ปัญญาคือ กำไร

 
เมตตา
วันที่  10 ส.ค. 2554
หมายเลข  18907
อ่าน  1,670

ขณะที่กำลังฟังพระธรรมอยู่ ได้ยินเสียงที่ดีซึ่งเป็นผลของกรรมดีที่เคยกระทำไว้แล้วในอดีต จึงเป็นเหตุให้ได้ยินเสียงพระธรรม และขณะที่ฟัง พิจารณา ไตร่ตรองตามพระธรรมแล้วเข้าใจ ความเข้าใจนั้นเองเป็นปัญญา ขณะนั้นก็กำไร ... ขณะที่กำลังรับผลของกรรมดีอยู่นั้น เช่น ได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส และกระทบสัมผัสสิ่งที่ดี ขณะนั้นไม่ใช่กำไร เพราะขณะนั้นกำลังรับผลของกรรมดีที่เคยกระทำไว้แล้ว จึงเท่าทุน แต่หลังจากเห็น หลังได้ยิน ... แล้วเข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏนั่นแหละ คือ กำไร แต่ชีวิตตามปกติตามความเป็นจริงนั้น ส่วนใหญ่หลังเห็น หลังได้ยิน ... ก็จะเป็นอกุศลเสมอ จึงต้องฟังพระธรรมให้เข้าใจความจริง สะสมความเห็นถูกเข้าใจถูกในสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ ถ้าขณะนี้ได้สะสมความเห็นถูกมาแล้ว หลังเห็น หลังได้ยิน ... ก็สามารถเข้าใจตามความเป็นจริง ปัญญาที่รู้ลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏหลังเห็น หลังได้ยิน จึงเป็นกำไร

ขออนุโมทนาค่ะ ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
แสงจันทร์
วันที่ 10 ส.ค. 2554

เป็นคำแนะนำที่ดีมากครับ เคยได้ยินมาว่าเรามักจะถูกโจรมาปล้นเราทางอายตนะเสมอ ถ้าเรารู้ไม่ทันก็ขาดทุนครับ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 10 ส.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 10 ส.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่เมตตา ด้วยครับ เป็นข้อความธรรมที่เตือนใจได้ดีเป็นอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่ได้ทุนมาดี คือ ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นผลของกุศลกรรม ซึ่งจะเห็นได้ว่า ชีวิตที่ดำเนินไปในแต่ละขณะๆ ของแต่ละบุคคล ก็มีความแตกต่างกันไปตามการสะสม หลังเห็น หลังได้ยิน เป็นต้น จะขาดทุนหรือมีกำไร ก็ขึ้นอยู่กับการสะสมของผู้นั้นจริงๆ

ถึงแม้ว่าในชีวิตประจำวัน จะมีอกุศลจิตเกิดขึ้นมากเพียงใดก็ตาม แต่สำหรับผู้ที่เห็นประโยชน์ของความเข้าใจธรรม เข้าใจความจริง ก็จะไม่ละเลยโอกาสสำคัญในชีวิต คือ การฟังพระธรรม เพื่อความเข้าใจในสิ่งที่มีจริง ซึ่งมีคุณค่ามากมายมหาศาลและขณะที่เข้าใจนั้น เป็นกำไร ที่ไม่มีสิ่งใดจะมาเทียบเท่า นั่นก็คือ ได้สะสมปัญญา เพิ่มขึ้น มีกำไรเพิ่มขึ้น ซึ่งกำไรเพียงแค่นี้ ก็ยังไม่พอ ยังจะต้องฟังต่อไป สะสมต่อไปอีก ไม่ใช่เฉพาะในชาตินี้ชาติเดียว ต้องอาศัยกาลเวลาอันยาวนานทีเดียวในการอบรมเจริญจนกว่าจะถึงความสมบูรณ์พร้อม เพราะปัญญา เงินทองซื้อไม่ได้ ต่อให้มีเงินทองมากมายเพียงใดก็ไม่สามารถซื้อปัญญาได้ แต่มีเหตุที่่จะทำให้ปัญญาเกิดขึ้นได้ เจริญขึ้นได้ คือ มีศรัทธา เห็นประโยชน์ที่เข้าใจความจริงในชีวิตทุกขณะ แล้วก็ฟังต่อไปจนกว่าจะเข้าใจถูกเห็นถูกว่าเป็นธรรม ทั้งหมดทั้งปวงนั้น เพื่อละคลายความไม่รู้ ละคลายความติดข้อง ละคลายความเป็นตัวตน และ ละอกุศลธรรมประการอื่นๆ ด้วย ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตา และ ทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
bsomsuda
วันที่ 10 ส.ค. 2554

"หลังจากเห็น หลังได้ยิน แล้วเข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ นั่นแหละ คือ กำไร''

"จะขาดทุนหรือมีกำไร ก็ขึ้นอยู่กับการสะสมของผู้นั้นจริงๆ "

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตาและ อ.คำปั่นค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ผิน
วันที่ 10 ส.ค. 2554
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
แสงจันทร์
วันที่ 10 ส.ค. 2554

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
pat_jesty
วันที่ 10 ส.ค. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
orawan.c
วันที่ 11 ส.ค. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
nong
วันที่ 12 ส.ค. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Sam
วันที่ 14 ส.ค. 2554

ฟังธรรมแล้วเข้าใจ เป็นกำไร

รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ เป็นกำไร

ประจักษณ์แจ้งลักษณะของธรรม เป็นกำไร

เรามีกำไรได้ เพราะมีทุนคือการได้เกิดเป็นมนุษย์ และมีโอกาสฟังพระธรรม

ไม่ควรมีชีวิตอย่างขาดทุนครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตาและทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
pamali
วันที่ 29 ส.ค. 2554
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
เซจาน้อย
วันที่ 25 ม.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
chatchai.k
วันที่ 17 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ