ถูกโลภะดักไว้

 
เมตตา
วันที่  10 ต.ค. 2554
หมายเลข  19881
อ่าน  1,263

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ ๓๘๙

สูจิโลมสูตร

ว่าด้วยราคะและโทสะมีอัตภาพเป็นเหตุ

[๘๐๙] สูจิโลมยักษ์ จึงถามว่า ราคะ และโทสะ มีอะไรเป็นเหตุ, ความไม่ยินดี ความยินดี และความสยดสยอง เกิดแต่อะไร, ความตรึก ในใจเกิดแต่อะไร แล้วดักจิตไว้ได้เหมือนพวกเด็กดักกา ฉะนั้น.

[๘๑๐] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ราคะและโทสะ มีอัตภาพนี้เป็นเหตุ ความไม่ยินดี ความยินดี และความสยดสยองเกิดแต่อัตภาพนี้ ความตรึกในใจเกิด แต่อัตภาพนี้แล้ว ดักจิตไว้ได้ เหมือน พวกเด็กดักกา ฉะนั้น. อกุศลวิตกเป็นอันมาก เกิดแต่ความ เยื่อใยคือตัณหา เกิดขึ้นในตนแล้วแผ่ซ่าน ไปในวัตถุกามทั้งหลาย เหมือนย่านไทร เกิดแต่ลำต้นไทรแล้วปกคลุมป่าไป ฉะนั้น. ชนเหล่าใดย่อมรู้อัตภาพนั้นว่า เกิดแต่สิ่งใด ชนเหล่านั้น ย่อมบรรเทาเหตุเกิดนั้นเสียได้ ดูก่อนยักษ์ ท่านจงฟัง ชนเหล่านั้นย่อมข้าม ห้วงกิเลสนี้ซึ่งข้ามได้ยาก และไม่เคยข้าม เพื่อความไม่มีภพอีกต่อไป.

จบ สูจิโลมสูตรที่ ๓


อัตภาพ หมายความถึง ทุกข์สัจจ์ ก็ไม่พ้นขณะนี้ ทุกอย่างที่มีจริงที่กำลังปรากฏ

เป็นแต่เพียงจิต เจตสิก รูป ที่ใดที่มีตัวตนของเรา ความจริงก็คือ จิต เจตสิก และ รูป เป็นเพียงสภาพธรรมที่เกิดขึ้นมาเห็น ได้ยิน รู้กลิ่น รู้รส รู้กระทบสัมผัส และคิด เมื่อมีตา หู...และคิด ขณะนี้เอง อัตภาพอยู่ที่นี่ ไม่ไช่พูดถึงที่อื่นเลย แต่ต้องเข้าใจ ขณะนี้อัตภาพของแต่ละคน ก็เพราะมีอัตภาพนี้คือจิต เจตสิก และรูป เกิดขึ้นเมื่อไรก็ เป็นที่เกิดของการยึดถือ ที่เป็นไปของ โลภะ ความติดข้องบ้าง โทสะเกิดบ้าง ตามการ สะสม และเพราะมีอัตภาพนี้จึงตรึกไปในอกุศลวิตกเป็นส่วนใหญ่ซึ่งก็ถูก โลภะ ดักไว้ แล้ว ขณะที่อกุศลเกิดขึ้นถูกโลภะดักไว้ไม่ให้กุศลหรือสภาพธรรมดีงามเกิดขึ้น ขณะที่ กุศลเกิดขึ้นนิดเดียว ก็ถูกโลภะดักไว้ให้อกุศลเกิดต่อทันที หรือขณะที่ฟังพระธรรมอยู่ แล้วงวงงง ขณะนั้นก็ตรึกเป็นไปในอกุศลถูกผูกถูกดักไว้แล้ว หรือขณะที่คิดว่าจะทำ อย่างไรดีจะได้เข้าใจธรรม ขณะนั้น ก็ถูกโลภะดักไว้ ตรึงไว้ไม่ให้เข้าใจธรรม โลภะ เป็นเหตเกิดของทุกข์ เป็นเหตุให้ต้องเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏฏ์ หนทางที่จะบรรเทา โลภะ กิเลสอกุศลต่างๆ ก็ด้วยอริยมรรค ๘ เป็นมรรคภาวนา เป็นการอบรมเจริญความ เห็นถูกเข้าใจถูกในลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ค่อยๆ บรรเทา ละคลายกิเลส จนกว่ากิเลสจะถูกประหานหมดสิ้นเป็นสมุจเฉทด้วยอรหัตมรรค ไม่ถูก โลภะดักไว้ให้เกิดอกุศลวิตกได้อีกต่อไป

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
miran
วันที่ 10 ต.ค. 2554

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
jaturong
วันที่ 10 ต.ค. 2554

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nong
วันที่ 10 ต.ค. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 12 ต.ค. 2554

พี่เมตตา ประกอบด้วยเมตตา คอยอนุเคราะห์เกื้อกูลผู้ศึกษาพระธรรมร่วมกัน (สหายธรรม) ด้วยข้อความธรรมอันมีค่าอย่างยิ่ง อยู่เสมอๆ ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตา ด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pat_jesty
วันที่ 13 ต.ค. 2554

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
สมศรี
วันที่ 14 ต.ค. 2554
ขอบคุณและอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
orawan.c
วันที่ 16 มี.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เซจาน้อย
วันที่ 18 มี.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 6 ก.ย. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ