืองใจ ยังโกรธอยู่ นั่นคือยังผูกโกรธ น้อมกราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ