ฟังธรรมะ พยายามนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันมันช่างยากจริงๆ

 
supakorn
วันที่  13 ธ.ค. 2549
หมายเลข  2474
อ่าน  1,885

เพราะคนในสังคมทุกวันนี้หาจิตใจดีดียาก ยิ่งให้ฟังธรรมหรือปฏิบัติธรรมด้วยแล้วยิ่งยากกว่า วันหนึ่งๆ มักจะเจอคนหลายรูปแบบ หลายนิสัย หลายอารมณ์ หลายจิตใจและมักมีผลกับการทำงานของเรามาก พยายามฝึกสติแล้ว ก็ไปได้ไม่กี่น้ำ ท่านใดมีคำแนะนำดีๆ ก็ช่วยแนะนำให้สบายใจด้วย

ขอขอบคุณ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 14 ธ.ค. 2549

เรื่องของการสะสมอบรมเจริญปัญญา ต้องใช้กาลเวลานานมาก ที่ว่ายากนั้นถูกต้องแล้ว เพราะฝ่ายอกุศลคือกิเลส เราสะสมมา นานและมาก จะเอาออกง่ายๆ คงเป็นไปไม่ได้ พระอริยบุคคลทั้ง หลายที่ท่านละกิเลสได้ เพราะท่านสะสมอบรมบารมีมาแต่ชาติก่อนๆ ในชาตินี้ท่านจึงละกิเลสได้ และละกิเลสได้ด้วยปัญญาขั้นอริยมรรค เท่านั้นอีกอย่างหนึ่ง พระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ทั้งหมด เพื่อการแก้ไขและฝึกตัวเราเองไม่ใช่แก้ไขคนอื่น กิเลสอยู่ที่ตัวของเรา เราต้องอบรมสะสมปัญญาเพื่อดับกิเลสที่ตัวเรา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 14 ธ.ค. 2549

ธรรมเป็นเรื่องธัมมะ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นธัมมะไม่ใช่เรา ดังนั้น ไม่มีใครที่จะบังคับธัมมะโดยนำไปใช้ได้ เพราะบังคับธัมมะไม่ได้เพราะไม่ใช่เรา ครับ ต้องเป็นไปตามเหตุปัจจัย ดังนั้นต้องเข้าใจให้ถูกก่อนว่าไม่มีใครไปบัง คับสภาพธัมมะให้เป็นไปตามใจเราได้ ไม่มีใครไปบังคับให้สติเกิดตามใจเรา สติก็มีเหตุปัจจัยให้เกิดการฟังธัมมะที่ถูกเป็นปัจจัยให้สติ เกิด ปัญญาเกิด เมื่อ ปัญญายังน้อยจะไม่ให้เดือดร้อนกับสิ่งรอบข้างก็ไม่ได้ เพราะปัญญายังน้อย เมื่อ ปัญายังน้อยมาก จะเอาปัญญาหรือสติไปใช้ได้อย่างไรครับ ฟังไปเรื่อยๆ นะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ละอ่อนธรรม
วันที่ 15 ธ.ค. 2549

ท่านอาจารย์สุจินต์ก็บอกแล้วว่า ยากยิ่งโดยเฉพาะช่วงที่ทำงานวุ่นๆ อยู่ ฉะนั้น ในช่วงแรกๆ ท่านอาจารย์บอกว่าให้อาศัยช่วงเวลาสงบๆ เช่น ในเวลาก่อนจะเข้านอน เจริญสติไปทีละเล็กละน้อย ค่อยๆ หมั่นสะสมเพิ่มพูนไป เรื่อยๆ ส่วนในช่วงเวลาปกติ ถ้าไม่เร่งรีบนัก ก็เจริญสติได้ ก็ค่อยทำไป ค่อย แซะค่อยแงะกิเลสออกไปเรื่อยๆ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
medulla
วันที่ 15 ธ.ค. 2549

สาธุค่ะ ดิฉันก็ว่ายากมากๆ เช่นกัน เพราะกิเลสหนามาแต่ปางก่อนไม่รู้กี่อสงไขย ก็คงค่อยๆ อบรมไปเรื่อยๆ ดีกว่าไม่เริ่มต้นเลย อย่างน้อยเริ่มต้นเบนเข็มมาถูกทาง ซึ่งช้าและยาก ดีกว่าไปเร็วแต่ไม่ถูกทาง

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chai_dan
วันที่ 15 ธ.ค. 2549

ผมขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับคนในสังคมทุกวันนี้หาคนจิตใจดีดียาก เท่าที่เคยได้ฟังมาว่า ยุคของพระสมณโคดมอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นยุคของกลี ยุค คือ มีคนดี 1 คน คนชั่ว 3 คน คงต้องทำใจ สิ่งที่ผมได้ฟังมาถ้าไม่ถูกต้องผม ต้องขออภัยทุกท่าน ถ้าถูกต้องผมขอความกรุณา ทางมูลนิธิช่วยขยายความให้ถูก ต้องยิ่งขึ้นเพื่อประโยชน์แก่เพื่อนสมาชิกทุกท่าน

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
study
วันที่ 15 ธ.ค. 2549

ช่วงนี้เป็นช่วงคนอายุสั้น อายุน้อย เพราะอกุศลกรรมมีมาก เป็นยุคกิเลส หนาปัญญาน้อยคนส่วนมากประกอบด้วยอกุศลกรรม ไม่มีคุณธรรม แต่ก็ไม่ถึงขั้นกลียุค เพราะยังมีผู้ที่ประกอบด้วยศีลธรรมอยู่บ้าง ส่วนตัวเลขที่ว่า จำนวนคนดีหนึ่งคน ต่อคนชั่วสามคนยังไม่พบหลักฐานที่มาจากพระไตรปิฎกและอรรถกถา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
shumporn.t
วันที่ 15 ธ.ค. 2549

กิเลสของเราเอง ทำร้ายตัวเราเอง ลองพิจารณาว่าขณะนั้น อกุศลจิตกำลังทำหน้าที่ของอกุศลที่ได้สะสมมา คนส่วนใหญ่ทุกข์เพราะหวัง หวังให้ตัวเองมีสติ หวังให้ตัวเองมีความสุขสบายใจ หวังให้สามี หรือภรรยา และลูกๆ เป็นอย่างที่เราหวัง หวังให้คนรอบข้างดีเหมือนตัวเรา เพราะเข้าใจว่าเราดีกว่าคนอื่น แต่ขณะนั้นอกุศลกำลังเกิด ตัวเราเองก็ยังไม่ดี อย่างที่ตัวเราหวังเลย ทุกคนเกิดมามีกิเลสเท่าเทียมกันเป็นสัตว์โลกที่เกิดมา ร่วมสุขร่วมทุกข์ด้วยกัน เป็นลาภอันประเสริฐแล้วที่เกิดมามีโอกาสได้ฟังธรรม ศึกษาธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 2 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ