กรรมของท่านพระมหาโมคคัลลานะ

 
นิรมิต
วันที่  17 ธ.ค. 2555
หมายเลข  22187
อ่าน  24,493

กราบสวัสดีท่านวิทยากรและมิตรธรรมที่เคารพ

มีความสงสัยว่า กรรมในอดีตของท่านพระมหาโมคคัลลานะ ที่ทำให้ท่านถูกโจรทุบ ไม่ทราบเหตุใดจึงเป็นกรรมที่ให้วิบากครับ เพราะเท่าที่ทราบ (ไม่แน่ใจว่าถูกต้องหรือไม่) คือ ท่านยังไม่ได้ฆ่าบิดามารดาของท่านไม่ใช่หรือครับ เพราะเหตุใดจึงมีวิบากให้ท่านตกนรกและมาชาติสุดท้ายจึงถูกโจรทุบตี

ขอบคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 17 ธ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สำหรับกรรมที่ทำให้ท่านพระมหาโมคคัลลานะถูกทุบตีจากพวกโจรและปรินิพพานด้วยเศษของกรรมที่ฆ่าบิดามารดา เพราะ กรรมนั้นให้ผล จึงทำให้ถูกฆ่ามานับชาติไม่ถ้วนด้วยการทุบตีและต้องตกนรกนับชาติไม่ถ้วนเช่นกัน เพราะ เหตุคือ การฆ่าบิดามารดา ซึ่งจากที่ผู้ถามได้กล่าวไว้ครับว่า พระมหาโมคคัลลานะ ไม่ได้ฆ่าบิดามารดา เพียงทุบตี เหตุใดจึงตกนรก ในความเป็นจริงนั้น พระสูตรแสดงไว้หลายส่วนในเรื่องนี้ บางนัยก็กล่าวเพียงย่อ เพียงแค่ทุบตี เช่น ในชาดก อรรถกถาสรภังคชาดกก็กล่าวเพียงแค่ทุบตีบิดามารดา ก็เป็นเพียงการกล่าวเพียงย่อๆ แต่ถ้าในส่วนของอรรถกถา คาถาธรรมบทและอปทาน จะอธิบายละเอียดครับว่า ท่านทุบตีบิดามารดาจนสิ้นชีวิต ถึงแก่ความตาย เพราะผลของกรรมนั้นทำให้ตกนรกหลายแสนปีนับประมาณไม่ได้ และต้องถูกทุบตีจนตายนับชาติไม่ถ้วน เพราะฉะนั้น กรรมถึงความสำเร็จ คือ บิดามารดาถูกทุบตีจนสิ้นชีวิต จึงเป็นเหตุให้ไปอบายภูมิ มี นรก เป็นต้นได้ครับ ซึ่งขอเล่าเรื่องโดยย่อดังนี้ ครับ

ในสมัยพุทธกาล ลาภ สักการะเกิดกับพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก พวกนอกศาสนาเสื่อมลาภ สักการะ จึงเกิดความริษยา จึงคิดกันว่า เพราะอาศัยพระมหาโมคคัลลานะผู้มีฤทธิ์ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญ ลาภสักการะพวกเราเสื่อม ควรที่จะฆ่าพระเถระเสีย จึงจ้างโจร พวกโจรจึงไปล้อมกุฏิพระเถระ พระเถระก็หนีไปทางรูกุญแจด้วยฤทธิ์ หนีไปทางช่อฟ้า จนท้ายที่สุด ไม่สามารถหนีไปได้ เพราะผลของกรรมที่ฆ่าบิดามารดาให้ผล จึงถูกทุบตี จากพวกโจร กระดูกแหลกละเอียด พระมหาโมคคัลลานะ ประสานกระดูกด้วยฌาน ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ทูลลาปรินิพพานและปรินิพพาน พวกโจรถูกพระเจ้าอชาติศัตรูจับได้ และจับพวกนอกศาสนา พระราชาให้ฆ่าอย่างทรมานกับพวกชนเหล่านั้น พระภิกษุประชุมกันว่า กรรม คือการถูกฆ่าของพระมหาโมคคัลลานะไม่สมควรเลย พระพุทธเจ้าตรัสถามว่า พวกเธอประชุมสนทนากันด้วยเรื่องอะไร

พระพุทธเจ้าเมื่อทรงทราบ ทรงตรัสว่า กรรมที่โมคคัลลานะ สมควรแล้ว ทรงตรัสเล่าเรื่องในอดีตกาลว่า สมัยหนึ่ง มีกุลบุตรเลี้ยงมารดาบิดาอยู่ผู้เดียว มารดาบิดาผู้ตาบอด สงสารบุตร จึงนำภรรยามาให้ แต่เพราะภรรยาเป็นคนพาล เพียงอยู่ด้วยกัน ๒-๓ วันก็ไม่อยากให้บิดา มารดาของกุลบุตรผู้นั้นอยู่ จึงกล่าวว่า บอกกับสามีว่า บิดามารดาของท่านทำไม่ดี สามีไม่เชื่อ จึงใส่ร้ายโดยการทำพื้นสกปรก และกล่าวหาว่าบิดามารดาทำ สามีที่เป็นอดีตชาติของพระมหาโมคคัลลานะเชื่อ จึงหาอุบาย โดยการกล่าวกับบิดามารดาผู้ตาบอดว่า จะพาไปเยี่ยมญาติ ระหว่างทาง แกล้งทำเป็นเสียงโจร เพราะความรักลูก ของบิดามารดา จึงไล่ให้ลูกชายหนีไป ส่วนกุลบุตรนั้นก็ทุบตีบิดามารดาจนถึงแก่ความตาย ด้วยกรรมนั้นทำให้ท่านตกนรกเป็นแสนปี และถูกทุบตีตาย ๑๐๐ ชาติ ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 17 ธ.ค. 2555

ดังข้อความในพระไตรปิฎก

[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้าที่ 100

มารดาบิดาสิเนหาในบุตรยิ่งกว่าตน

มารดาบิดาได้ยินเสียงนั้น ด้วยสำคัญว่า "พวกโจรซุ่มอยู่" จึงกล่าวว่า "ลูกเอ๋ยแม่และพ่อแก่แล้ว เจ้าจงรักษาเฉพาะตัวเจ้า (ให้พ้นภัย) เถิด" เขาทำเสียงดุจโจรทุบตีมารดาบิดา แม้ผู้ร้องอยู่อย่างนั้นให้ตายแล้ว ทิ้งไว้ในดง แล้วกลับไป

ผลของกรรมชั่วตามสนอง

พระศาสดา ครั้นตรัสบุรพกรรมนี้ของพระมหาโมคคัลลานะนั้นแล้วตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย โมคคัลลานะ ทำกรรมประมาณเท่านี้ ไหม้ในนรกหลายแสนปี ด้วยวิบากที่ยังเหลือ จึงถูกทุบตีอย่างนั้นนั่นแลละเอียดหมด ถึงมรณะ สิ้น ๑๐๐ อัตภาพ ...

นี่แสดงให้เห็นถึงกำลังของกิเลส แม้จะอบรมปัญญามามากแล้ว แต่เมื่อใดยังเป็นปุถุชนก็สามารถทำกรรมหนักได้ ไม่ควรประมาทในกำลังของกิเลสเลย

ซึ่งจะขออธิบายประเด็นอีกประเด็นในเรื่องนี้ เพราะ อาจจะมีหลายท่านสงสัยอยู่ คือ เหตุใดท่านพระมหาโมคคัลานะ มีฤทธิ์มาก จึงไม่หนีโจร ทำให้โจรทุบได้

ซึ่งในประเด็นนี้ หากได้อ่านจะเห็นว่า พระมหาโมคคัลลานะ ใช้ฤทธิ์หนีโจรหลายครั้งแล้ว จนครั้งสุดท้าย ท่านรู้ว่ากรรมจะให้ผล จึงไม่สามารถหนีได้ ซึ่งในอรรถกถาในส่วนพระไตรปิฎกเล่มอื่นก็อธิบายเพิ่มเติมครับว่า เพราะเหตุที่กรรมจะให้ผล ไม่มีกำลังอะไรจะใหญ่เท่ากำลังคือ กรรม แม้แต่ผู้ที่มีฤทธิ์มาก สามารถทรมานนาคราช ปราบนาคราชได้ ฤทธิ์นั้นก็ถึงความทุรพล คือไม่สามารถมีฤทธิ์ได้ ไม่สามารถเหาะหนีได้ เพราะกรรมให้ผล ครับ ท่านจึงถูกทุบตี ปรินิพพาน ครับ

[เล่มที่ 61] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๗ - หน้าที่ 590

กรรมนั้นไม่ได้โอกาส ตลอดเวลามีประมาณเท่านี้ ตั้งอยู่เหมือนกองเพลิง ถูกเถ้ากลบไว้เฉพาะหน้า แล้ววิ่งเข้าสู่สรีระอันไม่มีที่สุดนี้. ก็กรรมนี้ได้โอกาสในที่ใดย่อมให้ผลในที่นั้นเปรียบเหมือนสุนัขอันนายพรานพบเนื้อแล้วปล่อยให้ไล่ติดตามเนื้อ ทันกันในที่ใดก็กัดในที่นั้น ฉะนั้น ขึ้นชื่อว่าผู้ที่จะพ้นจากกรรมนั้นได้ไม่มีเลย. พระเถระรู้ว่า กรรมที่ตนทำไว้หน่วงเหนี่ยวจึงมิได้หลบหลีกต่อไป. เพราะผลของกรรมนั้น พระเถระจึงไม่สามารถจะเหาะไปในอากาศได้. ฤทธิ์ของพระเถระแม้สามารถทรมานนันโทปนันทนาคราช และสามารถยังเวชยันตปราสาทให้หวั่นไหว ก็ถึงความทุรพลเพราะกำลังแห่งกรรม. โจรจับพระเถระได้ ทุบจนกระดูกของพระเถระ มีขนาดเท่าเมล็ดข้าวสารแหลกละเอียดไป เหมือนบดฟางให้เป็นแป้งฉะนั้น แล้วโยนไปที่หลังพุ่มไม้แห่งหนึ่ง ด้วยสำคัญว่าตายแล้ว


จากเรื่องนี้ จึงเป็นอุทาหรณ์ สำหรับปุถุชน ที่หนาด้วยกิเลส ว่า ไม่มีกำลังอะไรที่ใหญ่เท่ากำลังของกรรม และไม่มีใครหนีกรรมไปได้ ตราบใดที่ยังเวียนว่ายตายเกิดและยังสามารถทำบาปกรรมที่หนักได้ ควรอย่างยิ่งที่จะสะสม อบรมปัญญา เจริญกุศลเท่าที่ทำได้ ในชาติที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ และ โชคดีที่ได้พบพระพุทธศาสนา ใช้เวลาที่มีค่า ที่เหลือน้อย ในสิ่งที่เป็นสาระ สาระคือความเข้าใจพระธรรมและกุศลธรรมที่เกิดขึ้นในจิตใจ ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ใฝ่รู้
วันที่ 17 ธ.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 17 ธ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ตราบใดที่ยังไม่สามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมจนกระทั่งสามารถดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น จะเป็นผู้ประมาทกำลังของกิเลสไม่ได้เลยทีเดียว เพราะเมื่อสะสมกิเลสจนกระทั่งมีกำลังมากขึ้นๆ ก็จะเป็นเหตุให้กระทำอกุศลกรรม อย่างหนักๆ ที่เป็นอนันตริยกรรมได้ ความเป็นปุถุชนมีโทษมากอย่างนี้ จึงจะเป็นผู้ประมาทไม่ได้เลยทีเดียว

จากเหตุการณ์ในอดีตที่เป็นอดีตอกุศลกรรมของท่านพระมหาโมคคัลลานะ ก็เป็นเครื่องเตือนที่ดีสำหรับผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่อย่างแท้จริง เพราะอกุศลกรรมให้ผลเป็นทุกข์นำมาซึ่งความเดือดร้อนทั้งในโลกนี้และในโลกหน้าไม่เป็นประโยชน์แก่ใครๆ เลย

ควรหรือไม่ที่จะเป็นผู้อยู่ด้วยความประมาทประกอบแต่อกุศลกรรม โดยที่ไม่ได้สร้างคุณงามความดีเลย? อกุศลกรรมที่เคยได้กระทำมาแล้วในอดีต ก็มีมากมาย ซึ่งเราไม่สามารถจะไปลบล้างหรือแก้ไขได้ แต่สามารถเริ่มต้นใหม่ได้ ด้วยกุศลธรรม

ดังนั้น ในแต่ละวันจึงควรที่จะเป็นโอกาสของการสะสมกุศล รวมทั้งการอบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจพระธรรม จากการฟังพระธรรมเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะเป็นที่พึ่งในภายหน้าสำหรับตนเองอย่างแท้จริง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 17 ธ.ค. 2555

พ่อแม่ท่านมีพระคุณมากเปรียบเหมือนพระอรหันต์ในบ้าน การทุบตีพ่อแม่ก็เป็นบาปมาก ทำเหตุไม่ดีก็ต้องได้รับผลของกรรมที่ทำไว้ เพราะฉะนั้น บุญคุณของพ่อแม่ทดแทนไม่หมด ไม่ควรทำร้ายท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ใฝ่รู้
วันที่ 17 ธ.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
daris
วันที่ 17 ธ.ค. 2555

ได้เคยสงสัยเกี่ยวกับการปรินิพพานของท่านพระมหาโมคคัลลานะเหมือนกัน ตอนนี้หายสงสัยแล้วครับ

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ธนัตถ์กานต์
วันที่ 17 ธ.ค. 2555

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
นิรมิต
วันที่ 17 ธ.ค. 2555

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
j.jim
วันที่ 18 ธ.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
เซจาน้อย
วันที่ 18 ธ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"ไม่มีกำลังอะไรที่ ใหญ่เท่ากำลังของกรรม และ ไม่มีใครหนีกรรมไปได้"

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
Noparat
วันที่ 18 ธ.ค. 2555

อกุศลกรรมให้ผลเป็นทุกข์ นำมาซึ่งความเดือดร้อนทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า ไม่เป็นประโยชน์แก่ใครๆ เลย ควรหรือไม่ที่จะเป็นผู้อยู่ด้วยความประมาทประกอบแต่อกุศลกรรมโดยที่ไม่ได้สร้างคุณงามความดีเลย?

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
captpok
วันที่ 18 ธ.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
jaturong
วันที่ 20 ธ.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
Chi
วันที่ 8 พ.ค. 2559

ขออนุโมทนาสาธุครับ

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
chatchai.k
วันที่ 21 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ