อนัตตาไม่อิสระ

 
papon
วันที่  16 มี.ค. 2557
หมายเลข  24589
อ่าน  1,116

เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน

"อนัตตาไม่อิสระ" พจนาของท่านอาจารย์ในพระอภิธรรมพื้นฐานตอนที่ประมาณ 12-14 ขอความอนุเคราะห์อาจารย์ช่วยอธิบายด้วยครับ ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 16 มี.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออธิบายในประเด็นคำว่า อิสระ 2 นัย ครับ ซึ่งถ้าเข้าใจคำว่า อิสระจริงๆ ก็จะเข้าใจหนทางการอบรมปัญญาที่ถูกต้องว่าเป็นอย่างไร ครับ

อิสระ นัยแรก คือ ความเป็นอิสระจากกิเลส

ผู้ที่ยังมีกิเลส ชื่อว่า ผู้ที่ไม่เป็นอิสระ เพราะถูกเครื่องผูก คือ กิเลสร้อยรัดไว้ ไม่ให้อิสระ ด้วยโลภะ ชักจูงไป และกิเลสประการต่างๆ ชักจูงไป ให้เป็นไปตามอำนาจ ดังนั้น สำหรับปุถุชนจึงเป็นธรรมดาที่จะต้องไม่อิสระ ที่เป็นไปตามอำนาจของกิเลส ชีวิต แม้จะไม่ได้ถูกขัง อยู่ในคุก แต่ก็ถูกขังด้วยกำลังของกิเลส และถูกขังด้วยกรงคุก คือ สังสารวัฏฏ์ไม่ให้พ้นไป ไม่เป็นอิสระจากกิเลสและสังสารวัฏฏ์เลย ครับ นี่คือความเป็นธรรมดา เป็นปกติของผู้ที่มีกิเลส ที่ยังไม่อิสระ ส่วนผู้ที่เป็นอิสระแล้ว แม้ว่าจะอยู่ในสถานที่ที่กล่าวกันว่าไม่อิสระ มี ในคุก เป็นต้น แต่ใจที่ปราศจากกิเลส ชื่อว่าอิสระแล้ว เพราะไม่เป็นไปตามอำนาจของกิเลส แต่อิสระด้วยปัญญาที่เกิดรู้ความจริงจนดับกิเลสหมดสิ้น พระอรหันต์ จึงชื่อว่า อิสระจากกิเลสอย่างแท้จริง ครับ

อิสระ นัยที่สอง คือ ธรรมไม่เป็นอิสระ เป็นอนัตตา เพราะเป็นไปตามเหตุปัจจัย

สภาพธรรมที่เกิดขึ้นกับตนเองในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเห็น การได้ยิน กิเลสยังไม่เกิดขึ้นเลย แต่ขณะนั้นก็ไม่อิสระแล้ว คือ เพราะธรรมทั้งหลายจะเกิดขึ้นได้ ต้องอาศัย จิต เจตสิกและรูปอื่นๆ ประชุมรวมกัน จึงเกิดธรรมได้ เพราะฉะนั้น สภาพธรรมทั้งหลาย จึงไม่เป็นอิสระเลย เพราะจะต้องอาศัยเหตุปัจจัยต่างๆ จึงเกิดขึ้นได้ อาศัยตัวมันเอง ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ จึงไม่เป็นอิสระ ดังนั้น ทุกชีวิตในขณะนี้ ไม่เป็นอิสระ ทั้งไม่เป็นอิสระจากกิเลส และไม่เป็นอิสระจากคุก คือ สังสารวัฏฏ์ และที่สำคัญที่สุด แม้จะไม่มีกิเลสเกิดขึ้น แต่เมื่อใดธรรมเกิดขึ้น ขณะนั้นไม่อิสระ ตัวธรรมเอง แสดงถึงความไม่อิสระ คือ ต้องอาศัยสภาพธรรมอื่นๆ และเหตุปัจจัย จึงเกิดขึ้น

จึงกลับมาที่หนทางการอบรมปัญญาครับว่า ไม่ใช่จะทำให้ไม่อิสระ เป็นไปไม่ได้ แต่ควรเข้าใจสภาพธรรมที่ไม่ทำให้อิสระ คือ กิเลสที่เกิดขึ้นในจิตใจว่า กิเลสนั้น คืออะไร ด้วยการเจริญสติปัฏฐานระลึกรู้สภาพธรรมที่ปรากฏ แม้แต่กิเลสที่เกิดขึ้น มีโลภะ เป็นต้น ว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา ปัญญานั้นเองที่เกิดขึ้น จะค่อยๆ ทำให้เป็นอิสระจากกิเลส เพราะค่อยๆ ละความไม่รู้ ที่ทำให้ไม่อิสระ ครับ

ดังนั้น อนัตตา ไม่อิสระ เพราะสภาพธรรมทั้งหลายไม่ใช่เรา เป็นอนัตตา ไม่อิสระด้วยอำนาจเหตุปัจจัย ไม่มีเรา ที่จะไปบังคับได้ แต่จะเป็นอิสระที่สุด คือ ไม่มีการเกิดขึ้นของสภาพธรรมอะไรอีกเลย จึงเป็นการอิสระจากแท้จริง ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 16 มี.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ประโยชน์จริงๆ คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูกว่า สิ่งที่่มีจริงๆ นั้น เป็นจริงแต่ละหนึ่งๆ ที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่มีสภาพธรรมแม้แต่อย่างเดียวที่จะเกิดเองลอยๆ โดยปราศจากหตุปัจจัย นี่ก็แสดงถึงความเป็นอนัตตาของสภาพธรรม และไม่เป็นอิสระ คือ ไม่เป็นใหญ่ในการบังคับบัญชา เพราะเหตุว่า บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เช่น เห็น เป็นธรรม เป็นอนัตตา ไม่ใช่เรา บังคับไม่ให้เห็นเกิดก็ไม่ได้ หรือเมื่อเห็นเกิดแล้ว บังคับไม่ให้ดับก็ไม่ได้ นี้คือความเป็นจริง เพราะเห็นเกิดเพราะเหตุปัจจัย กล่าวคือ ต้องมีกรรมเป็นปัจจัย ต้องมีที่เกิดของจิตเห็น ต้องมีเจตสิกธรรมที่เกิดร่วมกับจิตเห็นและมีสีเป็นอารมณ์ของจิตเห็นด้วย และธรรมที่กล่าวมาทั้งหมด ล้วนเป็นจริงแต่ละหนึ่งๆ ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 16 มี.ค. 2557

ธรรมไม่อิสระ เพราะเป็นอนัตตา บังคับไม่ได้ เช่น ไม่ให้เกิด ไม่ให้แก่ ไม่ให้เจ็บ ไม่ให้ตาย ไม่ได้ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
j.jim
วันที่ 17 มี.ค. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
talaykwang
วันที่ 28 ส.ค. 2562

สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ