โมหะไม่ได้เกิดกับวิบากจิต

 
papon
วันที่  8 ธ.ค. 2556
หมายเลข  24146
อ่าน  1,430

เรียน อาจารย์ทั้งสองท่าน

ท่านอาจารย์บรรยายในพระอภิธรรมพื้นฐานว่า "โมหะไม่ได้เกิดกับวิบากจิต" ขอความอนุเคราะห์อาจารย์ช่วยแปลความหมายด้วยครับ

ขออนุโมทนาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 8 ธ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระผู้มีพระภาคทรงแสดงพระธรรม โดยใช้พยัญชนะที่หลากหลาย แต่ทั้งหมดก็เพื่อส่องให้ถึงอรรถของสภาพธรรม เพื่อให้เห็นตามความเป็นจริงว่าที่ทรงแสดงนั้นเป็นสภาพธรรม เป็นสิ่งที่มีจริง ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน สำหรับโมหะ กับ อวิชชา ก็เช่นเดียวกัน เป็นลักษณะสภาพธรรมอย่างเดียวกัน ไม่มีการเปลี่ยนแปลง-ลักษณะ ถึงแม้ว่าจะใช้พยัญชนะที่แตกต่างกันก็ตาม ว่าโดยศัพท์ โมหะ มาจาก มุห ธาตุ เป็นไปในอรรถว่า หลง, เขลา แปลง อุ ที่ มุ เป็น โอ สำเร็จรูปเป็น โมหะ (ความหลง, ความเขลา) ส่วน อวิชชา มาจาก น บทหน้า แปลว่า ไม่ (แปลง น เป็น อ) + วิท ธาตุ เป็นไปในอรรถว่า รู้ +ณฺย ปัจจัย + อา ลบ ณฺ แล้วแปลง ทฺย เป็น ช แล้วซ้อน ชฺ สำเร็จรูปเป็น อวิชชา (ความไม่รู้) ครับ โมหะ กับ อวิชชา เป็นสภาพธรรมที่ไม่รู้ ว่าโดยองค์ธรรม ได้แก่ โมหเจตสิกซึ่งเป็นสภาพธรรมที่เกิดกับอกุศลจิต ทุกประเภท ครับ

สำหรับคำถามที่ว่า โมหะ ไม่เกิดกับ วิบากจิต ด้วยเหตุที่ว่า โมหเจตสิก เป็นอกุศลเจตสิก อกุศลเจตสิก จะเกิดกับจิตที่เป็นอกุศลจิตเท่านั้น คือ เป็นอกุศลชาติ อกุศลเจตสิก ที่เป็น โมหเจตสิก เป็นต้น เกิดกับอกุศลจิต ไม่เกิดกับกุศลจิต ไม่เกิด กับ วิบากจิต ไม่เกิด กับ กิริยาจิตด้วย เพราะฉะนั้น โมหะ จึงไม่เกิดกับวิบากจิต กิริยาจิต กุศลจิต เกิด กับ อกุศลจิต เท่านั้น ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 8 ธ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความเป็นจริงของธรรมเป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น อวิชชาหรือโมหะเป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ เป็นความไม่รู้ เป็นอกุศลธรรมที่เกิดร่วมกับอกุศลจิตเท่านั้น และเกิดร่วมกับอกุศลจิตทุกประเภทด้วย จะไม่เกิดกับจิตประเภทอื่นเลย ไม่ใช่เพียงอวิชชาเท่านั้นที่เกิดร่วมกับอกุศลจิต ยังหมายรวมถึงอกุศลเจตสิกประการอื่นๆ ด้วยที่เกิดกับอกุศลจิต ตามควรแก่อกุศลจิตประเภทนั้นๆ นี้คือ ความเป็นจริงของธรรมที่เป็นอกุศลธรรม ความไม่รู้ มีมาก เพราะสะสมมาอย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ และเกิดขึ้นเป็นไปแล้ว ทุกขณะที่จิตเป็นอกุศล หนทางที่จะขัดเกลาละคลายความไม่รู้ ก็คือ หนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญา ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ขณะที่เข้าใจ อวิชชาก็เกิดไม่ได้แล้วในขณะนั้นครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 8 ธ.ค. 2556

โมหะ คือ ความมืด ความไม่รู้ ความไม่ฉลาด ไม่รู้ว่านี่เป็นกุศล นี่เป็นอกุศลไม่รู้ว่านี้เป็นธรรม เป็นเหตุให้วนเวียนในวัฏฏะ เพราะ โมหะ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
papon
วันที่ 8 ธ.ค. 2556

ขอบคุณอาจารย์ทั้งสองท่านครับที่ให้ปัญญาขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 10 ธ.ค. 2556

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ก.ไก่
วันที่ 22 พ.ย. 2563

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 26 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ