เมื่อรู้ว่าจะต้องค่อยๆเข้าใจเพิ่มขึ้นๆ ก็ต้องเพียรมากๆหรือ ?

 
ชีวิตคือขณะจิต
วันที่  19 ต.ค. 2554
หมายเลข  19914
อ่าน  1,091

เมื่อรู้ว่าจะต้องค่อยๆ เข้าใจเพิ่มขึ้นๆ ก็ไม่ขวนขวาย หรือต้องพยายามเพิ่มขึ้นๆ ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 19 ต.ค. 2554

เมื่อรู้ว่าจะต้องค่อยๆ เข้าใจเพิ่มขึ้นๆ ก็ไม่ควรประมาท ควรเป็นผู้หมั่นสะสมความ

เข้าใจ ด้วยการฟัง ด้วยการศึกษา ด้วยการค่อยๆ รู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pat_jesty
วันที่ 19 ต.ค. 2554

เหตุย่อมตรงกับผล สะสมเหตุดี คือการค่อยๆ เข้าใจธรรมเพิ่มขึ้น ก็จะเป็นเหตุให้ปัญญาค่อยๆ เจริญขึ้นได้ แต่ไม่ใช่การศึกษาเพื่อหวังที่จะรู้แจ้ง เพราะธรรมเป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย ธรรมเกิดดับและ สะสมอยู่ในจิตตลอดเวลาอยู่แล้ว แม้ไม่ขวนขวาย ไม่พยายาม ขณะนั้นก็

สะสมแล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรประมาททั้งในกุศล หรืออกุศลเพียงเล็กน้อยค่ะ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
นันทภพ
วันที่ 20 ต.ค. 2554

ขอ อนุโมทนา ครับ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมามัมพุทธัสสะ ชีวิต คือ ขณะจิต ครับ ศึกษา (อ่าน ฟัง คิด พิจารณา ถาม จด จำ และ ทำ) นะ ครับ แล้ว จะ เข้าใจ นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ สติระลึกได้ ปัญญารู้ดีรู้ชั่ว แล้ว ละชั่ว ทำแต่ดี และ ทำใจ ให้ สะอาดหมดจด ครับ

ขอ สรรพสัตว์ ทั่ว จักรวาล เป็นสุขๆ เถิด อย่ามีทุกข์กายทุกข์ใจเลย

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เมตตา
วันที่ 20 ต.ค. 2554

เมื่อรู้ว่าพระธรรมนั้นยาก ละเอียด ไม่อาจรู้ได้ด้วยการคิดเอง หรือทำ เพราะฉะนั้น

ควรฟังพระธรรมด้วยความมั่นคงว่าไม่มีทางอื่น มีหนทางเดียวคือการฟังพระธรรมเพื่อ

ความเข้าใจที่ถูกต้องจริงๆ ในสิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้ว่า เป็นเพียงนามธรรม และรูป-

ธรรม อดทนที่จะฟังพระธรรมบ่อยๆ พิจารณาด้วยความรอบคอบให้เข้าใจตรงตามที่

พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา ก็เพื่อให้เข้าใจ

สิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏในชีวิตประจำวัน เพื่อที่จะประพฤติปฏิบัติตามได้ถูกต้อง จน

กว่าสติระลึกรู้ลักษณะสภาพธรรมตรงตามที่ได้ฟัง

...กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนา อ. prachern.s ค่ะ...

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
นันทภพ
วันที่ 21 ต.ค. 2554
อ้างอิงจาก : หัวข้อ 19914 ความคิดเห็นที่ 4 โดย เมตตา

เมื่อรู้ว่าพระธรรมนั้นยาก ละเอียด ไม่อาจรู้ได้ด้วยการคิดเอง หรือทำ เพราะฉะนั้น

ควรฟังพระธรรมด้วยความมั่นคงว่าไม่มีทางอื่น มีหนทางเดียวคือการฟังพระธรรมเพื่อ

ความเข้าใจที่ถูกต้องจริงๆ ในสิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้ว่า เป็นเพียงนามธรรม และรูป-

ธรรม อดทนที่จะฟังพระธรรมบ่อยๆ พิจารณาด้วยความรอบคอบให้เข้าใจตรงตามที่

พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา ก็เพื่อให้เข้าใจ

สิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏในชีวิตประจำวัน เพื่อที่จะประพฤติปฏิบัติตามได้ถูกต้อง จน

กว่าสติระลึกรู้ลักษณะสภาพธรรมตรงตามที่ได้ฟัง

...กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนา อ. prachern.s ค่ะ...

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านด้วยค่ะ

ขอ อนุโมทนา ครับ, ไม่มีข้อโต้แย้ง ครับ, หากว่า ศึกษา (อ่าน ฟัง คิดพิจารณา ถาม จด

จำ และ ทำ) แล้ว จะ รู้ ครับ, หน้าที่ ของเรา คือ ศึกษา ครับ, ผล ตือ วิบากกรรม ครับ,

เพียง อานาปานสติ ก็ บรรลุธรรมได้, จะ เข้าใจ ว่า ชีวิต คือ ขณะจิต ครับ, เจริญสติ นะ

ครับ. นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ, ขอ สรรพสัตว์ ทั่ว จักรวาล เป็นสุขๆ เถิด อย่ามี ทุกข์กาย

ทุกข์ใจเลย, สวัสดี ครับ, หมายเหตุ:- ผม เคย อ่าน คำสอน ของ สมเด็จพระสังฆราช

องค์ปัจจุบัน ว่า สามัญชน ต้องอาศัย สัญญา ใน ขันธ์ ๕ นะ ครับ, ความรู้ ผมได้ จาก

การอ่าน หนังสือ ของ ท่านอาจารย์สุจินต์ มากๆ ครับ, หลวงตา ของผม คือ สมเด็จพระ

ญาณวโรดม วัดเทพศิริรทราวาส ครับ, ผม คง ไม่หลง ตน หรอกครับ, ผม มีบุญ ที่ ได้

เข้ามา สู่ dhammahome.com นี้ ครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
prachern.s
วันที่ 21 ต.ค. 2554

เรียนความเห็นที่ ๕ ครับ

แน่นนอนครับ สำหรับผู้ที่ได้สะสมปัญญา บารมี มาในอดีตมาก ในชาติสุดท้าย

บางท่านเจริญกรรมฐานหมวดใดหมวดหนึ่ง หรือฟังพระธรรมเพียงสูตรเดียว ก็

บรรลุธรรมได้ นั่นคือสมัยครั้งพุทธกาล ยุคกาลสมบัติ แต่ในยุคนี้ไม่ใช่อย่างนั้นครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
นันทภพ
วันที่ 22 ต.ค. 2554
อ้างอิงจาก : หัวข้อ 19914 ความคิดเห็นที่ 6 โดย prachern.s

เรียนความเห็นที่ ๕ ครับ

แน่นนอนครับ สำหรับผู้ที่ได้สะสมปัญญา บารมี มาในอดีตมาก ในชาติสุดท้าย

บางท่านเจริญกรรมฐานหมวดใดหมวดหนึ่ง หรือฟังพระธรรมเพียงสูตรเดียว ก็

บรรลุธรรมได้ นั่นคือสมัยครั้งพุทธกาล ยุคกาลสมบัติ แต่ในยุคนี้ไม่ใช่อย่างนั้นครับ

ขอ อนุโมทนา ครับ, ขอ ขอบพระคุณ ครับ ที่ กรุณาเตือน ครับ, ต้องอาศัยเวลา หลายชาติ, ใน วันหนึ่งๆ มี ชาติ เกิดดับ นับ ไม่ถ้วน, ผม อ่านจาก คำสอน ของ ท่านพุทธทาส ครับ, หากว่า เรา สามารถ รู้ ขณะจิต เรา ก็ พบ แล้ว ครับ, หลวงปูชา วัดหนองป่าพง ว่า "ถ้ารู้ ว่า ยัง ติดสุขหรือทุกข์ เมื่อนั้นแหละ จึงจะถูกได้ ถ้าจิตมันติดสุข ก็ ไม่ต้องสรรเสริญ มัน ถ้าจิตมันติดทุกข์ ก็ ไม่ต้องดูถูก มัน เรา จะได้ ดู มัน ละ ทีนี้" สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระญาณสังวร สอนว่า สามัญชน ต้อง อาศัย สัญญา ใน ขันธ์ ๕ ผม ก็ ทำตาม, เรา มี หน้าที่ ศึกษา ก็ ทำไป, บรรลุธรรม เป็น ลำดับไป ได้ ทุกคน ครับ. ขอ สรรพสัตว์ ทั่ว จักรวาล เป็นสุขๆ เถิด อย่ามีทุกข์กายทุกข์ใจเลย สวัสดี ครับ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ