ก่ออกุศลกรรมบทและฟังธรรม

 
badman
วันที่  21 มี.ค. 2557
หมายเลข  24615
อ่าน  956

ผมเห็นเสื้อ มศพ. เขียนว่า ทำดีและฟังธรรม แต่ผมฟังธรรมของ อ.สุจินต์นี่แหละ แต่ทำชั่ว ผมคงสั่งสมอกุศลมามากจึงเป็นเช่นนี้ ผมมีความคิดว่าสั่งสมการฟังธรรมเข้าใจธรรมไปเรื่อยๆ อนาคตผมคงจะมีจิตที่ทำดีและฟังธรรมตามที่เขียนไว้บนเสื้อ

ถ้าท่านใดมีข้อแนะนำดีๆ ช่วยเขียนมาให้อ่านด้วยครับ จะได้ให้ผมสะสมสิ่งดีๆ และเปลี่ยนจิตที่โสมมให้สกปรกน้อยลงบ้าง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 21 มี.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

นิสัยที่ไม่ดี มีได้เป็นธรรมดา ตราบเท่าที่ยังเป็นปุถุชนผู้หนาด้วยกิเลส แต่ก็สามารถอบรมปัญญา ศึกษาพระธรรมได้ และค่อยๆ เข้าใจความจริงที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงและในอนาคต กิเลสที่ยังไม่ได้ดับ ก็ยังทำให้มีอุปนิสัยที่ไม่ดีได้ แต่เพราะอบรมปัญญาก็สามารถบรรลุธรรม เมื่อได้ฟังพระธรรม และเมื่อบรรลุธรรม ปัญญาเกิดแล้ว อุปนิสัยที่ไม่ดีก็ค่อยๆ หายไป หายไปตามกิเลสที่ได้ดับไปนั่นเองครับ

การทำบาป เพราะอาศัยการคบ คนพาล ทำให้เสพคุ้นและไหลไปในทางที่ผิดได้เป็นธรรมดา ดั่งเช่น พระอริยสาวกในอดีตชาติ ที่ท่านสะสมปัญญามา แต่เพราะความเป็นปุถุชน ก็ทำให้เสพคุ้นกับคนที่ผิด และกิเลสที่ตนมีมาก ก็ทำให้ล่วงศีลทำบาปได้ เป็นคนชั่วในขณะนั้น ดั่งเช่น ท่านพระมหาโมคคัลลานะ ที่อดีตชาติท่านทำอนันตริยกรรมได้ มีการฆ่า บิดา มารดา เพราะท่านคบคนพาล คนไม่ดี เชื่อภรรยา เป็นต้น ทั้งๆ ที่ในชาติก่อนๆ ท่านก็เคยสะสมความดี สะสมปัญญาในพระพุทธเจ้าองค์ก่อน เป็นกัลยาณปุถุชน เป็นคนดี ที่เข้าใจพระธรรม แต่เพราะความเป็นปุถุชน ก็ทำให้สามารถทำบาป เป็นคนชั่วได้เพียงชั่วขณะนั้น ในภพภูมิอื่น เพราะการเสพคุ้นกับคนพาล ครับ แสดงให้เห็นถึงกำลังของกิเลสของปุถุชน ที่สามารถเกิดการทำชั่ว เปลี่ยนได้เป็นธรรมดา เพราะฉะนั้น ปุถุชน จึงชื่อว่า ไม่ใช่คนดีจริงๆ ผู้ที่เป็นคนดี คนประเสริฐจริงๆ คือ พระอริยเจ้า ผุ้บรรลุมรรคผล เพราะท่านจะไม่ทำบาป มีการล่วงศีล 5 อีกเลย แม้จะไปเกิดในภพภูมิอื่นแล้วก็ตาม ครับ

ดั่งคำที่ท่านอาจารย์สุจินต์ พูดไว้น่าคิดว่า ดีเท่าไหร่ก็ยังไม่พอ เพราะ ดีของปุถุชนก็ยังหวั่นไหว เพราะไม่ใช่ความดีที่มีกำลังที่จะถึงการดับกิเลสได้ ดีสูงสุด คือ ผู้ที่ไม่มีกิเลส ดับกิเลสหมดสิ้นแล้ว ครับ

และที่น่าพิจารณา คือ ความดี ที่ประเสริฐ และบริสุทธิ์ คือ ดีด้วยปัญญา ที่เกิดจากการศึกษาพระธรรม เพราะปัญญาที่เกิดขึ้น จะค่อยๆ ละกิเลส ที่เป็นการสมมติว่าเป็นคนชั่วไปทีละน้อย จนถึงดับกิเลสที่สุด ละความชั่วได้หมดสิ้น ครับ การศึกษาพระธรรม จึงเป็นการค่อยๆ เป็นคนดี ทีละน้อย ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
j.jim
วันที่ 21 มี.ค. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 21 มี.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ควรที่จะได้พิจารณาว่า ชีวิตของแต่ละบุคคลในแต่ละภพในแต่ละชาติ นั้นแสนสั้นมาก เกิดมาแล้วในที่สุดก็จะต้องละจากโลกนี้ไปด้วยกันทั้งนั้น แต่ก็ไม่สามารถที่จะทราบได้ว่า จะเป็นวันใด เวลาใด และตามความเป็นจริงแล้ว แต่ละขณะของชีวิตเป็นธรรมทั้งหมด ธรรมเกิดขึ้นแล้วดับไปอย่างรวดเร็ว ไม่หวนกลับมาได้อีก การได้เกิดมาเป็นมนุษย์ พร้อมทั้งมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ได้พบกัลยาณมิตรที่ให้ความเข้าใจพระธรรมที่ถูกต้องนั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก เป็นสิ่งที่ได้โดยยากแสนยากในสังสารวัฏฏ์ เมื่อเทียบกับการได้รูป เสียง กลิ่น รส และสิ่งที่กระทบสัมผัสกาย ในชีวิตประจำวัน เมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกๆ วัน ควรที่จะได้เตือนตนเองอยู่เสมอว่า ชีวิตอาจจะอยู่ไม่ถึงพรุ่งนี้ก็ได้ อาจจะสิ้นชีวิตในวันนี้ก็ได้ มีโอกาสที่จะฟังพระธรรม ก็ควรรีบฟัง รีบสะสมปัญญาในทันที มีโอกาสที่จะได้สะสมกุศล ก็สะสมทันที เป็นคนดีทันที ทุกที่ ทุกเวลา ทุกสถานการณ์ เป็นการเติมกุศลทุกๆ วัน เพื่อชำระล้างอกุศล เพราะถ้าไม่คอยเติมกุศลแล้ว ก็ย่อมเป็นเหตุให้อกุศลพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ และ เมื่อได้สะสมเหตุที่ดีไว้ ผลที่ดีก็ย่อมจะเกิดขึ้น ตามควรแก่เหตุ ทั้งหมดนั้น เป็นความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรมที่ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น ทุกครั้งที่ได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ย่อมเกิดประโยชน์ ความรู้ความเข้าใจ ก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น เพราะเหตุว่าฟังพระธรรม ก็เพื่อประโยชน์ คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูก ซึ่งจะอุปการะเกื้อกูลต่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมอีกมากมาย เมื่อมีโอกาสที่จะเจริญกุศลประการใด ก็เจริญทันที พร้อมทั้งเห็นโทษเห็นภัยของอกุศลแต่ละขณะที่เกิดขึ้น เช่น ความติดข้อง ความโกรธ ความริษยา ความตระหนี่ เป็นต้น แล้วค่อยๆ ขัดเกลาอกุศลธรรมทั้งหลายเหล่านี้ จนกว่าจะละได้หมดสิ้น นี้คือประโยชน์ของการฟังพระธรรม ที่เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกโดยตลอดตั้งแต่ต้นจนถึงที่สุดจนออกจากสังสารวัฏฏ์ ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 21 มี.ค. 2557

ควรทำดีทุกๆ ประการ แต่ดีเท่าไหร่ก็ไม่พอ ถ้าไม่มีปัญญา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Krisd
วันที่ 21 มี.ค. 2557

ขออนุโมทนาเจ้าของกระทู้ที่ยังรู้ตัวเองว่าทำบาป เพราะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะขัดเกลาคนที่ไม่รู้ว่ากำลังกระทำบาป เพราะคิดว่าไม่บาปนั้นหาได้ทั่วไป อกุศลหรือบาปนั้นมีความละเอียดมาก ถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรม คงจะเข้าใจผิดคิดว่าตนเองเป็นคนดีไม่มีอกุศล

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
nopwong
วันที่ 24 มี.ค. 2557

ขออนุโมทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ