บุคคลผู้ทรงปริยัติ ย่อมไม่พ้นไปจากทุกข์ หามีไม่

 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่  6 ธ.ค. 2555
หมายเลข  22138
อ่าน  2,711

ข้อความบางตอนจากคำบรรยายพระธรรม เรื่อง จิตปรมัตถ์ เล่ม ๒

โดย ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวรเขตต์

ท่านอาจารย์สุจินต์   ซึ่งข้อความใน สัมโมหวิโนทนี อรรถกถาขุททกวัตถุ วิภังค์ ปาปิจฉตานิทเทส อธิบายว่า "ความปรารถนาลามก” ซึ่งทำอาการต่างๆ ให้พวกมนุษย์เลื่อมใส มีข้อหนึ่งที่กล่าวว่า แม้ผู้มีปัญญาทราม ก็จะนั่งในท่ามกลางอุปัฏฐากทั้งหลาย กล่าวอยู่ว่า “เราย่อมสละปริยัติ” ดังนี้ เป็นต้น ด้วยคำว่า เมื่อเราตรวจดูหมวด ๓ แห่งธรรมอันยังสัตว์ให้เนิ่นช้าในมัชฌิมนิกายอยู่ มรรคนั้นแหละมาแล้วพร้อมด้วยฤทธิ์ ชื่อว่า “ปริยัติ” ไม่เป็นสิ่งที่กระทำได้ยากสำหรับพวกเรา การสนใจในปริยัติย่อมไม่พ้นไปจากทุกข์

นี่คือผู้ที่มีปัญญาทราม แต่ด้วยความปรารถนาลามก ก็ปรารถนาที่จะให้บุคคลอื่นเห็นว่า ตนเป็นผู้ที่มีปัญญา เพราะฉะนั้น ก็กล่าวว่า ชื่อว่า “ปริยัติ” ไม่เป็นสิ่งที่กระทำได้ยากสำหรับพวกเรา การสนใจในปริยัติย่อมไม่พ้นไปจากทุกข์ เพราะเหตุว่า แสดงว่า ตนเองปฏิบัติ และมรรคนั่นแหละมาแล้วพร้อมด้วยฤทธิ์ ชื่อว่า “ปริยัติ”

นี่เป็นผู้ที่มีปัญญาทราม แต่ปรารถนาจะให้คนอื่นเห็นว่า “ต้องปฏิบัติแล้วสละปริยัติ” เพราะเหตุว่าการสนใจในปริยัติย่อมไม่พ้นไปจากทุกข์ ดังนี้ ย่อมแสดงซึ่งความที่ตนเป็นคนมีปัญญามาก โดยการกล่าวอย่างนั้น ก็เมื่อภิกษุนั้นกล่าวอยู่อย่างนี้ ชื่อว่า “ย่อมทำลายพระศาสนา” ชื่อว่า “มหาโจรเช่นกับบุคคลนี้ย่อมไม่มี” เพราะว่า บุคคลผู้ทรงพระปริยัติ ย่อมไม่พ้นไปจากทุกข์ หามีไม่

ท่านผู้ฟังเห็นประโยชน์ของการศึกษาปริยัติ หรือ เห็นว่าไม่สมควรจะศึกษา

ผู้ถาม   คำพูดอันนี้ผมได้ยินมากทีเดียว แต่เพิ่งจะรู้เมื่ออาจารย์ยกอรรถกถาขึ้นมาว่า ผู้ที่พูดเช่นนี้ เป็น “มหาโจรปล้นพุทธศาสนา” แท้ที่จริงมีพระสายกัมมัฏฐานมากรูปทีเดียวว่า ผู้ที่จะพ้นทุกข์นี้ จะต้องปฏิบัติอย่างเดียว ปริยัตินี้ทำให้พ้นทุกข์ไม่ได้ คำพูดอย่างนี้มีอยู่ในพระสายกัมมัฏฐานมากมายและท่านพูดบ่อยเสียด้วย

ภิกษุ   ที่อาตมาศึกษามาตั้งแต่เป็นฆราวาสทุกสำนัก อาตมาฟังวิทยุ สำนักไหนดี ไป เข้าไม่ได้โยม เต็ม ลำบาก ทำจนหมดปัญญา สุดปัญญา สมาธิทำจนเป็นไข้มาลาเรีย ไม่รู้เอาเลือดเข้าแลกเพื่อให้ได้สมาธิ ทำจนหมดปัญญา คิดว่า ศาสนาไม่มีอะไรเลย ต่อมาฟังอาจารย์กิตติ นิยายอิงธรรมะ

ฟังอาจารย์สุจินต์ก็ฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็ทนฟังจนเข้าใจ เมื่อเข้าใจก็หมดปัญหา ชีวิตอาตมาเท่าที่ผ่านมา เกิดชาติใดฉันใด บุญกุศลที่ทำ ขอให้เจอนักปราชญ์ แล้วก็เจอจริงๆ ชีวิตอาตมาปลื้มใจที่สุดเจออาจารย์สุจินต์ชุบชีวิตอาตมาขึ้นมาก ปลื้มใจมากเพราะลำบากมาก ไปทุกสำนัก เพราะว่าอาตมาเกิดมาเป็นคนโลภมาก กลัวตาย สาเหตุที่ไปเพราะกลัวตาย ยังสร้างกุศลน้อย อยากจะสร้างบุญเยอะๆ ไปทุกสำนัก ทำเท่าไรๆ ก็ไม่ได้ เบื่อ ที่มาได้นี้อาศัยโยมอาจารย์สุจินต์ อาตมาก็ไม่รู้จะทดแทนอะไร จะทดแทนคือ ปฏิบัติตาม วันพระ ๑๕ ค่ำ ทุกวันอุโบสถ ก็อุทิศส่วนกุศลให้ ทั้งๆ ที่อาจารย์ก็ยังมีชีวิตอยู่ ก็แผ่เมตตาให้อาจารย์ ประสบพบความสุข เพราะชีวิตอาตมาอาศัยอาจารย์จึงรอดมาได้

ท่านอาจารย์สุจินต์   ขอกราบนมัสการอนุโมทนาเจ้าค่ะ

ท่านอาจารย์อธิบายให้เห็นความสำคัญของพระปริยัติธรรมได้ชัดเจนมากครับ

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ด้วยความเคารพยิ่ง

ขออนุโมทนากับทุกๆ ท่านด้วยครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
daris
วันที่ 6 ธ.ค. 2555

กราบอนุโมทนาด้วยครับ

เพิ่งได้ฟังตอนนี้ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ขอบพระคุณ คุณผู้ร่วมเดินทาง ที่นำข้อความมาลงให้ได้อ่านครับ ได้ฟังได้อ่านแล้วรู้สึกประทับใจมากครับ

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่งครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
natural
วันที่ 6 ธ.ค. 2555

ดิฉันขอกราบขอบพระคุณ และอนุโมทนาในกุศลจิตท่านอาจารย์สุจินต์ และคณะอาจารย์ทุกท่าน ผู้ร่วมสนทนาและสนใจศึกษาธรรมะ รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าล่วงลับไปแล้ว หรือมีชีวิตอยู่ทุกท่านที่มีส่วนร่วมให้สถานที่ website รายการวิทยุ โทรทัศน์ ดําเนินการเผยแผ่ธรรมะในลักษณะนี้ ถึงแม้ว่าจะยังไม่เข้าใจในธรรมะ แต่อย่างน้อยยังมีสถานที่ที่เปิดโอกาสให้เข้าถึงได้ไม่ยากที่จะค่อยๆ ทำความเข้าใจไปทีละน้อย

ขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 6 ธ.ค. 2555

ปริยัติ คือ การรอบรมให้รู้สิ่งที่มีจริง เข้าใจความจริงของสภาพธรรม ไม่ใช่เพียงจำชื่อได้ ท่องได้ ซึ่งไม่ใช่ปริยัติ ไม่ใช่การเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริง ผู้ที่ไม่เข้าใจสภาพธรรมที่มีจริงที่กำลังปรากฏขณะนี้ ย่อมไม่สามารถพ้นจากทุกข์ได้ กระทู้ บุคคลผู้ทรงปริยัติ ย่อมไม่พ้นไปจากทุกข์หามีไม่ เป็นกระทู้ที่เตือนให้รู้ว่า เมื่อไม่เข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏขณะนี้ แล้วมุ่งปฏิบัติเพื่อให้พ้นทุกข์ ก็ไม่มีทางที่จะพ้นจากทุกข์ไปได้ เพราะไม่ใช่คำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของท่านผู้ร่วมเดินทาง และทุกๆ ท่านด้วยค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
บรรพต
วันที่ 6 ธ.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
khampan.a
วันที่ 7 ธ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลของท่านผู้ร่วมเดินทาง และทุกๆ ท่านด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Graabphra
วันที่ 7 ธ.ค. 2555

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 8 ธ.ค. 2555

... ฟังอาจารย์สุจินต์ก็ฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็ทนฟังจนเข้าใจ เมื่อเข้าใจก็หมดปัญหา ชีวิตอาตมาเท่าที่ผ่านมา เกิดชาติใดฉันใด บุญกุศลที่ทำ ขอให้เจอนักปราชญ์ แล้วก็เจอจริงๆ ชีวิตอาตมาปลื้มใจที่สุดเจออาจารย์สุจินต์ชุบชีวิตอาตมาขึ้นมาก ปลื้มใจมาก ...

กราบอนุโมทนาพระคุณเจ้าครับ

และ ขออนุโมทนาท่านผู้ร่วมเดินทางและทุกๆ ท่านด้วยครับ

เป็นกระทู้ที่มีประโยชน์มาก ช่วยเตือนให้ผู้ที่สนใจในพระศาสนา เข้าใจถูกต้องไม่หลงทาง ไปทำสิ่งใดด้วยความติดข้องต้องการ ด้วยความไม่รู้ อนึ่ง คำว่า ฟัง และ เข้าใจในสิ่งที่ได้ยิน ได้ฟัง หรือคำว่า การฟัง เป็นเหตุให้เจริญปัญญาและแม้คำว่า พหูสูต ที่เคยได้ยินได้ฟังมาแต่เด็ก เมื่อได้ศึกษาธรรม ย่อมรู้ว่าเป็นการแสดงให้เห็นความสำคัญของความรอบรู้ รอบรู้ในอะไร ก็รอบรู้ในปริยัติ จากการฟัง ฟังอะไร? ก็ฟัง ในสิ่งที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดงไว้ เพื่ออะไร ก็เพื่อเข้าใจถูกต้อง โดยมั่นคง เป็นความเห็นถูกในความจริงของสิ่งที่มีจริงๆ ไม่ใช่การคิดเอง เพราะผู้ที่สามารถรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงๆ ได้ มีเพียง ๒ คือ พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เท่านั้น นอกจากนี้ผู้ที่สามารถจะรู้ความจริงได้ ก็มีเพียง สาวก ซึ่งมีความหมายว่า "ผู้ฟัง" นี่เอง ปราศจากปริยัติที่ถูกต้อง ปฏิบัติที่ถูกต้อง จะมีมาแต่ไหน

อนึ่ง ข้าพเจ้าขอยกความบางตอนในอังคุตตรนิกาย ปฐมปัณณาสก์ อวิชชาสูตร เรื่อง อาหารของสติปัฏฐาน มาเพื่อพิจารณาด้วยดังนี้

... ดูกรภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการดังนี้ การคบสัปบุรุษที่บริบูรณ์ย่อมยังการฟังสัทธรรมให้บริบูรณ์ การฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์ ย่อมยังศรัทธาให้บริบูรณ์ ศรัทธาที่บริบูรณ์ ย่อมยังการทำไว้ในใจโดยแยบคายให้บริบูรณ์ การทำไว้ในใจโดยแยบคายที่บริบูรณ์ ย่อมยังสติสัมปชัญญะให้บริบูรณ์ สติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์ ย่อมยังการสำรวมอินทรีย์ให้บริบูรณ์ การสำรวมอินทรีย์ที่บริบูรณ์ ย่อมยังสุจริต ๓ ให้บริบูรณ์ สุจริต ๓ ที่บริบูรณ์ ย่อมยังสติปัฏฐาน ๔ ให้บริบูรณ์ สติปัฏฐาน ๔ ที่บริบูรณ์ย่อมยังโพชฌงค์ ๗ ให้บริบูรณ์ โพชฌงค์ ๗ ที่บริบูรณ์ ย่อมยังวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์ วิชชาและวิมุตตินี้มีอาหารอย่างนี้ และบริบูรณ์อย่างนี้ฯ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เข้าใจ
วันที่ 8 ธ.ค. 2555

ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
prachern.s
วันที่ 8 ธ.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เซจาน้อย
วันที่ 10 ธ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"ปราศจากปริยัติ ที่ถูกต้อง ปฏิบัติ ที่ถูกต้อง จะมีมาแต่ไหน?"

"เมื่อไม่เข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏขณะนี้ แล้วมุ่งปฏิบัติเพื่อให้พ้นทุกข์ ก็ไม่มีทางที่จะพ้นจากทุกข์ไปได้"

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลของท่านผู้ร่วมเดินทาง และทุกๆ ท่านด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 23 มี.ค. 2557

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ และขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
chatchai.k
วันที่ 29 พ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ