ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๐๗๓

 
khampan.a
วันที่  13 ม.ค. 2556
หมายเลข  22323
อ่าน  1,335

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

[ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๗๓]

--- เมื่อได้ทำผิดไปแล้ว ก็ย่อมจะทำให้เกิดความเดือดร้อนใจภายหลัง

--- อกุศลที่สะสมไว้ก็เพิ่มขึ้น ถ้ายังไม่ได้ขัดเกลาด้วยการฟังพระธรรม และน้อม ประพฤติปฏิบัติตามทุกประการ ก็ย่อมจะมีเหตุที่จะให้เกิดความเดือดร้อนใจได้บ่อยๆ เนืองๆ

--- ถ้าอดทนไม่ได้ต่อการกระทำทางกาย ทางวาจาของคนอื่น แล้วก็ใช้กิริยาอาการ ที่ไม่เหมาะสม ตนเองย่อมเป็นผู้เดือดร้อนในภายหลังได้

อวิชชาทำให้ไม่รู้คุณของผู้ที่มีอุปการคุณ เพราะฉะนั้น ผู้ใดที่ไม่เป็นผู้ที่กตัญญู

กตเวที ก็เพราะมีอวิชชา ไม่เห็นคุณของผู้มีคุณ จึงไม่รู้คุณ และไม่ประกาศ และไม่มี

ความกตัญญูกตเวทีต่อผู้นั้น

ถ้าปฏิบัติผิด ไม่ใช่กตัญญูกตเวที เพราะฉะนั้น ต้องเป็นผู้ที่ระวังจริงๆ ที่จะต้อง

เป็นผู้ที่เข้าใจพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงอย่างถูกต้อง และก็ประพฤติปฏิบัติ

ตามอย่างถูกต้องด้วย

อกุศลมีมากเหลือเกิน ทางเดียวที่จะคลายอกุศลได้ ด้วยการเจริญกุศล

ขณะใดที่ไม่ใช่กุศล พิจารณาได้เลย ว่า กำลังคิดอะไรในขณะนั้นที่ไม่ใช่กุศล

มักจะคิดถึงคนอื่นในทางที่ไม่ถูก ในทางที่ไม่เข้าใจ ไม่ประกอบด้วยเมตตา

คนไหนโกรธ คนนั้นเป็นทุกข์ เพราะฉะนั้น คนที่ไม่โกรธ ไม่มีคนอื่นจะทำให้

เดือดร้อนได้เลย

เรื่องของอกุศลธรรม ซึ่งเมื่อมีมาก แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นอกุศล ก็ย่อมคิดหาทางที่จะ

แก้ตัวด้วยอกุศลที่เพิ่มขึ้น

ถ้าท่านผู้ฟังมีขันติเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ทีละนิดทีละหน่อยพร้อมทั้งการฟัง

ธรรม และการอบรมเจริญปัญญาและบารมีประการอื่นๆ ก็ย่อมจะถึงที่สุดวันหนึ่ง ด้วยการ

รู้แจ้งอริยสัจจธรรม เพราะเหตุว่าเหตุทั้งหลายย่อมนำมาซึ่งผล เมื่อเหตุมี คือ บารมีทั้ง

หลายอบรมเจริญพร้อม การรู้แจ้งอริยสัจจธรรมก็ย่อมมีได้

ทุกคนต้องจากโลกนี้ไป และบางท่านที่บางขณะระลึกถึงความตาย ก็อาจจะระลึก

ว่า จะไม่เห็นโลกนี้อีกต่อไป เมื่อตายแล้ว จะไม่เห็นโลกนี้อีก โลกนี้จะเปลี่ยนแปลงไป

อย่างไรในแต่ละวันๆ ผู้นั้นไม่สามารถที่จะรู้จะเห็นอีกต่อไปได้ เมื่อจากโลกนี้ไปแล้ว

ก็ไปสู่โลกอื่นเป็นบุคคลอื่นทันที

การที่จะดับกิเลสเป็นเรื่องยาก แต่ก็มีหนทางที่จะอบรมเจริญปัญญาที่จะดับกิเลส

ได้ มีทางที่ปัญญาจะเจริญขึ้น จนกระทั่งสามารถจะหมดความสงสัยในสภาพธรรมที่

กำลังปรากฏ ไม่พ้นวิสัยที่จะค่อยๆ อบรมเจริญไป

การอบรมเจริญปัญญา ต้องเป็นการอบรมเจริญความรู้ของตนเอง แม้พระผู้มี

พระภาคผู้ตรัสรู้แล้ว ก็ยังไม่สามารถที่จะปลดเปลื้องความสงสัยในธรรมของใครๆ ได้

นอกจากผู้นั้นจะอบรมเจริญปัญญาของตนเอง

เห็นในขณะนี้เป็นธรรมดา เป็นของธรรมดา ซึ่งบังคับไม่ได้ เป็นธรรมดา คือ เป็น

สภาพธรรมแต่ละอย่างซึ่งเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาเลย

เห็น บังคับไม่ให้เห็นไม่ได้ แข็งที่กำลังปรากฏ บังคับไม่ให้เกิดขึ้นแข็งไม่ได้ ได้ยิน

บังคับไม่ให้ได้ยินไม่ได้ นี่คือสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยตามธรรมดา สิ่งนั้น

ทั้งมวล ล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา คือ ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เป็น

เรื่องธรรมดาจริงๆ ที่พระผู้มีพระภาคตรัสเตือนให้สติเกิดระลึกลักษณะของสภาพธรรม

ที่กำลังปรากฏในขณะนี้

เป็นบุญที่ได้สะสมมาแล้วตั้งแต่ชาติปางก่อน จึงทำให้ได้ฟังพระธรรมในขณะนี้

และเป็นเหตุให้ได้ฟัง ได้ศึกษาต่อไป

ไม่มีใครจะสามารถหยุดยั้งความเกิดขึ้นเป็นไปของสภาพธรรมได้เลย

ถ้าไม่มีความเข้าใจอะไรเลย แล้วไปปฏิบัติ นั่นไม่ใช่พระพุทธศาสนา

บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในขณะที่ฟังและเข้าใจพระธรรม

มีความไม่รู้ ก็ค่อยๆ รู้ขึ้น จึงสามารถละชั่วได้

ขณะที่รู้ ก็ละชั่วที่ไม่รู้

ฟังพระธรรมเข้าใจเมื่อไหร่ ก็รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อนั้น

เวลาที่โทสะเกิดขึ้น คำที่ไม่คิดว่าจะพูด ก็พูด นี้คือ ความจริง

เพราะกิเลส จึงทำให้เบียดเบียนผู้อื่น

ประโยชน์จริงๆ ย่อมไม่พ้นไปจากความดีและการเข้าใจพระธรรม.

ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ ๗๒ ได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๗๒

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่งและขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 13 ม.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตร่วมปันธรรม ด้วยครับ

- ดิฉัน..อนุโมทนาทุกครั้ง และทุกคน ซึ่งมาสู่การฟังพระธรรม ไม่ได้คาดหวัง

เลยว่า ใครจะดีมากดีน้อย เพียงแต่ว่ามีโอกาสที่จะได้ฟังธรรม เข้าใจเพิ่มขึ้น ที่

จะเป็นพืชเชื้อเหมือนเมล็ดพืช ซึ่งจะเจริญเติบโตในภายหน้า เพราะฉะนั้นสิ่งใดๆ

ก็ตามที่จะได้รับ แม้แต่คำอนุโมทนา หรือว่าพูดถึงความดีต่างๆ นานา ก็ไม่ปิติ

เท่ากับที่ได้ทราบว่า แต่ละคนได้เข้าใจธรรมขึ้น เพราะว่าการเข้าใจธรรมเท่านั้น

ที่จะทำให้ ละสิ่งที่ไม่ดีได้ และสามารถจะ รู้แจ้งสภาพธรรมในวันหนึ่งได้ - เหมือนผู้ฟังในครั้งพุทธกาล เมื่อเห็นคุณของพระธรรมแล้ว จะประพฤติอย่างไร

หรือว่าเพียงเห็นคุณแล้วก็ยังคงเหมือนเดิม แต่ถ้า เป็นผู้ที่เห็นบุคคลอื่น ได้กล่าว

เพื่อประโยชน์ให้ตนเองได้เข้าใจถูกได้เห็นถูกแล้ว ก็มีความเห็นถูก ที่จะประพฤติ

ปฎิบัติตาม นั่นคือสิ่งที่เป็นประโยชน์ และเป็นจุดประสงค์ของการที่แม้พระผู้มี

พระภาคเจ้า ก็ทรงพระมหากรุณา ที่ทรงแสดงธรรม เพื่อประโยชน์อันนี้ เพราะ

ฉะนั้น ประโยชน์จริงๆ ไม่ใช่เพียงแต่เห็นความดี หรือว่าเห็นคุณของผู้ที่กล่าวธรรม

แต่ต้องเป็นผู้ประพฤติปฎิบัติตามด้วย นั่นคือสูงกว่าเพียงแต่จะฟัง เพราะเห็นว่าเป็น

สิ่งที่ดีและได้มีผู้ที่ทำหน้าที่อย่างนี้ - ขอขมาพระรัตนตรัยได้ทุกวันค่ะ ไม่มีใครห้ามเลย แต่ว่า ณ สถานที่นั้นเป็น

โอกาสหรือเปล่า ที่จะได้ขอขมาด้วยค่ะ เราไม่ได้เคยขอขมาหมู่เลยใช่ไหมค่ะ

บางคนก็ขอขมาเป็นส่วนตัวใช่ไหม แต่เมื่อถึงเวลานั้นเราก็พร้อมใจกัน ที่จะระลึก

ถึงพระคุณและขอขมา ถ้าเรามีการได้ผิดพลาดในพระรัตนตรัยด้วยประการใดๆ ก็

ตาม เพราะห้ามใจไม่ได้ ใช่ไหมค่ะ บางคนอาจจะคิดในสิ่งที่ไม่สมควรจะคิดเลย

ต่อพระรัตนตรัยก็เป็นได้ เห็นความเป็นอนัตตาของธรรมค่ะ เพราะฉะนั้นก็ส่วนรวม

ก็คือว่า ร่วมกันขอขมาพระรัตนตรัย - ฟังธรรม แล้วถ้าไม่เข้าใจ จะเป็นที่พึ่งได้ไหม เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้ว คือ ความ

เข้าใจ นั่นแหละเป็นที่พึ่งของตัวเอง จะฟังใครยังไง ชื่ออะไรก็ตาม แต่ถ้าไม่เข้าใจ

ก็ไม่ใช่ที่พึ่ง ถ้าเป็นปัญญาของตน เขาก็พึ่งปัญญาของเขาไม่ใช่ปัญญาของคนอื่น

ใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นที่ว่ามีธรรมเป็นที่พึ่ง ก็คือมีปัญญา มีความเห็นถูก เข้าใจถูก

เป็นที่พึ่งไม่เห็นผิด ไม่เข้าใจผิด

- ของที่ทุกท่านให้ดิฉันวันนี้ ไม่ใช่ของดิฉัน แต่เป็นของพระธรรม ค่ะ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 13 ม.ค. 2556

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาอาจารย์คำปั่น อาจารย์ผเดิม และทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ธนัตถ์กานต์
วันที่ 13 ม.ค. 2556

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เข้าใจ
วันที่ 13 ม.ค. 2556

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เมตตา
วันที่ 13 ม.ค. 2556

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของ อ.คำปั่น อ.ผเดิม และทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 13 ม.ค. 2556

"...ถ้าอดทนไม่ได้ต่อการกระทำทางกาย ทางวาจาของคนอื่น

แล้วก็ใช้กิริยาอาการที่ไม่เหมาะสม

ตนเองย่อมเป็นผู้เดือดร้อนในภายหลังได้..."

และ

"...ดิฉัน..อนุโมทนาทุกครั้ง และ ทุกคน ซึ่งมาสู่การฟังพระธรรม

ไม่ได้คาดหวังเลยว่า ใครจะดีมาก ดีน้อย

เพียงแต่ว่ามีโอกาสที่จะได้ฟังธรรม เข้าใจเพิ่มขึ้น

ที่จะเป็นพืชเชื้อ เหมือนเมล็ดพืช ซึ่งจะเจริญเติบโตในภายหน้า

เพราะฉะนั้นสิ่งใดๆ ก็ตามที่จะได้รับ แม้แต่คำอนุโมทนาหรือว่าพูดถึงความดีต่างๆ นานา

ก็ไม่ปิติเท่ากับที่ได้ทราบว่า แต่ละคนได้เข้าใจธรรมขึ้น

เพราะว่า การเข้าใจธรรมเท่านั้น ที่จะทำให้ละสิ่งที่ไม่ดีได้

และ สามารถจะรู้แจ้งสภาพธรรมในวันหนึ่งได้..."

...........

ขอน้อมรับ "คำ" ที่ท่านมีเมตตาเตือน แม้ว่าจะเป็นผู้ที่หลงลืมอยู่บ่อยๆ ก็ตาม

กราบท่านอาจารย์

ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของคุณคำปั่นและคุณเผดิมด้วยครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
nong
วันที่ 14 ม.ค. 2556

- ฟังธรรม แล้วถ้าไม่เข้าใจ จะเป็นที่พึ่งได้ไหม เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้ว คือ ความ เข้าใจ

นั่นแหละเป็นที่พึ่งของตัวเอง....

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
บรรพต
วันที่ 14 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
j.jim
วันที่ 14 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
natural
วันที่ 14 ม.ค. 2556

ขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
rrebs10576
วันที่ 14 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
daris
วันที่ 14 ม.ค. 2556

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
kinder
วันที่ 15 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
jaturong
วันที่ 15 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
panasda
วันที่ 15 ม.ค. 2556

ขอขอบคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของ อ.คำปั่น อ.ผเดิม และทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 15 ม.ค. 2556
ขอขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
Jans
วันที่ 16 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
orawan.c
วันที่ 18 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
boonpoj
วันที่ 6 เม.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ