ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๐๑๗

 
khampan.a
วันที่  25 ก.ย. 2554
หมายเลข  19802
อ่าน  2,350

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมในแต่ละครั้งรวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

[ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๗]

[1] การกล่าวถึงความตาย ก็เพื่อจะให้ได้พิจารณาว่า ความตายย่อมเกิดขึ้นได้ ในวันหนึ่งวันใด ขณะหนึ่งขณะใด ช้าหรือเร็วก็ได้ ชาติหน้าอาจจะเป็นขณะต่อไป วันต่อไป เดือนต่อไป ปีต่อไป ก็ได้ ซึ่งไม่มีใครจะรู้ได้เลย เพราะไม่มีเครื่องหมายบอกให้รู้ว่าชาติหน้าของใครจะเป็นเมื่อไหร่ ดีที่สุด คือ ไม่ประมาทในชีวิต ไม่ประมาทในการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม น้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรม ขัดเกลากิเลสของตนเอง ต่อไป

[2] เกิดมาเป็นบุคคลนี้เพียงชั่วคราว แล้วก็ต้องจากไปสู่ความเป็นบุคคลใหม่ วันสุดท้ายของแต่ละคนในภพนี้ชาตินี้ต้องมาถึงแน่ๆ สิ่งที่ควรจะได้พิจารณา คือ จะจากไปพร้อมกับกิเลสที่มีมากๆ หรือว่าจะจากไปพร้อมกับปัญญาที่ได้อบรมเจริญขึ้นในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่?

[3] ขณะนี้ แต่ละคน กำลังถูกน้ำท่วม คือ ถูกห้วงน้ำคือกิเลส ท่วมจิตใจ ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ ยากที่จะพ้นไปได้

[4] โลภะ ความติดข้องยินดีพอใจ ในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เป็นศัตรูที่ปรากฏเหมือนมิตร เพราะว่าให้แต่ความยินดีพอใจเกิดขึ้น ไม่ว่าอะไรจะปรากฏ ไม่ให้หน่ายไม่ให้ทิ้ง ไม่ให้เห็นโทษ แต่ให้ยินดีไว้ ให้เพลิดเพลินไว้ ให้พอใจไว้ แต่ขึ้นชื่อว่าศัตรูแล้ว ก็เป็นศัตรูอยู่วันยังค่ำ อกุศลธรรม เป็น อกุศลธรรม อกุศลธรรม มีโลภะ เป็นต้น เป็นศัตรูที่แท้จริง

[5] ไม่ว่าจะมีความติดข้องยินดีพอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ สักเท่าใดก็ตาม ผลแท้จริง ซึ่งจะได้รับจาการติด การข้อง การพอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ นั้น คือ ความทุกข์ จากการพลัดพรากจากรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ

[6] ตนเองเป็นผู้ว่าง่าย หรือ ว่ายาก ถ้าว่าง่ายก็ง่ายต่อการเจริญกุศล แต่ถ้าว่ายากก็ยากเหลือเกินที่จะเห็นคุณของกุศล เพราะเหตุว่าถ้าสะสมอกุศลธรรมมามาก ประกอบด้วยมานะ ความถือตน สำคัญตน ประกอบด้วยความเห็นผิด ยึดมั่นในความเห็นผิด แม้ว่าจะได้ยินได้ฟังสิ่งที่มีเหตุผลอย่างไร รู้ด้วยว่าดีและถูก แต่ก็ยังเป็นผู้ว่ายาก ไม่สามารถที่จะกระทำตามได้ เพราะอกุศลธรรมที่ได้สะสมมา นั่นเอง

[7] อกุศลธรรมทั้งหลาย เป็นธรรมชาติที่ตั้งจิตไว้ผิด ส่วนกุศลธรรมทั้งหลายเป็นธรรมชาติที่ตั้งจิตไว้ชอบ ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตนเลย ความเมตตาเป็นกุศลธรรม เกิดขึ้นตั้งจิตไว้ชอบ คือสงเคราะห์ช่วยเหลือคนอื่น แต่ถ้ามานะ ความสำคัญตนเกิดขึ้น ตั้งจิตไว้ผิด ไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องกระทำกิจอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อบุคคลอื่นนั่น อกุศลธรรมเกิดขึ้น ตั้งจิตไว้ผิด ไม่ได้ตั้งจิตไว้ชอบเลย

[8] คามเห็นผิดประการต่างๆ เกิดพร้อมกับโลภะ จึงเลิกยาก เพราะติด เพราะชินเสียแล้วกับความเห็นผิด

[9] กำลังฟังพระธรรมอยู่แท้ๆ ทำไมต้องให้อกุศลธรรม มาเกาะกินจิตใจของตนเองด้วยล่ะ

[10] กรรม ไม่ลืมที่จะให้ผล แม้ผู้ที่กระทำกรรมจะลืมไปแล้วว่าตนเองกระทำกรรมอะไรไว้บ้าง ตั้งแต่เมื่อใด

[11] คิด ก็คิดไม่ดี พูด ก็พูดไม่ดี ทำ ก็ทำไม่ดี แล้วจะให้ผลที่ดีๆ เกิดขึ้นได้อย่างไร

[12] อกุศลกรรมที่ตนเองได้กระทำแล้วเท่านั้น ที่ทำให้ตกนรก ไม่มีบุคคลอื่นทำให้ท่านตกนรกได้เลย

[13] ทุกข์ในโลกมนุษย์ แม้จะหนักหนาสาหัสเพียงใด ก็ยังไม่เท่าทุกข์ในนรก

[14] ถ้าสะสมอกุศลธรรมมามาก ก็ปรุงแต่งจิตให้เกิดขึ้นเป็นไปในทางอกุศล ถ้าสะสมกุศลธรรมมามาก กุศลธรรมทั้งหลายก็เป็นปัจจัยปรุงแต่งให้จิตเกิดขึ้นเป็นไปในกุศลเพียรที่จะฟังพระธรรมต่อไป = วิริยะบารมี อดทนที่จะฟังพระธรรมต่อไป = ขันติบารมี มั่นคงในการฟังพระธรรมต่อไป = อธิษฐานบารมี จริงใจต่อการที่จะฟังพระธรรมเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกต่อไป = สัจจบารมี

[15] ขณะนี้ กำลังอยู่ในหนทางที่จะไปสู่ฝั่งของการดับกิเลส แล้วแต่ว่าจะถึงเมื่อใด สำหรับผู้ที่ศึกษาแล้ว มีความเข้าใจ ก็ได้ชื่อว่า กำลังค่อยๆ เดินทางไปถึงฝั่ง แต่ว่าจะต้องขึ้นเรือที่มีทิศทางที่ดี คือ ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง

[16] เพราะไม่รู้จึงฟังพระธรรม เมื่อฟังพระธรรมเข้าใจ ก็ละแล้วซึ่งความไม่รู้

ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ ๑๖ ได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๖

... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
เมตตา
วันที่ 25 ก.ย. 2554

ขณะนี้ กำลังอยู่ในหนทางที่จะไปสู่ฝั่งของการดับกิเลส แล้วแต่ว่าจะถึงเมื่อใด สำหรับผู้ที่ศึกษาแล้ว มีความเข้าใจ ก็ได้ชื่อว่า กำลังค่อยๆ เดินทางไปถึงฝั่ง แต่ว่าจะต้องขึ้นเรือที่มีทิศทางที่ดี คือ ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง

...ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิต ของ อ.คำปั่น ด้วยค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pat_jesty
วันที่ 25 ก.ย. 2554
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nong
วันที่ 26 ก.ย. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
หลานตาจอน
วันที่ 26 ก.ย. 2554
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
paderm
วันที่ 26 ก.ย. 2554

ขณะนี้ แต่ละคน กำลังถูกน้ำท่วม คือ ถูกห้วงน้ำคือกิเลส ท่วมจิตใจ ทางทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ ยากที่จะพ้นไปได้

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของอาจารย์คำปั่น ด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
orawan.c
วันที่ 26 ก.ย. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 26 ก.ย. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาอาจารย์คำปั่นครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
bsomsuda
วันที่ 26 ก.ย. 2554

"ความเห็นผิดประการต่างๆ เกิดพร้อมกับโลภะ จึงเลิกยาก เพราะติด เพราะชินเสียแล้วกับความเห็นผิด"

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของ อ.คำปั่น และทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
kinder
วันที่ 26 ก.ย. 2554
สาธุ
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
aurasa
วันที่ 27 ก.ย. 2554

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ เป็นที่ประทับใจ และจะเจริญให้ยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ

เพียรที่จะฟังพระธรรมต่อไป = วิริยะบารมี

อดทนที่จะฟังพระธรรมต่อไป = ขันติบารมี

มั่นคงในการฟังพระธรรมต่อไป = อธิษฐานบารมี

จริงใจต่อการที่จะฟังพระธรรม เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกต่อไป = สัจจบารมี

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
wittawat
วันที่ 28 ก.ย. 2554

ทุกบรรทัด ทุกคำ มีประโยชน์มากเลยครับ ให้ตั้งอยู่ในความละอายชั่ว กลัวบาป เพื่อขัดเกลาละ ศัตรูที่เสมือนมิตร คือ โลภะ

ขอขอบพระคุณและอนุโมทนา อ. คำปั่นครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
สมศรี
วันที่ 28 ก.ย. 2554

ได้รับประโยชน์มากจากคำสรุปการบรรยาย ไม่ประมาท ไม่ขาดการฟังพระธรรม ก็ละความไม่รู้ ละความเห็นผิดได้ทีละเล็กละน้อย

ขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์คำปั่น และทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
Noparat
วันที่ 28 ก.ย. 2554

"กรรม ไม่ลืมที่จะให้ผล แม้ผู้ที่กระทำกรรมจะลืมไปแล้วว่าตนเองกระทำกรรมอะไรไว้บ้าง ตั้งแต่เมื่อใด"

ขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
jaturong
วันที่ 5 ต.ค. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
pamali
วันที่ 17 ธ.ค. 2554

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
ms.pimpaka
วันที่ 9 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
jirat wen
วันที่ 9 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
kullawat
วันที่ 1 ส.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
chatchai.k
วันที่ 30 ต.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
Jarunee.A
วันที่ 5 ธ.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ