โกหกสีขาว - บาปสีขาว

 
Wad
วันที่  26 ส.ค. 2555
หมายเลข  21620
อ่าน  2,993

ขอเรียนถามท่านผู้รู้เกี่ยวกับการสอนเด็กเล็กๆ ด้วยการบิดเบือนความจริง หรือหลอกให้กลัว โดยหวังให้เด็กเชื่อฟัง เช่น ห้ามพูดคำหยาบ เดี๋ยวผีตบปาก ห้ามวิ่งขึ้นบันได เดี๋ยวผีดึงขา โดยอ้างว่านั่นคือ โกหกสีขาว พูดด้วยเจตนาดีต่อเด็กไม่เป็นบาปร้ายแรงอะไร ทั้งๆ ที่ทราบดีว่าโกหก แล้วควรทำหรือไม่คะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 27 ส.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อกุศล หรือ บาป ไม่ว่าจะมาก หรือจะน้อย ก็ไม่ดีด้วยกันทั้งนั้น เปรียบเหมือน คูถ แม้จะมีน้อย แต่ก็มีกลิ่นเหม็น ขณะที่มีเจตนาพูดไม่จริง ขณะนั้นก็เป็นอกุศลแล้ว จะเป็นสีขาว คือ เป็นกุศลไม่ได้ แต่ขณะที่หวังดี อยากให้เป็นคนดี ก็เป็นอีกขณะจิตหนึ่ง ส่วนขณะที่พูดคำไม่จริง ก็เป็นอีกขณะจิตหนึ่ง ที่เป็นอกุศลจิตในขณะนั้น

การพิจารณาธรรมจะต้องพิจารณาทีละขณะจิต คือ จะเอา เหตุการณ์ยาวๆ เป็นเรื่องราวที่มีการเกิดดับสืบต่อ ของจิตแต่ละขณะมาปนกันไม่ได้เลย ครับ ในขณะที่โกหก จึงไม่ใช่สีขาวที่เป็นกุศล แต่เป็นอกุศล ขณะที่เป็นกุศล ชื่อว่าสีขาว บาป อกุศล ไม่ใช่สีขาว เพราะ เป็นธรรม ที่เป็นเครื่องเศร้าหมองของจิต อกุศล ไม่ว่าจะมาก หรือ น้อย ก็ไม่ควรทำโดยประการทั้งปวง ครับ

ดังนั้น การสอนเด็กที่ถูกต้อง ที่จะไม่ให้ทำบาป หรือ ทำบาปน้อยลง คือ ให้เกิดความคิดที่ถูกต้อง เกิดปัญญาของเขาเอง ไม่ใช่การสอนให้เกิดความกลัว เกิดอกุศลมากขึ้นไปอีก แต่ควรสอนให้เข้าใจว่า บาป คืออะไร ไม่ดีอย่างไร ประโยชน์และโทษของการทำบาป และไม่ทำบาป เช่น การพูดคำหยาบ ทำให้ตนเองสะสมวาจาที่ไม่ดี ผลคือ ทำให้ได้ยินคำที่ไม่ดีบ่อยๆ

เราไม่ชอบคำหยาบฉันใด คนอื่นก็ไม่ชอบ คำหยาบฉันนั้น และ การพูดวาจาที่ไม่ดี ก็ทำให้เดือดร้อนทั้งตนเองและผู้อื่น ไม่นำมาซึ่งสิ่งที่ดีงามเลย ตรงกันข้าม หากพูดวาจาที่ดี น่ารัก ก็ทำให้ตนเองสะสมสิ่งที่ดี วาจาที่ดี ผลที่ดี ก็ย่อมเกิดขึ้น และไม่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน จากวาจาที่ดีที่เกิดขึ้นเลย หรือไม่ควรวิ่งขึ้นบันได เพราะ อาจจะทำให้ล้ม และเป็นอันตรายกับตัวเอง เป็นต้น

นี่คือ การสอนให้เด็กรู้จักคิด เกิดปัญญาของตนเอง ส่วนเด็กจะทำหรือไม่นั้น ก็ต้องเข้าใจถึงความเป็นอนัตตา ของสภาพธรรม แต่สำคัญที่ เข้าใจว่า เมื่อปัญญาเจริญขึ้น กุศลก็เจริญขึ้น อกุศลก็น้อยลง เพราะเหตุคือ ปัญญาเจริญขึ้น อันเกิดจากการได้ฟังสิ่งที่ถูกต้อง เป็นเหตุ เป็นผล ตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ครับ

สอนให้เด็กมีเหตุผล รู้จักคิด เป็นปัญญาของตนเอง สำคัญกว่า การสอนโดยไม่มีเหตุผล ไม่ตรงตามความเป็นจริง เพราะ ต่อไป เด็กที่ถูกสอนในแนวทาง ความคิดที่ถูก ย่อมคิดได้ในทางที่ถูก แต่เด็กที่ถูกสอนด้วยเรื่องที่ไม่มีเหตุผล ก็สะสมความไม่มีเหตุผล และก็สามารถทำบาปได้ง่าย เพราะ ความไม่มีเหตุผลนั้น เป็นสำคัญ และ ผู้ใหญ่ที่สอนในทางที่ไม่ถูก ก็สะสมความไม่มีเหตุผล และ เป็นอกุศลในขณะนั้น ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 27 ส.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สิ่งที่มีจริง เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น กุศล เป็น กุศล อกุศล เป็น อกุศล ใครๆ ก็เปลี่ยนแปลงความเป็นจริงของธรรมไม่ได้ ถ้าได้ศึกษาพระธรรมไปตามลำดับ จะเข้าใจได้ว่า พระพุทธศาสนา เป็นคำสอนที่เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของปัญญาและกุศลธรรมทั้งปวง ไม่มีคำสอนแม้แต่บทเดียว ที่จะส่งเสริมให้คนเกิดอกุศล แม้เล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นในกรณีใดๆ ก็ตาม การกล่าวเท็จหรือพูดโกหก แสดงให้เห็นถึงกำลังของกิเลสในชีวิตประจำวัน ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ที่จะกล่าวเท็จก็ยังกล่าวได้

สำหรับการกล่าวเท็จนั้น ถึงแม้ว่าบุคคลอื่น จะไม่รู้ แต่ตัวเองย่อมรู้ก่อนคนอื่น ว่าตนเป็นคนกล่าวเท็จ การกล่าวเท็จ (พูดให้คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง) ล้วนมีเหตุปัจจัย คือ เพราะยังมีกิเลสอยู่นั่นเอง และการกล่าวเท็จนั้น เป็นวจีทุจริต เป็นอกุศลกรรม ผลอย่างหนักทำให้ไปเกิดในอบายภูมิ ถ้าเป็นผลอย่างเบา เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ย่อมทำให้ได้รับคำพูดที่ไม่จริงจากผู้อื่น ขณะที่เป็นอกุศลนั้น ไม่เป็นประโยชน์ ไม่นำความสุขมาให้เลย มีแต่ให้เกิดทุกข์อย่างเดียวเท่านั้น

ไม่ควรแก้ปัญหาอย่างง่ายๆ ด้วยการกล่าวเท็จ เพราะที่กล่าวเท็จนั้น เป็นอกุศลของตนเอง ย่อมไม่ดี อย่างแน่นอน ควรกล่าวเฉพาะคำจริง และเป็นประโยชน์แก่ผู้ฟัง การที่จะเป็นผู้คล้อยตามพระธรรมคำสอน เป็นผู้ตรงและจริงใจได้ ก็ต้องเป็นผู้ที่ได้ฟังพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ จะเป็นเหตุทำให้มีเครื่องนำทางชีวิตที่ดี ว่า อย่างไหน ควรทำ อย่างไหน ไม่ควรทำ คล้อยตามความเข้าใจที่ค่อยๆ เจริญขึ้นไปตามลำดับ

สิ่งที่ผ่านไปแล้ว ก็ผ่านไป ควรเริ่มต้นใหม่ ด้วยกุศลธรรม เห็นโทษของอกุศล แม้จะเล็กน้อยก็ตาม รวมไปถึงการกล่าวเท็จ ด้วย การกล่าวเท็จ ไม่ว่าจะด้วยกรณีใดก็ตาม ล้วนเป็นอกุศล เป็นบาป เป็นสิ่งที่ไม่ดี ถ้าจะว่าไปแล้ว คำจริง ควรจะเป็นคำที่พูดง่ายกว่าคำเท็จ ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ประสาน
วันที่ 27 ส.ค. 2555

เห็นด้วยครับ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เข้าใจ
วันที่ 27 ส.ค. 2555

ไม่ควรหวังผล ของพืชผลที่ไม่ดีครับ

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
kinder
วันที่ 27 ส.ค. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Wad
วันที่ 27 ส.ค. 2555

ขอบพระคุณมากค่ะ ...

" ไม่ควรแก้ปัญหาอย่างง่ายๆ ด้วยการกล่าวเท็จ "

ประโยคนี้เหมาะจะใช้ระลึกถึง ก่อนที่จะพูดอะไรกับเด็กๆ เรามักใช้ถ้อยคำที่จดจำจากผู้ใหญ่ ซึ่งเคยอ้างให้เรากลัว เมื่อครั้งเป็นเด็ก มาใช้ซ้ำอีก ในรุ่นลูกรุ่นหลาน และคำพูดเหล่านั้นก็ส่งต่อกันเรื่อยไป

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pat_jesty
วันที่ 27 ส.ค. 2555

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
mild
วันที่ 27 ส.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง

"ผู้ประมาท เหมือนคนที่ตายแล้ว" อย่าพึงประมาทว่ากุศลเล็กน้อยจะไม่ให้คุณ และอย่าพึงประมาทว่า อกุศลเพียงน้อยนี้ จะไม่ทำให้ต้องตามเดือดร้อน อย่าพึงประมาทในเปลวไฟเพียงน้อยนิด อย่าพึงประมาท แม้ไม้ขีดเพียงก้านเดียว ว่าจะไม่ทำให้ไฟใหม้ใหญ่โต เพราะแม้โมหะที่มากมาย ก็เริ่มจากความหลงผิดเล็กๆ นี่เอง พึงไม่ประมาทในความคิด เพราะคิดบ่อยๆ ก็จะกลายเป็นการกระทำ พึงระวังการกระทำ เพราะจะกลายเป็นนิสัย เป็นสัมมาวายาโมนั่นเอง ท่านผู้รู้ตรัสว่า " กรรมชั่วไม่ทำเสียเลยดีกว่า เพราะกรรมชั่ว ทำแล้วไม่ตามเดือดร้อนไม่มี "

ขออนุโมทนาด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
nong
วันที่ 29 ส.ค. 2555

... คำจริง ควรจะเป็นคำที่พูดง่าย กว่าคำเท็จ ...

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
เมตตา
วันที่ 30 ส.ค. 2555

ความจริงย่อมเป็นความจริง การรู้ความจริงจนถึงที่สุด สามารถหลุดพ้น จากทุกข์ในสังสารวัฏฏ์ได้ แม้แต่สมัยที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงเป็นพระโพธิสัตว์ จะไม่กล่าวคำไม่จริงเลย ผู้ที่อบรมเจริญปัญญาเพื่อถึงความหมดกิเลสได้ ก็ต้องฟังคำจริงที่เป็นวจีสุจริต วจีสัจจะ และน้อมประพฤติปฏิบัติตาม

อะไรเป็นความงามของความจริง ก็คือ กุศลนั่นเองเป็นความงามเป็นสีขาว ซึ่งจะนำไปสู่การรู้แจ้งความจริงได้ในที่สุด ส่วนอกุศลนั้นไม่งาม แม้อกุศลเพียงเล็กๆ น้อยๆ ค่อยๆ สะสมมากขึ้นย่อมมีกำลังเป็นเหตุให้กระทำอกุศลกรรมได้

เพราะฉะนั้นโกหก ก็คือ โกหก จะเป็นสีขาวไม่ได้ บาป ก็คือ บาป เป็นอกุศลจิต ให้ผลเป็นทุกข์แน่นอนที่สุด จึงควรสอนคนไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ให้เป็นผู้ตรงต่อความจริงตั้งแต่ต้น ให้ความเข้าใจธรรม จึงเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์

...ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ด้วยค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
supim
วันที่ 30 ส.ค. 2555

เห็นชอบด้วยและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
papon
วันที่ 30 ธ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 30 ธ.ค. 2556

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ