ความเพลิดเพลินในการดูทีวีเป็นสัญญาวิปลาสหรือไม่ครับ

 
papon
วันที่  21 ม.ค. 2557
หมายเลข  24357
อ่าน  922

เรียน อาจารย์ทั้งสองท่าน

ความเพลิดเพลินในการดูทีวีเป็นสัญญาวิปลาสหรือไม่ครับ ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ

ขออนุโมทนาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 21 ม.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

(วิปัลลาส) ความคลาดเคลื่อน ความตรงกันข้าม ความผันแปร หมายถึง ความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงด้วยอาการ ๓ ที่เกิดกับอกุศลจิต ๑๒ ดวงเท่านั้น คือ

สัญญาวิปลาส ๑ จิตตวิปลาส ๑ ทิฏฐิวิปปลาส ๑ วิปลาส ๓ นี้เป็นไปในอาการ ๔ คือ

ในสิ่งที่ไม่งามว่างาม ๑

ในสิ่งที่เป็นทุกข์ว่าเป็นสุข ๑

ในสิ่งที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง ๑

ในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนว่าเป็นตัวตน ๑

จึงกลายเป็นวิปลาส ๑๒ อย่าง คือ

๑. สัญญาวิปลาส จำผิดว่ารูปเป็นของงาม พระอนาคามีจึงละได้

๒. สัญญาวิปลาส จำผิดว่าเวทนาเป็นสุข พระอรหันต์จึงละได้

๓. สัญญาวิปลาส จำผิดว่าจิตเที่ยง พระโสดาบันจึงละได้

๔. สัญญาวิปลาส จำผิดว่าธรรมเป็นตัวตน พระโสดาบันจึงละได้

๕. จิตตวิปลาส คิดผิดว่ารูปเป็นของงาม พระอนาคามีจึงละได้

๖. จิตตวิปลาส คิดผิดว่าเวทนาเป็นสุข พระอรหันต์จึงละได้

๗. จิตตวิปลาส คิดผิดว่าจิตเที่ยง พระโสดาบันจึงละได้

๘. จิตตวิปลาส คิดผิดว่าธรรมเป็นตัวตน พระโสดาบันละได้

๙. ทิฏฐิวิปลาส เห็นผิดว่ารูปเป็นงาม พระโสดาบันละได้

๑๐. ทิฏฐิวิปลาส เห็นผิดว่าเวทนาเป็นสุข พระโสดาบันละได้

๑๑. ทิฏฐิวิปลาส เห็นผิดว่าจิตเที่ยง พระโสดาบันละได้

๑๒. ทิฏฐิวิปลาส เห็นผิดว่าธรรมเป็นตัวตน พระโสดาบันละได้

วิปลาส หรือ วิปัลลาส หมายถึง การเห็นที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ได้แก่ ขณะที่จำผิด เห็นผิด และ คิดผิด ขณะที่มีการคลาดเคลื่อนจากความจริง ขณะนั้นเป็นกุศลจิต

วิปลาส ซึ่งการเห็นที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง นั้น โดยสภาพธรรมแล้วเป็นกุศลธรรม ขณะใดที่กุศลจิตเกิดขึ้น ขณะนั้นเป็นวิปลาส ซึ่งเป็นการเห็นคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ คือ เห็นว่าเที่ยงในสภาพธรรมที่ไม่เที่ยง เห็นว่าเป็นสุขในสภาพธรรมที่เป็นทุกข์ เห็นว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล ในสภาพธรรมที่ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เห็นว่างามในสภาพธรรมที่ไม่งาม บุคคลผู้ที่จะละวิปลาสทั้งหมดได้อย่างเด็ดขาด ต้องเป็นพระอรหันต์เท่านั้น สำหรับผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่นั้น จึงยังไม่พ้นไปจากวิปลาส

ซึ่งขณะที่ดูทีวีแล้วเกิดอกุศล เกิดความติดข้อง สัญญาเจตสิกเกิดกับจิตทุกประเภท ขณะนั้น เป็นสัญญาเจตสิกที่เกิดกับอกุศลจิต ขณะนั้น จึงเป็นสัญญาวิปลาสด้วย ซึ่งในความเป็นจริง แม้จะไม่ได้ดูหนัง แต่เกิดอกุศลจิตในขณะนี้โดยไม่รู้ตัว ขณะนั้น ก็เป็นสัญญาวิปลาส แม้ในขณะนี้แล้ว ครับ

ในชีวิตประจำวันของบุคคลผู้ที่ยังมีกิเลส ย่อมเป็นผู้ถูกกิเลสกลุ้มรุมจิตใจทำให้จิตใจเศร้าหมองอยู่เป็นประจำ ยังไม่พ้นไปจากวิปลาส ซึ่งไม่ใช่เฉพาะวันนี้ชาตินี้เท่านั้น เคยเป็นอย่างนี้มาแล้วนับชาติไม่ถ้วน เมื่อไม่ได้ฟังพระธรรม ไม่ได้ศึกษาพระธรรม เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องตามความเป็นจริงแล้ว การที่จะดับกิเลสให้หมดไปนั้น ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ จึงต้องเริ่มฟัง เริ่มศึกษาพระธรรม เพื่อสะสมปัญญาต่อไป เพราะเหตุว่ากิเลสที่มีมาก ต้องอาศัยปัญญาเท่านั้น จึงจะดับได้ และปัญญาจะเกิดขึ้นได้นั้น ก็ต้องอาศัยการอบรมเจริญในชีวิตประจำวัน ด้วยการฟัง การศึกษาบ่อยๆ เนืองๆ สะสมไปทีละเล็กทีละน้อยนั่นเอง ที่สำคัญ จะขาดการฟังพระธรรมไม่ได้เลยทีเดียวครับ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

วิปัลลาสสูตร ... วันเสาร์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
papon
วันที่ 21 ม.ค. 2557

เรียน อาจารย์ทั้งสองท่าน

การเพลิดเพลินในทีวีมีวิปลาสอะไรบ้างครับในวิปลาส ๓ อาการ ๔ ขอความอนุเคราะห์ ด้วย ครับ

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 21 ม.ค. 2557

เรียน ความเห็นที่ 2 ครับ

ขณะที่ติดข้อง ยินดีพอใจ ในเรื่องที่ดูในทีวี ไม่ได้มีความยึดถือ เกิดความเห็นว่ามีเรา มีสัตว์ บุคคลจริงๆ ขณะนั้นก็เป็นเพียงสัญญาวิปลาส และ จิตตวิปลาส แต่เมื่อใด ที่ดูแล้ว สำคัญว่า มีสัตว์ บุคคล ในนั้นจริงๆ หรือ สำคัญว่า เที่ยง เป็นต้น ด้วยความเห็นผิด ขณะนั้น ก็มีทั้ง สัญญาวิปลาส จิตตวิปลาส และ ทิฏฐิวิปลาส ครับ

เพราะฉะนั้น ก็ต้องพิจารณาทีละขณะจิตไปในขณะที่ดูทีวี ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
papon
วันที่ 21 ม.ค. 2557

เรียน อาจารย์ทั้งสองท่าน

ขณะที่ดูทีวี แล้วพิจารณาว่าขณะนั้นเห็นสีที่มีการเกิดดับสืบต่อและเป็นบัญญัติเรื่องราวเป็นวิปลาสแบบไหนครับ ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
paderm
วันที่ 21 ม.ค. 2557

เรียน ความเห็นที่ 4 ครับ

ขณะที่เกิดกุศลจิต พิจารณาถูกต้อง ขณะนั้น ไม่มีความวิปลาสเกิดขึ้น ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
khampan.a
วันที่ 21 ม.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เป็นความจริงในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะกล่าวถึงเรื่องใด ก็ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงๆ แม้แต่ขณะที่เป็นความเพลิดเพลินในสิ่งหนึ่งสิ่งใด เช่น ขณะที่ดูทีวี เป็นต้น ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมจะไม่รู้เลยว่าเป็นธรรม และเป็นอกุศลด้วยในขณะที่เพลิดเพลินติดข้องยินดีพอใจ และในขณะที่เป็นอกุศล ที่มีความติดข้องยินดีพอใจโดยที่ไม่มีความเห็นผิดเกิดร่วมด้วย ก็เป็นจิตตวิปลาส เป็นสัญญาวิปลาส ล้วนเป็นธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ปัญญาเท่านั้นที่จะรู้ถูกเห็นถูกตามความเป็นจริงว่า อกุศลเป็นธรรม ไม่ใช่เรา ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wannee.s
วันที่ 21 ม.ค. 2557

ไม่ดูทีวีก็เป็นวิปลาส เพราะอกุศลเกิดขณะใด ขณะนั้นวิปลาส ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
papon
วันที่ 21 ม.ค. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
panasda
วันที่ 22 ม.ค. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 22 ม.ค. 2557

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
peem
วันที่ 25 ม.ค. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
chatchai.k
วันที่ 26 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ