ไม่มีตัวตน

 
papon
วันที่  13 ส.ค. 2556
หมายเลข  23375
อ่าน  974

เมื่อได้ศึกษาวิถีจิต พอเข้าใจว่าใน 17ขณะ มีแต่จิตเท่านั้นที่ทำกิจจากภวังคจิต จนถึงตทาลัมพน ไม่มีตัวเราเลยผิดหรือถูกครับ ถ้าผิดช่วยอนุเคราะห์ด้วยครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 14 ส.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

วิถีจิต ก็คือ วิถีทางที่เป็นการเกิดขึ้นเป็นไปของสภาพธรรมที่เป็น จิต เจตสิก เท่านั้น อันแสดงถึงการเกิดขึ้นของสภาพธรรม ไม่มีเรา ไม่มีสัตว์ บุคคลเลย มีแต่ การเกิดขึ้นของสภาพธรรมแต่ละอย่าง เป็นไปแต่ละขณะ การศึกษาเรื่องวิถีจิตที่ ถูกต้อง คือ การเข้าใจว่า ทุกชีวิตที่ดำเนินไป ก็เป็นการดำเนินไปของจิต เจตสิก ที่เกิดขึ้น ไม่มีเราที่จะไปฝืน ไปบังคับ ไปปล่อย ให้สภาพธรรมเกิด หรือไม่เกิด จิต เจตสิกที่เกิดขึ้น ก็มีเหตุปัจจัยให้เกิด และ ก็เกิดไปตามวิถีจิตที่เป็นไป การศึกษาวิถีจิต ประโยชน์แม้ขั้นการฟัง ก็เพื่อเข้าใจความจริงว่า เป็นอนัตตา ไม่ใช่เรื่องของการจำชื่อ แต่เป็นเรื่องที่เข้าใจว่า ทุกอย่างเป็นไปอย่างนั้น

ประโยชน์ของการเข้าใจในเรื่องวิถีจิต ที่เข้าใจถูกว่าเป็นแต่เพียงธรรม ไม่ใช่เรา ย่อมเกื้อกูลต่อการเจริญอบรมปัญญา คือ การเจริญสติปัฏฐานที่เป็นการรู้ความจริง ในขณะนี้ ที่มักเรียกกันว่า ปฏิบัติ ย่อมจะทำให้ปฏิบัติถูก คือ ไม่มีเรา ไม่มีตัวตนที่ จะไปพยายามปฏิบัติ แต่อะไร ปฏิบัติ ธรรมที่ทำหน้าที่ ที่เป็นจิต เจตสิกที่เกิดตาม วิถีจิตที่เป็นไปอย่างนั้น ไม่มีใคร บังคับให้สติ และ ปัญญาเกิด แต่เมื่อวิถีจิตที่เป็น ชวนจิต เกิดสติ และ ปัญญา ก็เป็นไปอย่างนั้น ไม่มีสัตว์ บุคคล ไม่มีเรา ที่จะไป ปฏิบัติเลย การเข้าใจว่า เป็นแต่เพียงธรรม ไม่มีเรา ในวิถีจิต ย่อมจะอบรมเหตุ ให้ เกิดวิถีจิตที่เป็นกุศล เกิดปัญญา ด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมในหนทาง ที่ถูกต้อง ย่อมจะถึง การรู้ความจริง คือ ขณะที่สติและปัญญาเกิด ในชวนจิต ใน วิถีจิตได้ ครับ ดังนั้น ที่ผู้ถามมีความเข้าใจว่า วิถีจิต ไม่มีเรา มีแต่ธรรม เป็นความ เห็นที่ถูกต้องแล้ว ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 14 ส.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความเป็นจริงของสภาพธรรมไม่เคยเปลี่ยน เป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น ธรรมทั้งหลายทั้งปวงเป็นอนัตตา คือ ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน จิตก็เป็น ธรรมที่มีจริงด้วย มีจริงๆ ในชีวิตประจำวัน ทุกขณะไม่เคยขาดจิตเลย มีจิตเกิดดับสืบ ต่อกันอย่างไม่ขาดสาย เป็นอย่างนี้มานานแล้วในสังสารวัฏฏ์ และจะเป็นอย่างนี้ต่อไป อีกเรื่อยๆ เพราะที่จะไม่มีจิตเกิดขึ้นเป็นไปอีกเลย คือ พระอรหันต์ที่ดับขันธปริ- นิพพานแล้ว ไม่มีจิตเกิดขึ้นเป็นไปอีกเลย

ในชีวิตประจำวันก็มีจิต (และเจตสิก) เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ ไม่มีเราเลย ยกตัวอย่าง จิตเห็น เกิดขึ้นทำกิจเห็น แล้วจะเป็นตัวตนได้อย่างไร จิตได้ยิน เกิดขึ้นทำกิจได้ยิน แล้วจะเป็นตัวตนได้อย่างไร เป็นต้น หนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญาเท่านั้นที่จะลอกการยึดถือสภาพธรรมว่า เป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคลได้ ซึ่งจะขาดการฟังพระธรรมไม่ได้เลยทีดียว ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 14 ส.ค. 2556

วิถีจิต คือ จิตที่รู้อารมณ์ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ ถ้าสติปัฏฐานไม่เกิด ก็เป็น ตัวตน เป็นสัตว์ บุคคล แต่ถ้าสติปัฏฐานเกิด ก็รู้ว่าเป็นลักษณะของธรรม ว่าไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
peem
วันที่ 18 ส.ค. 2556

ขอกราบอนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
orawan.c
วันที่ 21 ส.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 2 ก.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ