ความเข้าใจพระธรรม ทำให้คิดถูกในเหตุบ้านการเมือง

 
Guest
วันที่  22 พ.ย. 2556
หมายเลข  24052
อ่าน  1,796

คำบรรยายท่านอาจารย์สุจินต์ เรื่อง ช่วยชาติให้พ้นภัย

ช่วยชาติให้พ้นภัย

ช่วยชาติให้พ้นภัย ชาติ คือ การเกิด ช่วยให้พ้นภัย แต่ใจเป็นอกุศล ช่วยได้ไหม ช่วยไม่ได้ แต่จะต้องเป็น กุศลธรม และ ช่วยชาติให้พ้นภัยจากเกิดในนรก ด้วยการทำกุศลกรรม และ แนะนำผู้อื่นให้ทำกุศลธรรม ความดี และ ช่วยชาติให้พ้นภัยคือ ช่วยชาติ ให้พ้นจากการเกิดในสังสารวัฏฏ์ แม้แต่การเกิดในสุคติภูมิก็เป็นภัย เพราะไม่เที่ยง ไม่พ้นจากสังสารวัฏฏ์ การช่วยชาติให้พ้นภัยจากการเกิดในสังสารวัฏฏ์ ความไม่รู้ ช่วยได้ไหม ช่วยไม่ได้ แต่ ปัญญา ความเห็นถูกเท่านั้น ที่จะช่วยชาติให้พ้นภัย

คนที่พูดว่าช่วยชาติให้พ้นภัย รู้อะไรหรือเปล่า ถ้าเป็นอกุศลก็ช่วยไม่ได้ แต่ถ้าเป็นกุศลจิต เป็นกุศลจิตชาติ พ้นจากภัย คือ อกุศลแล้ว ช่วยชาติ ให้พ้นจากภัยจากอกุศล ขณะที่เข้าใจพระธรรม เป็นการช่วยชาติให้พ้นภัยแล้ว และ ถ้าทุกคนแต่ละหน่วย แต่ละหนึ่ง ที่มีความเข้าใจพระธรรม ภัยก็ลดลง และ เป็นการช่วยชาติที่ดีที่สุด

กับคำว่า รักประเทศ

อ.กุลวิไล ทำให้ดิฉันนึกถึงท่านอาจารย์เคยบอกว่า ถ้ารักประเทศจริงๆ แล้ว ก็คือ ทุกคนต้องเป็นคนดี

ท่านอาจารย์ ถูกต้องค่ะ

อ.กุลวิไล ขณะนั้นจิตเป็นกุศลค่ะ

ท่านอาจารย์ แล้วมีใครรักประเทศบ้างไหมคะ ถ้ารักก็คือเป็นคนดี รัก แต่ ไม่เป็นคนดี ก็ไม่ชื่อว่ารักจริงๆ ได้ เพราะว่ารักตัวเอง โดยไม่ทำร้ายตัวเองนะคะ แต่ว่า ต้องมีปัญญาจนกระทั่งสามารถที่จะรู้ว่าเป็นธรรมเสมอกันหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นใคร เป็นเพื่อน เป็นศัตรูหรือเป็นใคร ก็คือ เป็นธรรม ถ้าเป็นอกุศล น่าสงสารไหมคะ พร้อมที่จะสงสารเกื้อกูลได้ไหม ถ้าสามารถที่จะทำให้เขาเปลี่ยนจากอกุศลเป็นกุศลได้ เป็นประโยชน์มหาศาลค่ะ ยังโกรธใครอยู่หรือเปล่าคะ?

อ.กุลวิไล ขณะที่โกรธ ก็เป็นภัยที่มองไม่เห็นค่ะท่านอาจารย์

ท่านอาจารย์ ยังผูกโกรธไว้ด้วยหรือเปล่า โกรธแล้วยังไม่หมดเลย ก็ลำบากนะคะ ยังไม่มีฉันทะที่จะเห็นประโยชน์ของการประพฤติปฏิบัติ ตามพระธรรม อย่างนี้ การ ฟังเป็นประโยชน์มากหรือน้อย ก็จะเห็นได้

ถอดคำบรรยายจากท่าน อ.สุจินต์

ความรักประเทศชาติที่แท้จริง คือ เมตตา

ปเทส หมายถึง ถิ่นที่อยู่อาศัย

ชาติ คือ การเกิด

บุคคลรักประเทศชาติ คือ การอยู่รวมกันอย่างมีสุข โดยที่บุคคลนั้นต้องเริ่มด้วย การเป็นคนดี

รักไม่ใช่โลภะ แต่คือ รักด้วยเมตตา ความเป็นมิตร เป็นเพื่อน มุทิตา ยินดีในสุขของคนอื่น ไม่ใช่ด้วยอกุศลจิต ทำร้ายเบียดเบียน หวังร้าย หากมีความเมตตาจริงก็หวังดี พร้อมที่จะทำประโยชน์ เกื้อกูล กว้างขวางไปไม่จำกัดเฉพาะบุคคล หรือชาตินั้น ตั้งแต่บ้าน ถนน ทั้งประเทศ เพื่อนร่วมโลก นั่นคือเมตตาที่เจริญขึ้น

ข้อความจากคุณเมตตา ในเรื่องรักชาติ

ทุกคนก็บอกว่ารักชาติ คุณรักชาติจริงๆ หรือเปล่า

ถ้าคุณรักชาติจริง ก็ต้องเริ่มด้วยการเป็นคนดี การเป็นคนดีและเข้าใจธรรม จะทำให้ผู้นั้นรู้ว่า การเป็นคนดีที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร การอยู่ร่วมกันของคนในชาติอย่างสงบสุข ก็ต้องเริ่มจากกลุ่มเล็กๆ ที่อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข กลุ่มเล็กๆ ที่อยู่ร่วมกันนั้น หากทุกๆ คนมีเมตตาต่อกัน เมตตาคือ ความเป็นมิตร ความเป็นเพื่อนพร้อมที่จะเกื้อกูลช่วยเหลือกัน เมตตาเป็นกุศลธรรม เป็นความดี ที่จะทำให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสงบสุข ไม่วิวาทกัน หากทุกๆ คน เป็นคนดีมีเมตตาต่อกัน จึงจะพูดได้ว่าเป็นผู้รักชาติ

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๒ หน้าที่ 265

ข้อความบางตอนจาก

กกจูปมสูตร

[๒๗๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากจะมีพวกโจรผู้มีความประพฤติต่ำช้า เอาเลื่อยที่มีด้ามสองข้าง เลื่อยอวัยวะใหญ่น้อยของพวกเธอ แม้ในเหตุนั้นภิกษุหรือภิกษุณีรูปใด มีใจคิดร้ายต่อโจรเหล่านั้น ภิกษุหรือภิกษุณีรูปนั้นไม่ชื่อว่าเป็นผู้ทำตามคำสั่งสอนของเรา เพราะเหตุที่อดกลั้นไม่ได้นั้น ภิกษุทั้งหลาย แม้ในข้อนั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า จิตของเราจักไม่แปรปรวน เราจักไม่เปล่งวาจาที่ชั่ว เราจักอนุเคราะห์ผู้อื่นด้วยประโยชน์

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เล่ม ๒ ภาค ๓ ตอน ๓ หน้าที่ 277

มหากัจจายนเถรคาถา

พวกเราที่สมาคมนี้ จักพากันยุบยับในหมู่ชนพวกนั้น พวกใดมารู้สึกตัวว่า พวกเราจักพากันไปสู่ที่ใกล้มัจจุราช ความทะเลาะวิวาทย่อมระงับไป

@ จากข้อความของท่านพระมหากัจจายนะ แสดงชัดเจนว่า เพราะสัตว์โลกไม่รู้ว่า ชีวิตกำลังใกล้ความตายไปทุกขณะ สาระสำคัญของชีวิต คืออะไร คือ ความดี และการศึกษาอบรมปัญญา เพราะฉะนั้น หากพิจารณาถึงความตายแล้ว แทนที่จะมาทะเลาะเบาะแว้งกัน ซึ่งขณะนั้นจะเป็น กุศล ความดี ไม่ได้เลย แต่เป็นอกุศล และยังมีการกระทำที่ไม่ดี มีการรังเกียจ ผูกโกรธกัน เพิ่มอกุศล และ ก็เปล่งวาจาที่ไม่ดี มี วาจาหยาบเป็นต้น ขณะนั้นก็ทำอกุศลกรรม เป็นเหตุให้ไปนรก แทนที่จะช่วยชาติให้พ้นภัย แต่กำลังสร้างภัยให้กับตนเอง อยู่โดยไม่รู้ตัว ครับ

ผู้มีปัญญา พิจารณาสาระสำคัญของชีวิต ในชีวิตที่เหลือน้อย จึงช่วยชาติ คือ ตนเอง เป็นคนดี ศึกษาพระธรรม เมื่อตนเองดีขึ้น สังคมก็ค่อยๆ ดีขึ้น หากแต่ว่าตนเองไม่ดี ไม่ แก้ที่ตนเอง จะทำให้สังคมดีได้อย่างไร

การดำเนินชีวิตด้วยปัญญา เป็นการดำเนินชีวิตที่ประเสริฐสุด เพราะ อยู่ด้วยความเข้าใจ ไม่ผูกโกรธ ไม่มุ่งร้ายกัน ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน และ เป็นการช่วยชาติ ที่ดีที่สุด

จากคำบรรยายท่านอาจารย์สุจินต์ ในเรื่อง การชนะคนพาล ก็เป็นเรื่องที่น่าพิจารณาว่า พระธรรมของพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้อย่างไร ที่เป็นการชนะที่ถูกต้อง ครับ ซึ่งในพระสูตร ท้าวสักกะ กับ ท้าวเวปจิตติจอมอสูร สนทนากัน เป็นการแสดงว่าประโยชน์ตน คือ คุณงามความดี เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ขณะที่เป็นความดี ชนะแล้วแต่ ขณะที่เป็นอกุศล แพ้ในขณะนั้น เพราะ เสียประโยชน์ เพราะฉะนั้น สำคัญที่การแก้ตนเองเป็นสำคัญ

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ หน้าที่ 474

สุภาสิตชยสูตร

ว่าด้วยการแข่งขันคำสุภาษิต

ท้าวเวปจิตติจอมอสูรได้ตรัสคาถานี้ว่า

พวกคนพาลไม่มีผู้กำราบ มันยิ่ง กำเริบ ฉะนั้น นักปราชญ์ผู้มีปัญญา พึง กำราบคนพาลเสียด้วยอาญาอันรุนแรง

[๘๘๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อท้าวเวปจิตติตรัสเช่นนี้แล้ว ท้าวสักกะจอมเทวดาได้ตรัสคาถานี้ว่า

ผู้ใดรู้ว่าผู้อื่นโกรธแล้ว เป็นผู้มีสติ ระงับไว้ได้ เราเห็นว่าการระงับไว้ได้ของ ผู้นั้น เป็นการกำราบคนพาล

[๘๘๑] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อท้าวสักกะตรัสเช่นนี้ ท้าวเวปจิตติจอมอสูรได้ตรัสคาถานี้ว่า

ดูก่อนท้าววาสวะ เราเห็นโทษของ การอดกลั้นนี้แหละ เพราะว่าเมื่อใด คน พาลสำคัญเห็นผู้นั้นว่า ผู้นี้อดกลั้นต่อเรา เพราะความกลัว เมื่อนั้น คนพาลผู้ทราม ปัญญายิ่งข่มขี่ผู้นั้นเหมือนโคยิ่งข่มขี่โคตัว แพ้ที่หนีไป ฉะนั้น

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ หน้าที่ 476

[๘๘๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อท้าวเวปจิตติจอมอสูรตรัสเช่นนี้ ท้าวสักกะจอมเทวดาได้ตรัสคาถาเหล่านั้นว่า

บุคคลจงสำคัญเห็นว่า ผู้นี้อดกลั้นต่อเราเพราะความกลัว หรือหาไม่ก็ตามที ประโยชน์ทั้งหลายมีประโยชน์ของตนเป็นอย่างยิ่ง ประโยชน์ยิ่งกว่าขันติไม่มี ผู้ใดแลเป็นคนมีกำลังอดกลั้นต่อคนทุรพลไว้ได้ ความอดกลั้นไว้ได้ของผู้นั้นบัณฑิตทั้งหลายกล่าวว่าเป็นขันติอย่างยิ่ง คนทุรพลย่อมอดทนอยู่เป็นนิตย์ บัณฑิตทั้งหลายเรียกกำลังของผู้ที่มีกำลังอย่างคนพาลว่ามิใช่กำลัง ไม่มีผู้ใดที่จะกล่าวโต้ต่อผู้ที่มีกำลังอันธรรมคุ้มครองแล้วได้เลย เพราะความโกรธนั้น โทษอันลามกจึงมีแก่ผู้ที่โกรธตอบผู้ที่โกรธแล้ว บุคคลผู้ไม่โกรธตอบผู้ที่โกรธแล้ว ย่อมชื่อว่าชนะสงครามซึ่งเอาชนะได้ยาก ผู้ใดรู้ว่า ผู้อื่นโกรธแล้ว เป็นผู้มีสติระงับไว้ได้ ผู้นั้นชื่อว่าประพฤติประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย คือ ทั้งฝ่ายตนและคนอื่น คนผู้ที่ไม่ฉลาดในธรรม ย่อมสำคัญเห็นผู้ที่รักษาประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย คือ ของตนและคนอื่น ว่าเป็นคนโง่ ดังนี้

คำบรรยายโดย ท่านอาจารย์สุจินต์ ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ มุมไบ อินเดีย ดังนี้

โลกวุ่นวาย เพราะ อกุศล ไม่ใช่เพราะคนใดคนหนึ่ง เพราะฉะนั้น คุณงามความดีแก้ปัญหาได้ แต่ ไม่ใช่เอาความไม่รู้ อกุศลมาแก้ปัญหา ช่วยชาติกันทุกวัน ด้วยการทำดีและศึกษาพระธรรม


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
j.jim
วันที่ 22 พ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
isme404
วันที่ 22 พ.ย. 2556

ขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
isme404
วันที่ 22 พ.ย. 2556

ขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
mouy179
วันที่ 22 พ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
bsomsuda
วันที่ 22 พ.ย. 2556

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
khampan.a
วันที่ 22 พ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
papon
วันที่ 22 พ.ย. 2556

ขออนุโมทนาครับอาจารย์

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
raynu.p
วันที่ 22 พ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
เข้าใจ
วันที่ 22 พ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
wannee.s
วันที่ 22 พ.ย. 2556

โลกวุ่นวาย เพราะ อกุศล ไม่ใช่เพราะคนใดคนหนึ่ง เพราะฉะนั้น คุณงามความดีแก้ปัญหาได้ แต่ ไม่ใช่เอาความไม่รู้ อกุศลมาแก้ปัญหา

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 22 พ.ย. 2556

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาอาจารย์ผเดิมครับ

เป็นข้อคิด ข้อเตือนใจที่ดีและเข้ากับสถานการณ์ดีจริงๆ ทำให้ต้องพิจารณาแล้วพิจารณาอีก เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
orawan.c
วันที่ 22 พ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
เซจาน้อย
วันที่ 22 พ.ย. 2556

"กุศลเท่านั้นที่เป็นที่พึ่ง"

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
peem
วันที่ 22 พ.ย. 2556

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
rrebs10576
วันที่ 24 พ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
rosemary
วันที่ 27 พ.ย. 2556

กราบขอบคุณและขออนุโมธนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
napachant
วันที่ 27 พ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
nong
วันที่ 29 พ.ย. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
chatchai.k
วันที่ 8 เม.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ