การเห็นครั้งหนึ่งๆ ประกอบด้วยกี่ขันธ์ค่ะ

 
wkedkaew
วันที่  2 ม.ค. 2557
หมายเลข  24278
อ่าน  1,043

การเห็นครั้งหนึ่งๆ ประกอบด้วยกี่ขันธ์ค่ะ

ขอบคุณค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 2 ม.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขันธ์ หมายถึง สภาพธรรมที่มีจริง เป็นสภาพธรรมที่ทรงไว้ซึ่งความว่างเปล่าจากความเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล เกิดแล้วก็ดับไป ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ขันธ์ มี ๕ ได้แก่ รูปขันธ์ (ได้แก่รูปธรรมทั้งหมด) สัญญาขันธ์ (สัญญาเจตสิก สภาพธรรมที่จำ) เวทนาขันธ์ (เวทนาเจตสิก สภาพธรรมที่รู้สึก) สังขารขันธ์ (เจตสิกธรรม ๕๐ มีผัสสะ เจตนา เป็นต้น) และ วิญญาณขันธ์ (จิตทุกประเภท) ต่างก็เป็นสภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย แล้วก็ดับไปทั้งสิ้น ทุกขณะไม่พ้นไปจากขันธ์ เพราะมีสภาพธรรมเกิดขึ้นเป็นไปอยู่ตลอด จักขุวิญญาณ หรือ จิตเห็นสภาพรู้แจ้งอารมณ์ทางตา หมายถึง อเหตุกวิบากจิต ๒ ดวง ซึ่งเกิดที่จักขุวัตถุ (จักขุปสาท) ทำทัสสนกิจ (เห็น) คือ รับรู้รูปารมณ์ที่กระทบทางตา (เห็น) เป็นกุศลวิบาก ๑ ดวงรับรู้สีที่ดี เป็นอกุศลวิบาก ๑ ดวง รับรู้สีที่ไม่ดี จักขุวิญญาณเกิดร่วมกับอุเบกขาเวทนาทั้ง ๒ ดวง ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เมื่อจิตเกิดขึ้นก็ต้องมีเจตสิกเกิดร่วมด้วยเสมอ ดังนั้น จักขุวิญญาณ จิตเกิดขึ้นก็ต้องมีเจตสิกเกิดร่วมด้วย มีทั้งหมด ๗ เจตสิกที่เกิดร่วมด้วย คือ

๑. ผัสสเจตสิก เป็นสภาพที่กระทบอารมณ์

๒. เวทนาเจตสิก เป็นสภาพที่รู้สึก หรือเสวยอารมณ์

๓. สัญญาเจตสิก เป็นสภาพที่จดจำ หรือคุ้นเคยในอารมณ์

๔. เจตนาเจตสิก เป็นสภาพที่ตั้งใจ จงใจ

๕. เอกัคคตาเจตสิก เป็นสภาพที่ทำให้จิตตั้งมั่น เป็นหนึ่งในอารมณ์

๖. ชีวิตินทริยเจตสิก เป็นสภาพที่รักษาสัมปยุตธรรมให้มีชีวิตอยู่ได้

๗. มนสิการเจตสิก เป็นสภาพที่สนใจ ทำให้จิตมุ่งตรงต่ออารมณ์

ขณะที่จิตเห็นเกิดขึ้น มี จิต ที่เกิดขึ้น คือ วิญญาณขันธ์ และ มีเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย คือ เวทนาเจตสิก เป็นเวทนาขันธ์ และ มีสัญญาเจตสิกเกิดร่วมด้วย เป็น สัญญาขันธ์ และมีผัสสเจตสิก เจตนาเจตสิก เอกัคคตาเจตสิก ชีวิตินทริยเจตสิก มนสิการเจตสิก ทั้ง ๕ เจตสิกนี้เป็น สังขารขันธ์

เพราะฉะนั้น จึงสรุปได้ว่า เมื่อ จิตเกิดขึ้น มีขันธ์เกิดขึ้น ทั้งหมด ๕ ขันธ์ คือ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และ วิญญาณขันธ์ และมี รูปขันธ์ ที่เป็นอารมณ์ของจิตเห็น คือ สี ที่เป็นสิ่งที่ปรากฏทางตา เพียงแต่จิตเห็น ไม่เป็นปัจจัยให้เกิด รูปในขณะนั้น แต่ จิตเห็น กำลัง มีรูป เป็นอารมณ์ คือ กำลังเห็น สี นั่นเอง ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wkedkaew
วันที่ 2 ม.ค. 2557

กราบขอบพระคุณค่ะ อาจารย์ พอดีเพื่อนในเฟสสงสัย ขอรบกวนเอาคำตอบไปตอบให้เพื่อนนะคะอาจารย์

กราบขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ

สวัสดีใหม่นะคะ อ. ขอให้มีความสุขนะคะ

ขอบคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 2 ม.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เป็นการแสดงถึงสิ่งที่มีจริงๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไปในขณะนี้จริงๆ ก็เป็นการเพิ่มพูนความมั่นคงในความเป็นจริงของธรรมว่า ธรรม คือ สิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ทุกขณะไม่เคยขาดธรรมเลย มีธรรมเกิดขึ้นเป็นไปอยู่ตลอดอย่างไม่ขาดสาย เมื่อกล่าวโดยประมวลแล้ว ก็คือ เป็นนามธรรม (สภาพรู้ ธาตุรู้ ซึ่งได้แก่ จิต สภาพธรรมที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์ และ เจตสิก สภาพธรรมที่เกิดร่วมกับจิต) และ รูปธรรม สภาพธรรมที่ไม่รู้อะไร ไม่ใช่สภาพรู้ ไม่ใช่ธาตุรู้ เช่น ตา หู สี เสียง เป็นต้น เหล่านี้ คือ สภาพธรรมที่มีจริงๆ ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม จะไม่สามารถรู้ได้เลย เพราะฉะนั้นแล้ว จะมีความเข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริง ต้องเริ่มต้นที่การฟังพระธรรม ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย จริงๆ

เมื่อกล่าวถึง "เห็น" ก็ต้องตั้งต้นว่า เป็นธรรม เป็นสิ่งที่มีจริงๆ เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ใครๆ ก็บังคับให้เห็นเกิดหรือไม่ให้เกิดได้ เพราะเกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ในขณะที่เห็นเกิดขึ้นนั้น ก็ต้องมีสภาพธรรมที่มีจริงๆ ที่ประชุมพร้อมกันในขณะนั้น ได้แก่ จะต้องมีตา อันเป็นที่อาศัยของจิตเห็นจะต้องมีเจตสิก ๗ ประเภท เกิดพร้อมกับจิตเห็น และ มีสีเป็นอารมณ์ของจิตเห็นซึ่งก็เป็นขันธ์ ทั้งหมดเลยในขณะนั้น ทั้งที่เป็นรูปขันธ์ และ นามขันธ์ (สัญญาเวทนา สังขารขันธ์ และวิญญาณขันธ์) เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป ไม่ใช่เรา ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 2 ม.ค. 2557

ขณะที่เห็นมีทั้งรูปและนาม ต้องมีปัญญาจึงจะรู้ว่าเป็นธรรมอย่างหนึ่งไม่ใช่เรา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
mon-pat
วันที่ 3 ม.ค. 2557

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 23 มี.ค. 2557

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ และขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
danai2523
วันที่ 31 ส.ค. 2557

สาธุ...

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
kullawat
วันที่ 14 ส.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 21 พ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ